แฮชแท็ก #แบนดาราสลิ่ม ติดเทรนด์ ชาวเน็ตขุดวีรกรรมคนบันเทิงกับการเมืองในอดีต
The Bangkok Insight
อัพเดต 26 ส.ค. 2563 เวลา 10.13 น. • เผยแพร่ 26 ส.ค. 2563 เวลา 08.39 น. • The Bangkok Insightกลายเป็นดราม่าไฟลามทุ่ม สำหรับกรณีของพิธีกรชื่อดัง ม้า อรนภา แสดงความคิดเห็นกรณีเด็กนักเรียนออกมาแสดงสัญลักษณ์ทางการเมือง ด้วยถ้อยคำรุนแรง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และส่งผลให้ ม้า อรนภา ยุติการทำหน้าที่พิธีกรรายการ ข่าวใส่ไข่ และ 3 แซ่บ แต่ทว่า ดราม่ายังคงลุกลามอย่างหนักไปถึงคนรอบข้าง อาทิ เหมี่ยว ปวันรัตน์ ที่ร่วมชุมนุมกปปส. และพูดบนเวทีประเด็นเรื่องมือปืนป็อปคอร์น เช่นเดียวกับ ท็อป ดารณีนุช ที่เจอทัวร์ลงในอินสตาแกรมเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว อีกทั้งยังรวมไปถึง นก สินจัย ที่ออกมาให้กำลังใจ ม้า อรนภา และ เหมี่ยว ปวันรัตน์ ด้วย
ล่าสุด (26 ส.ค.) โลกออนไลน์ได้มีการสร้างแฮชแท็ก #แบนดาราสลิ่ม เพื่อวิพากษ์วิจารณ์ถึงแนวคิดและการแสดงออกทางการเมืองในอดีตของเหล่าคนในวงการบันเทิง โดยชาวเน็ตได้มีการนำภาพและคลิปจากเหตุการณ์การชุมนุม กปปส. มาเผยแพร่อีกครั้ง ซึ่งพบว่ามีคนในวงการบันเทิงเข้าร่วมการชุมนุมดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ gorya_ilada หรือ คุณกอหญ้า-ไอลดา สุโง๊ะ พิธีกรและผู้ประกาศข่าวช่องดัง ได้ทวีตให้ความรู้ว่า CancelCulture หรือวัฒนธรรมของการเทใครสักคนบนออนไลน์ที่ดันออกมาพูดหรือแสดงออกในสิ่งที่สังคมรับไม่ได้ เพื่อสื่อสารไปยังเอเจนซี่เพราะดาราต้องการการสนับสนุนจากประชาชน การบอกว่าจะไม่สนับสนุนคนๆ นั้นก็เป็นการลดความนิยมซึ่งจะกระทบกับการทำมาหากินของดาราในที่สุด
Cancel Culture เป็นกลไกการควบคุมของสังคมที่ทำให้คนดังต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น ไม่ใช่เป็นกระบอกที่อยากจะพูดอะไรก็ได้ แต่คำถามคือ ต้องถล่มกันเท่าไหร่จึงจะพอ หรือจะทำให้คนๆ นั้นไม่มีที่ยืนในสังคมเลยหรือ ?
หากคนดังเหล่านั้นออกมาขอโทษอย่างจริงใจ อาจจะด้วยความเข้าใจผิดหรือไม่รู้ข้อเท็จจริง หากทำเพียงครั้งเดียวจะเป็นไปได้ไหมที่จะให้อภัยกัน หรือจะไม่เปิดโอกาสให้เขายอมรับหรือขอโทษเลย แต่ถ้าทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีกโดยไม่รู้สึกอะไรก็สมควรที่สังคมจะไม่ให้อภัยอีกต่อไป
ที่มา #แบนดาราสลิ่ม