สิ่งที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดของคนยุคก่อนเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วกับคนยุคปัจจุบันคือโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีผลกับการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก
โซเชียลมีเดียทำให้โลกหมุนเร็วขึ้นเพราะเราสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ง่ายขึ้น ข้อมูลข่าวสารในโลกในสังคมก็อยู่ในมือเราตลอดเวลา ซึ่งก็เป็นข้อดีถ้าเรารู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์ ใช้ซื้อขาย ทำมาหากิน ติดต่อสื่อสาร
อันนี้ใครๆ ก็รู้ แต่ที่เห็นใช้เพื่อความเพลิดเพลินก็มีมาก เช่นมีเรื่องให้เราเผือกได้มากขึ้น เร็วขึ้น มีการแชร์ภาพชีวิตความเป็นอยู่ส่วนตัวในแต่ละวันให้คนได้รับรู้กันผ่านเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม
ทั้งข่าวสารบ้านเมือง ทั้งเรื่องส่วนตัวชาวบ้าน หลั่งไหลเข้ามาผ่านหูผ่านตาเราเป็นปริมาณมหาศาลในแต่ละวัน ยิ่งเผือกยิ่งเพลิน ไถหน้าจอโทรศัพท์ไปเรื่อย เกิดอาการเสพติดข้อมูล หลายคนยิ่งเล่นยิ่งทุกข์โดยไม่รู้ตัว
เพราะเผลอไปเปรียบเทียบภาพชีวิตที่สวยงาม ของชีวิตคนอื่นกับชีวิตตัวเอง ทำให้ตัวเองรู้สึกด้อยค่า กลายเป็นทุกข์
ทำไมคนอื่นเค้ากินดี อยู่ดี เที่ยวแต่ที่สวยๆ ใช้แต่ของดีๆ เจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน คนรุ่นเดียวกันเค้าไปถึงไหนกันแล้ว เรายังไม่ถึงไหนเลย
เคยอ่านบทความ พระไพศาล วิสาโล ท่านบอกว่า ทุกข์เพราะเปรียบเทียบนี่ทุกข์ 2 ต่อเลยนะ
ต่อที่ 1 คือ ทุกข์เพราะไม่พอใจชีวิตตัวเอง
ต่อที่ 2 คือ ทุกข์เพราะอยากได้อย่างคนอื่นเค้า
แต่บางคนเห็นชีวิตกินดี อยู่ดีของคนอื่น แล้วไม่ได้ทุกข์ กลับใช้เป็นแรงบันดาลใจให้ขยันหาช่องทางทำมาหากินเพื่อเป็นอย่าง คนต้นแบบ หรือไอดอลที่ตัวเองติดตามอยู่ (บางคนไปเป็น downline หรือตัวแทนจำหน่าย ไอดอลที่ตัวเองชื่นชอบ แต่ก็มีทั้งรวยและเจ๊งนะครับ)
แปลว่าเหตุการณ์เดียวกันภาพเดียวกัน อยู่ที่คนรับข้อมูลข่าวสารอย่างเรา จะวางใจอย่างไร ดูแล้วท้อ หรือดูให้เป็นแรงบันดาลใจ
เรื่องการวางใจนี้ก็คงเป็นเรื่องที่พระ หรือ ไลฟ์โค้ชชิ่งพูดกันมาเยอะแล้ว ซึ่งก็เป็นประโยชน์จริงสำหรับผู้ที่พิจารณาตามและเอาไปปรับใช้กับชีวิต แต่ผมขอพูดในมุมมองบ้านๆ บ้าง ไม่ต้องมีเรื่องปรัชญา ศาสนา มาช่วยทำให้ทุกข์น้อยลง
ผมอยากบอกว่า อย่าไปอิจฉาคนที่มีภาพชีวิตสวยงามในโลกโซเชียลเลยครับ จากประสบการณ์ชีวิตที่ผมได้พบมากับตัวเอง ผมเจอคนที่มีภาพชีวิตสวยงามในโลกโซเชียล ทั้งที่ในชีวิตจริง ตรงกันข้าม! ไม่ใช่แค่คนเดียว แต่จำนวนเยอะมากจริงๆ
