โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

คนญี่ปุ่นไม่ให้ความร่วมมือในการกักตัว แม้จะประกาศภาวะฉุกเฉิน ! - เพจ Eak SummerSnow

TOP PICK TODAY

เผยแพร่ 24 เม.ย. 2563 เวลา 17.05 น. • เพจ Eak SummerSnow

ในตอนนี้สถานการณ์การระบาดของ Covid-19 ในญี่ปุ่นก็ยังไม่ค่อยดีขึ้นสักเท่าไรครับ แม้จะมีการประกาศภาวะฉุกเฉินที่ขยายไปทั่วประเทศแล้วก็ตาม แต่จำนวนคนติดเชื้อก็ยังพุ่งสูงขึ้น ตอนนี้มีผู้ติดเชื้อเกือบครบทุกจังหวัด (ขาดแค่จังหวัดอิวาเตะจังหวัดเดียวที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อ) โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างโตเกียวนี่ก็มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสูงมากในทุก ๆ วัน ซึ่งนักวิชาการของญี่ปุ่นเขาก็ออกมายอมรับเลยครับว่าสาเหตุของการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าเป็นห่วงนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ

“ประชาชนชาวญี่ปุ่นไม่ให้ความร่วมมือกับทางการในการกักตัวอยู่กับบ้าน”

เราอาจจะชื่นชมคนญี่ปุ่นที่มีระเบียบวินัยดีจนน่าเอาเป็นแบบอย่างในหลาย ๆ เรื่อง แต่กับเรื่องให้ความร่วมมือในการป้องกันไวรัสอยู่กับบ้าน เมื่อเทียบกันผมก็เห็นว่าคนไทยเราให้ความร่วมมือดีกว่าคนญี่ปุ่นมาก ๆ อย่างแรกเลยก็คือเรื่องการออกไปทำงาน 

ในช่วงนี้บริษัทที่ไทยเน้นการทำงานจากที่บ้านกันมาก ๆ แต่ในญี่ปุ่นนั้นมีอัตราการ Work from Home เพียงแค่ 18% เท่านั้น (อ้างอิงจาก YouGov) ซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่มีการทำงานจากที่บ้านต่ำที่สุดในโลก สาเหตุก็มาจากความบ้างานของคนญี่ปุ่นนั่นเอง ช่วงนี้เพื่อน ๆ ของผมก็ยังต้องออกไปทำงานกันตามปกติ แถมยังทำโอทีกันแทบทุกวันอีกด้วย

นอกจากเรื่องการทำงานแล้ว ในช่วงวันหยุด คนญี่ปุ่นก็ยังคงออกมาเที่ยวกัน (ก็ทำงานทุกวันก็ต้องหาเรื่องเที่ยวด้วยงี้) อย่างเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีข่าวว่าที่เอโนชิม่า เกาะในจังหวัดคานากาว่าใกล้ ๆ โตเกียว ซึ่งเป็นเมืองชายทะเลที่คนญี่ปุ่นนิยมมาพักผ่อน ก็ยังมีคนมาเดินเที่ยวกันแน่นจนรถติดยาวเหมือนในภาวะปกติ หรือแม้แต่สวนสาธารณะเซตากายะ ก็ยังมีภาพคนออกมานั่งพักผ่อนหย่อนใจกันเต็มสวนสาธารณะเต็มไปหมด ก็คงเป็นเพราะว่าช่วงนี้เป็นฤดูแห่งการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น อากาศก็ดี ซากุระก็บานสวย แต่คือมันใช่เวลาออกมาเที่ยวกันไหมอะแก !!

