โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

“เขาคงขโมยไปเพราะชอบมากจริง ๆ ”...ออนเซ็นในญี่ปุ่นไม่แจ้งความหัวขโมย - เพจ Eak SummerSnow

TOP PICK TODAY

เผยแพร่ 16 ต.ค. 2563 เวลา 18.01 น. • เพจ Eak SummerSnow

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ว่ากันว่ามีความปลอดภัยเป็นเลิศ มีคดีจากการขโมยค่อนข้างน้อยนะครับ ว่ากันว่าถ้าทำกระเป๋าเงินหล่นเอาไว้ ให้เดินกลับไปที่เดิมมันก็จะยังอยู่ (ถ้าไม่อยู่ที่เดิมก็อยู่ที่ป้อมตำรวจ) นั่นเป็นเพราะว่าการปลูกฝังจิตสำนึกควบคู่ไปกับการลงโทษที่เด็ดขาดทางกฎหมาย

แต่ทว่าในยุคนี้เนื่องจากการระบาดของไวรัสก็ทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่ไปทั่วโลก นั่นก็นำมาสู่ปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ ที่เพิ่มมากขึ้น อย่างในญี่ปุ่นก็มีคดีเกี่ยวกับการลักเล็กขโมยน้อยเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน แน่นอนว่าการลักทรัพย์หรือการขโมยของนั้นเป็นคดีอาญาที่ยอมความไม่ได้ ดังนั้นถ้าเรื่องไปถึงตำรวจแล้วก็มักจะเป็นปัญหาใหญ่และต้องรับโทษกันไปตามระเบียบ

แต่หนึ่งในนั้นก็ยังมีเจ้าทุกข์ที่เลือกจะไม่แจ้งความจับคนร้ายอยู่เหมือนกัน อย่างคดีที่เป็นคดีดังในอินเทอร์เน็ตญี่ปุ่นเมื่อรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดขึ้นที่ “ออนเซนโนะโมริ” บ่อน้ำร้อน (ออนเซ็น) ในจังหวัดยามากุจิ ที่มีพื้นที่สำหรับให้ลูกค้าได้อ่านหนังสือผ่อนคลายหลังจากแช่น้ำร้อน โดยมีหนังสือต่าง ๆ ทั้งหนังสือการ์ตูนและหนังสือทั่วไปให้ลูกค้าได้หยิบอ่านฟรี ๆ แต่ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น

เมื่อปลายเดือนที่แล้วที่เขาได้มีการพบว่าหนังสือการ์ตูนจำนวน 20 เล่มได้ถูกขโมยไปจากชั้นวาง !! ซึ่งการ์ตูน 20 เล่มนี้ก็คือหนังสือการ์ตูนสุดฮิตในยุคนี้อย่างเรื่อง “ดาบพิฆาตอสูร Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba” ซึ่งเป็นเรื่องที่ฮิตมาก ถูกหยิบขึ้นมาอ่านมากที่สุด และหาซื้อแบบครบชุดค่อนข้างยากด้วยความขายดีของมัน

 โดยทางออนเซ็นได้โพสต์ลงในทวิตเตอร์ว่า

“ข่าวร้าย : เรื่องดาบพิฆาตอสูรเล่ม 1-20 ถูกขโมยไปจากชั้นหนังสือในห้องนั่งเล่น เราได้ใช้ความพยายามอย่างหนักในการหามาเพื่อให้ครบเซ็ต ดังนั้นเราจึงอยากจะขอให้คนที่บังเอิญหยิบมันติดกลับไปที่บ้าน ช่วยนำมาคืนอย่างเงียบ ๆ ทีนะครับ

เมื่อมีใครที่กำลังจะหลงออกจากวิถีของตัวเอง เราจงมารวมพลังกันเพื่อพาเขากลับมาในวิถีที่ถูกต้อง !