มนุษย์ทุกคนล้วนมีทุกข์ มีปัญหาในชีวิต แต่ส่วนใหญ่เลือกที่จะนำมุมสวยงามมาแสดงออกให้คนอื่นเห็น
สามีภรรยาบางคู่ มีปัญหากันมากมาย แต่ก็ต้องมีภาพครอบครัวอบอุ่น ในโลกโซเชียล ทำไปเพื่ออะไรนั้น ก็ต่างเหตุผลกันไป บางคนที่โชว์ภาพกินดีอยู่ดี ก็มีหลายเหตุผล บางคนทำไปเพราะมันคือช่วงเวลาพิเศษในชีวิตของเค้า ไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ เค้าเลยอยากแชร์ให้คนอื่นร่วมชื่นชมด้วย
น้อยคนที่จะแชร์เหตุการณ์ เดิมๆ ซ้ำๆ ที่เป็นเหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน ส่วนบางคนก็เป็นการสร้างภาพเพื่อเหตุผลทางธุรกิจ ทำให้คนเชื่อถือ
ภาพในโลกโซเชียล ขึ้นอยู่กับเจ้าตัวต้องการว่าเค้าต้องการให้เราเห็นภาพเค้าในแง่มุมไหน แบบไหน ยังมีอีกหลายมุมที่เราไม่เคยรู้
บางคนผมเห็นภาพเค้าในโลกโซเชียลแล้วก็ได้แต่คิดว่า เค้าคงทำบุญมาดี มีชีวิตที่ดูดีมากๆ แต่พอได้มีโอกาสพูดคุยให้คำปรึกษากับเจ้าตัวจริงๆ จากเคยอิจฉากลายเป็นสงสารเค้าเลยด้วยซ้ำ รู้สึกพอใจชีวิตตัวเองขึ้นมาทันที
โลกแห่งข้อมูลข่าวสารหลั่งไหลเข้าสู่สมองเรามากมายเหลือเกิน ถ้าไม่มีสติ คัดกรองสิ่งที่เป็นประโยชน์กับชีวิต โลกโซเชียลจะกลายเป็นพิษกับเราโดยไม่รู้ตัว
ทุกคนมีทุกข์ของตัวเองกันทั้งนั้นแหละครับ ไม่ว่าใคร ภาพดูดีแค่ไหน
สุข ทุกข์ อยู่ที่ใจ จริงรึเปล่า?
มีแต่เราที่ตอบได้
ให้เผือกทุกเรื่องคงไม่ไหวแต่ก็ขอให้เผือกต่อไปอย่างมีความสุขในโลกโซเชียลครับทุกคน
ความเห็น 8
@...
พอใจกับในสิ่งที่เป็นอยู่จะดีกว่า จะได้ไม่ต้องดึงเอาเรื่องของคนอื่นเข้ามาทำให้คิดต้องปวดหัวปล่าวๆ.
04 ธ.ค. 2561 เวลา 22.21 น.
nittaya
เวลาที่ท้อเหนื่อยอยากหยุดดูคนที่เขามีพร้อมทุกอย่างแต่เขาก็ยังสู้ยัวไม่ย่อมหยุดก็รู้สึกว่าเราก็ต้องไม่ถอยเหมือนกันสักวันต้องเป็นวันของเรายามอิ่มยามสบายใจหันมาดูคนที่แย่กว่าเราแล้วบอกกับตัวเองว่าถ้าไม่อยากแย่ๆแบบเขาเราต้องขยันอดทนและประหยัดแล้วเราจัมีวันนี้ไปเรื่อยและดีขึ้นยิ่งๆขึ้น(สำหรับตัวเราเองนะที่คิดอย่างนี้คนอื่นไม่รู้)
05 ธ.ค. 2561 เวลา 05.28 น.
สุขเกษม
เรามีหน้าที่รับผิดชอบดีหรือยังไอ้เรื่องคนอื่นอุ๋ยก็เลิกร้องเพลงแล้วไปทำอย่างเค้าจะได้เข้าใจทำไมถึงเป็นอย่างที่เราไม่เข้าใจเราเป็นเราเค้าเป็นเค้าแล้วคำว่าเผือกกูจะทำไปเพื่อ.......เข้าใจตรงกันนะ
09 ธ.ค. 2561 เวลา 02.45 น.
ไม่เผือกก็จะไม่เป็นทุกข์
อย่าเปรียบเทียบเรากับเขา
และอยู่กับปัจจุบัน
07 ธ.ค. 2561 เวลา 16.21 น.
T'🏔️nem
ผมคนหนึ่งที่เป็นแบบนี้ ขอบคุณพี่อุ๋ยมากครับ
16 ก.พ. 2562 เวลา 17.48 น.
ดูทั้งหมด