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้สถานที่ท่องเที่ยวหลายที่ในญี่ปุ่นต้องตัดสินใจปิดเพื่อไม่ให้คนมาเที่ยว ที่เป็นข่าวสะเทือนอารมณ์ที่สุดก็คือสวนทิวลิปในเมืองซากุระจังหวัดชิบะ ที่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียวอีกเช่นกัน พอเห็นข่าวว่าคนออกมาเที่ยวกันเยอะในช่วงนี้ แล้วดอกทิวลิปของทางสวนก็กำลังบานสวยงามพอดี เขาก็เลยตัดสินใจตัดต้นทิวลิปที่ปลูกไว้กว่า 800,000 ต้นทิ้ง พร้อมกับประกาศยกเลิกเทศกาลชมทิวลิปประจำปีไปซะเลย เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวแห่กันมา

อีกหนึ่งพื้นที่ที่คนญี่ปุ่นนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวในช่วงนี้ก็คือจังหวัด “โอกินาว่า” นั่นเองครับ จังหวัดโอกินาว่าเป็นเกาะที่อยู่ทางใต้สุดของญี่ปุ่น ที่คนญี่ปุ่นนิยมเดินทางมาพักผ่อนกัน ช่วงนี้โอกินาว่าก็มีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นจากจังหวัดอื่น ๆ เข้าไปเที่ยวกันเยอะ ด้วยสาเหตุที่ว่าตอนนี้พวกเขานั้นเดินทางออกนอกประเทศไม่ได้ และโอกินาว่าก็เป็นจังหวัดของญี่ปุ่นที่ดูมาเหมือนญี่ปุ่นมากที่สุด (โอกินาว่าอารมณ์จะออกแนวๆ ไต้หวันอะไรประมาณนี้ครับ) ที่สำคัญก็คือตอนนี้ที่โอกินาว่าไม่มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเลย ทำให้คนค่อนข้างน้อยและรู้สึกว่าเที่ยวได้สนุกกว่าช่วงปกติที่มีแต่นักท่องเที่ยวจีนเต็มไปหมด

ที่น่าตกใจก็คือมีรายการโทรทัศน์ของญี่ปุ่นรายการหนึ่งเขาสัมภาษณ์สาวออฟฟิศที่บริษัทให้หยุดงานเป็นกรณีพิเศษเพราะมีอาการไข้ ซึ่งแน่นอนว่าขอให้หยุดงานก็หมายถึงให้นอนอยู่บ้านอะเนาะ แต่สาวคนนี้ดันเลือกที่จะบินไปเที่ยวโอกินาว่าซะอย่างนั้น แถมยังมาให้สัมภาษณ์อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวว่า เพราะคิดว่าคงจะไม่มีโอกาสหยุดพิเศษแบบนี้อีกแล้ว ก็เลยตัดสินใจไปเที่ยวดีกว่า (ได้เหรอ ?)

ในขณะที่คนที่เหนื่อยจากการทำงานในช่วงนี้มากที่สุดก็คือพนักงานของร้านที่ยังเปิดอยู่ตอนนี้ ทั้งซูเปอร์มาเก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา ที่จะต้องรับมือกับลูกค้าที่ไร้มารยาทมากมาย ที่หนักที่สุดก็คือเหล่าพนักงานของร้านสินค้าทุกอย่าง 100 เยน ที่ถึงขั้นต้องออกมาประท้วงหยุดงาน 

ด้วยเหตุผลที่ว่าลูกค้าที่มาที่ร้านนั้นมีมารยาทแย่เกินไป ลูกค้าแห่มาที่ร้านเป็นจำนวนมากขึ้นเทียบกับช่วงปกติ บางคนก็ไม่ได้ต้องการมาซื้อของ แต่แค่อยากมาเดินเล่นเปลี่ยนบรรยากาศเพราะร้านอื่น ๆ มันปิด ลูกค้าไร้มารยาทเหล่านี้ไม่ให้ความร่วมมือในการใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลก่อนเข้าร้าน แถมยังต่อว่าพนักงานอย่างรุนแรง ถ้าไม่สามารถหาซื้อของบางอย่างเช่นหน้ากากอนามัยจากร้านได้ จนพนักงานของร้านตัดสินใจประท้วงหยุดงาน พร้อมกับติดป้ายเอาไว้หน้าร้านเพื่อชี้แจงสาเหตุอีกด้วย