เราไม่ได้แจ้งตำรวจ เพราะเราอยากจะใช้พลังของโซเชียลมีเดียในการพาเขาผู้นั้นกลับมาในวิถีที่ถูกต้องครับ ”

หลังจากเรื่องนี้แพร่ออกไปในโลกอินเทอร์เน็ตของญี่ปุ่น ก็กลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางทันที ส่วนใหญ่ก็จะเข้ามาชื่นชมในความใจดีของทางออนเซ็น และตำหนิคนที่เป็นหัวขโมย แต่ก็มีคนที่ไม่เห็นด้วยกับการที่ทางออนเซ็นไม่แจ้งตำรวจอยู่เยอะเหมือนกัน ส่วนใหญ่ลงความเห็นกันว่าเรื่องนี้ควรไปแจ้งตำรวจนะ คนเป็นโจรยังไงก็หลุดออกจากวิถีแห่งคุณธรรมไปแล้ว ตำรวจนั่นแหละมีหน้าที่ที่จะต้องจัดการกับคนเหล่านี้

แต่ทางออนเซ็นก็ได้โพสตอบกลับคอมเมนต์ที่อยากให้ไปแจ้งตำรวจว่า

“เราเห็นคอมเมนต์มากมายบอกให้เราไปแจ้งตำรวจ หรือด่าคนที่ขโมยหนังสือไป แต่ตอนนี้เราอยากให้ทุก ๆ ใจเย็นลงและหลีกเลี่ยงการใช้ถ้อยคำข่มขู่เหล่านั้น เราตัดสินใจไม่ไปแจ้งตำรวจ เพราะเชื่อว่าคนที่หยิบหนังสือไปนั้นคงต้องเป็นแฟนการ์ตูนเรื่องดาบพิฆาตอสูรอย่างแน่นอน …

เราเชื่อมั่นในผู้คน ทั้งในฐานะของความเป็นมนุษย์ และในฐานะของแฟนดาบพิฆาตอสูร เราจึงอยากให้โอกาสเขาในการแก้ตัวอีกครั้ง แม้ว่าอาจจะทำให้หลาย ๆ คนไม่เห็นด้วย แต่ได้โปรดจงเข้าใจเราด้วยนะครับ”

แม้เวลาผ่านไปหลายสัปดาห์จะยังไม่มีการติดต่อขอคืนหนังสือจากคนที่ขโมยไปแต่อย่างใด แต่ทว่าทางออนเซ็นกลับได้รับกล่องพัสดุปริศนาส่งมาที่ออนเซ็นจำนวนมาก และเมื่อเปิดกล่องออกมาเขาก็พบว่าภายในกล่องนั้นมีหนังสือเรื่อง “ดาบพิฆาตอสูร” อยู่ถึง 140 เล่ม ! ซึ่งถูกส่งมาจากแฟน ๆ ดาบพิฆาตอสูรทั่วประเทศ และหลังจากนั้นก็ยังมีหนังสือถูกส่งมาที่ออนเซ็นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ รวมหลายร้อยเล่ม ทั้งหมดถูกส่งมาพร้อมกับจดหมายให้กำลังใจ เช่น

“ภายใต้โลกที่ไม่สมบูรณ์นี้ เราต้องการความรักมากกว่าความโกรธแค้นและชิงชัง”

“แม้จะไม่ได้ของเดิมกลับคืนมา แต่พวกเราจะช่วยเติมเต็มช่องว่างบนชั้นวางหนังสือนั้นให้เอง”

จนถึงตอนนี้ก็ยังคงมีหนังสือถูกส่งมาที่ออนเซ็นแห่งนี้อยู่เรื่อย ๆ และหลายคนก็อยากเดินทางมาที่ออนเซ็นแห่งนี้ ทำให้ชื่อเสียงของออนเซ็นโด่งดังขึ้น เพราะความใจดีของเจ้าหน้าที่ที่นี่ ที่เลือกรับมือกับปัญหาด้วยความรักและความเห็นใจ 

แน่นอนว่าการขโมยเป็นสิ่งที่ผิด การแจ้งความเพื่อให้ดำเนินการทางกฎหมายก็เป็นทางออกหนึ่งที่สามารถทำได้ แต่การรับมือของทางออนเซ็นที่เลือกจะใช้ความเชื่อใจในเพื่อนมนุษย์ ความรัก และการให้อภัย ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีเช่นกัน เพราะจากความโชคร้ายที่ถูกขโมยหนังสือไป ตอนนี้สิ่งที่ได้ตอบแทนกลับมานั้นดูเหมือนจะคุ้มค่ามากกว่าเดิมหลายเท่า

อ้างอิงข่าวจาก grapee.jp

ติดตามบทความใหม่เกี่ยวกับเรื่องน่ารู้และเรื่องแปลก ๆ ของประเทศญี่ปุ่นทาง LINE TODAY: TOP PICK TODAY จากผมได้ทุกวันเสาร์นะครับ

ช่องทางการติดตามเพิ่มเติม

Facebook :Eak SummerSnow

Youtube : Eak SummerSnow

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0