โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เจ้าสาวสวมชุดแหวกอกโชว์รอยสัก โดนแขกคนนินทา ก่อนแม่เจ้าบ่าวทำน้ำตาซึม

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

อัพเดต 12 ต.ค. 2565 เวลา 15.51 น. • เผยแพร่ 12 ต.ค. 2565 เวลา 15.35 น.

เจ้าสาวชุดแหวกอกโชว์รอยสักกลางงานแต่ง เดินออกมาสวยงามสุดอลังการ แต่กลับตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ ก่อนแม่เจ้าบ่าวจะทำน้ำตาซึม

เป็นหนึ่งเรื่องราวที่ถูกพูดถึงอย่างมากในสังคมออนไลน์ของจีน เมื่อเว็บไซต์ต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุการณ์สุดซึ้งกลางงานแต่งแห่งหนึ่งในประเทศจีน เผยให้เห็นเจ้าสาวได้สวยชุดแหวกอกโชว์รอยสักกลางงานแต่ง เดินออกมาสวยงามสุดอลังการ แต่กลับตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์จากแขกในงาน ก่อนแม่เจ้าบ่าวจะทำน้ำตาซึม กลายเป็นเรื่องราวสุดประทับใจเป็นอย่างมากขึ้นมา

เจ้าสาวสวมชุดแหวกอกโชว์รอยสัก โดนแขกคนนินทา ก่อนแม่เจ้าบ่าวทำน้ำตาซึม
เจ้าสาวสวมชุดแหวกอกโชว์รอยสัก โดนแขกคนนินทา ก่อนแม่เจ้าบ่าวทำน้ำตาซึม

ตามรายงานระบุว่า เจ้าสาวรายนี้ได้สวมชุดสีขาวสุดโมเดิร์น เปิดรอยสักกลางหน้าอกขนาดใหญ่ในงานแต่ง แต่ถูกแขกพูดวิพากษ์วิจารณ์ในงานเสียงดังอย่างมาก จนเจ้าสาวและเจ้าบ่าวที่ยืนบนเวทีได้ยินเจ้าสาวรู้สึกตกใจจนหน้าเสีย ก่อนที่แม่ของเจ้าบ่าวได้ตัดสินใจเดินขึ้นไปบนเวที ก่อนที่จะเข้าไปพูดปลอบใจและโอบกอดเจ้าสาว พร้อมปลอบใจว่า แม้คนอื่นจะไม่ชอบใจ แต่ครอบครัวเข้าใจและยอมรับได้ นั่นทำให้เจ้าสาวรู้สึกตื้นตันจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

เจ้าสาวสวมชุดแหวกอกโชว์รอยสัก โดนแขกคนนินทา ก่อนแม่เจ้าบ่าวทำน้ำตาซึม
เจ้าสาวสวมชุดแหวกอกโชว์รอยสัก โดนแขกคนนินทา ก่อนแม่เจ้าบ่าวทำน้ำตาซึม

และหลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ได้มีชาวเน็ตเข้ามาให้ความสนใจและชื่นชมกันเป็นจำนวนมาก หลายคนประทับใจแม่เจ้าบ่าวและบอกว่าเจ้าสาวโชคดีมากที่ได้มาเป็นสะใภ้ของครอบครัวนี้ เพราะแม่เจ้าบ่าวสามารถจัดการแก้สถานการณ์ที่ละเอียดอ่อนให้ออกมาเป็นที่น่าประทับใจอย่างมากเลยทีเดียว

เจ้าสาวสวมชุดแหวกอกโชว์รอยสัก โดนแขกคนนินทา ก่อนแม่เจ้าบ่าวทำน้ำตาซึม
เจ้าสาวสวมชุดแหวกอกโชว์รอยสัก โดนแขกคนนินทา ก่อนแม่เจ้าบ่าวทำน้ำตาซึม
เจ้าสาวสวมชุดแหวกอกโชว์รอยสัก โดนแขกคนนินทา ก่อนแม่เจ้าบ่าวทำน้ำตาซึม
เจ้าสาวสวมชุดแหวกอกโชว์รอยสัก โดนแขกคนนินทา ก่อนแม่เจ้าบ่าวทำน้ำตาซึม

ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0