จนตอนนี้นักวิชาการชาวญี่ปุ่นได้กล่าวว่า “เหมือนว่าการกักตัวอยู่กับบ้านของคนญี่ปุ่นจะจบลงแล้ว ทั้ง ๆ ที่ยังอยู่ในการประกาศภาวะฉุกเฉิน” เพราะคนญี่ปุ่นจะไม่ให้ความร่วมมือกับทางการอีกต่อไป การประกาศภาวะฉุกเฉินก็เป็นภาวะฉุกเฉินที่ไม่ได้ฉุกเฉินอย่างแท้จริง เพราะรัฐบาลก็ได้แค่ขอความร่วมมือจากประชาชนเท่านั้น ไม่ได้มีอำนาจในการบังคับให้ประชาชนทำอะไรหรือมีบทลงโทษอะไรเป็นพิเศษ 

ดีหน่อยก็ตรงที่สามารถขอความร่วมมือจากร้านค้าต่าง ๆ ให้เลื่อนเวลาปิดขึ้นมาให้เร็วขึ้น ทำให้ตอนนี้ญี่ปุ่นเองก็เหมือนจะมีเคอร์ฟิวกลาย ๆ เพราะห้างร้านที่เคยเปิดถึงดึกก็ปิดตัวตั้งแต่หัวค่ำ พอไม่มีสถานที่ให้ออกมาเดิน คนก็จะอยู่กับบ้านกัน ทำให้เราจะได้เห็นภาพญี่ปุ่นที่ไร้ผู้คนในช่วงกลางคืน แต่พอกลับมาเป็นกลางวันชีวิตก็ดำเนินไปปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นซึ่งก็ทำให้น่าเป็นห่วง เพราะถ้ายังเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้สถานการณ์จะสิ้นสุดลงเมื่อไร

*อ้างอิงข่าว: livedoor news, blog.esuteru*

ติดตามบทความใหม่เกี่ยวกับเรื่องน่ารู้และเรื่องแปลก ๆ ของประเทศญี่ปุ่นทาง LINE TODAY: TOP PICK TODAY จากผมได้ทุกวันเสาร์นะครับ 

ช่องทางการติดตามเพิ่มเติม

Facebook :Eak SummerSnow

Youtube : Eak SummerSnow

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 148

  • So
    แปลก ปกติคนญี่ปุ่นจะเคารพกฏระเบียบ ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม
    24 เม.ย. 2563 เวลา 18.22 น.
  • chaom
    วัฒนธรรมชีวิตคืองาน งานคือชีวิต...มุมมองฝังรากลึกปิดบังความจริงด้านอื่นครับ
    25 เม.ย. 2563 เวลา 03.02 น.
  • 🌺wanpen🌺
    เป็นไง คนที่ขื่นชมคนญี่ปุ่น ชื่นชมประเทศญี่ปุ่นว่าเคารพในระเบียบวินัย ตอนนี้ยุคโควิด19 คนญี่ปุ่นกลับไม่สนใจระเบียบวินัยไม่สนใจกฎที่ทางรัฐบาลตั้งขึ้น แล้วโควิด 19 คงไม่สามารถควบคุมได้ ตอนนี้ประชาชนคนไทยดีเราเคารพกฎระเบียบที่รัฐบาลตั้งขึ้นมา ต้องร่วมมือกันทั้งสองฝ่ายประชาชน กับรัฐบาล ไม่ใช่หน้าที่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ในการลดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19
    25 เม.ย. 2563 เวลา 06.07 น.
  • Long k.k 42
    ข้อดีของโควิท คือได้เห็นอีกด้านของหลายๆสังคม
    25 เม.ย. 2563 เวลา 11.14 น.
  • วัดชนาธิปเฉลิม
    ความกล้วตายต่างกัน ส่วนเรื่องงาน คนขยันไมีขอบหยุดงาน ส่วนคนขี่เกียจชอบ
    25 เม.ย. 2563 เวลา 05.18 น.
ดูทั้งหมด