1. ชีวิตที่ดีจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากเราไม่รู้จักรับผิดชอบหน้าที่ เรามีหน้าที่อะไร ควรทำสิ่งนั้นให้สุดกำลังความสามารถ เราทำสิ่งนั้นเต็มที่ มิใช่ว่าเราต้องการความสำเร็จ ทว่า เราทำเพราะเรารู้จักเคารพตนเอง การเคารพตนเองนั้นสำคัญกว่าความสำเร็จ
ความสำเร็จ คือสิ่งที่ผู้อื่นตัดสิน แต่การเคารพตนเองนั้น มาจากหัวจิตหัวใจของเรา แม้เราขาดความเคารพตนเองแล้ว จะมีคนมากมายยกย่องชมเชยก็ไร้ความหมาย จงทำหน้าที่ด้วยความเพียร โดยไม่มีเงื่อนไข แล้วความเคารพ นับถือตนเองจะค่อย ๆ ปรากฏ
2. ชีวิตที่ดีจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากเราไม่รู้จักทดแทนคุณคน กว่าจะเติบโต กว่าชีวิตจะเดินทางมาถึงวันนี้ มีผู้คนมากมายที่โอบอุ้มดูแลเรา พ่อแม่คือผู้ให้กำเนิด ครูอาจารย์คือผู้อบรมให้ความรู้ เพื่อนพ้อง กัลยาณมิตรคือผู้ประคับประคอง ร่วมหยัดยืนเคียงข้าง บุคคลเหล่านี้ คือผู้มีพระคุณทั้งสิ้น หากเป็นไปได้จงเร่งแทนคุณ อะไรที่ทำแล้วคนเหล่านี้จะมีความสุข หากพอทำได้ จงทำสิ่งนั้นอย่ารีรอ
3. ชีวิตที่ดีจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากเราไม่เลิกเบียดเบียนผู้อื่นและตนเอง กาย วาจา ใจ เป็นเข็มทิศนำทางชีวิต อย่าโกหก หรือพูดจาทำลายน้ำใจผู้อื่น อย่าผิดลูกผิดเมียใคร อย่าลักขโมย หรือเอารัดเอาเปรียบใคร อะไรที่ล่วงละเมิดชีวิต ทรัพย์สินผู้อื่นจงอย่าทำ อะไรที่ทำให้ตนเองและผู้อื่นขาดสติจงอย่าทำ ใจเขาก็ใจเรา แม้ไม่รู้จักห้ามใจตน ความวุ่นวายต่าง ๆ ย่อมเข้ามาแทนที่ความสงบแห่งชีวิต ความสุขอยู่ไม่ไกล หากรู้จักหักห้ามใจในสิ่งไม่ควร
4. ชีวิตที่ดีจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากเราไม่รู้จักช่วยเหลือผู้อื่น คนเรานี้ บางครั้งการทำเพื่อตนเองมากเกินไป ใช่ว่าจะมีความสุข กายใจเป็นของเรา แต่จงใช้เพื่อผู้อื่นในบางครั้ง เงินทองเป็นของเรา แต่สละมันให้ผู้อื่นได้กินอิ่มนอนหลับ ความรู้ที่สั่งสมมา จะมีประโยชน์อันใด หากไม่ได้ใช้เพื่อช่วยเหลือหมู่ชน สะสมเพื่อตนเอง ชีวิตย่อมแห้งแล้ง พอมีพอกินแล้ว แจกจ่าย ชีวิตย่อมสดชื่นฉ่ำเย็น เรามิได้เกิดมาเพื่อปรนเปรอตนเอง ทว่าเกิดมาเพื่อทำให้ชีวิตของกันและกันดีขึ้น ชีวิตนี้ใช่มีหน้าที่เพื่อตนเองเท่านั้น แต่เรายังมีหน้าที่เพื่อผู้อื่นด้วย
5. ชีวิตที่ดีจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากเราไม่มีศิลปะแห่งการใช้ชีวิต การทำงาน การพักผ่อน และการขัดเกลาจิตใจตนเองควรเป็นสิ่งเดียวกัน ยิ่งทำงานมาก ก็ยิ่งสนุก ยิ่งสนุก ยิ่งทำงานได้มาก ยิ่งเป็นประโยชน์กับตนเองและผู้อื่น ยิ่งทำงานมาก กิเลสยิ่งน้อย ยิ่งทำงานมาก ความสุขยิ่งเกิด ความอยากมีอยากได้อยากเป็นน้อยลง แต่ผลงานกลับดีขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นเพิ่มขึ้น รู้จักหนทางสำเร็จ รู้จักอยู่เหนือความสำเร็จ รู้จักปล่อยวางความสำเร็จ รู้จักมอบความสำเร็จให้ผู้อื่นในฐานะผู้รับใช้ มิใช่ผู้ยิ่งใหญ่ เก่งกาจมาจากไหน
6. ชีวิตที่ดีจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากเราไม่รู้จักละกิเลส อันที่จริงแล้วกิเลสมีส่วนสัมพันธ์กับความสุข ผู้มีกิเลสมาก ย่อมมีความทุกข์มาก ผู้มีกิเลสน้อย ก็ย่อมมีความทุกข์น้อย แม้ผู้ใดไร้กิเลส เขาย่อมไม่รู้จักหน้าตาของความทุกข์ลึกซึ้ง ในแต่ละวันจงสำรวจตนเองอยู่เสมอ มีชีวิตมาถึงวันนี้แล้ว กิเลสของเราลดลงหรือเพิ่มขึ้น
7. ชีวิตที่ดีจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากเราไม่รู้จักยอมรับความเป็นจริง ความเป็นจริงแรกคือไม่มีใครสมหวังไปทุกเรื่อง ความเป็นจริงต่อมาคือ แท้จริงแล้ว ไม่มีหรอกคำว่าสมหวังหรือผิดหวัง มีแต่คำว่า เป็นเช่นนั้นเอง เพราะอะไร ๆ ก็เป็นเช่นนั้นเอง เมื่อเรามองให้ดีมันก็ดี เมื่อเรามองให้ไม่ดี มันก็ไม่ดี เป็นเช่นนั้นเอง
8. ชีวิตที่ดีจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากเราไม่รู้จักรักษาสุขภาพ การรักษาสุขภาพไม่ได้หมายความว่า จะไม่ยอมแก่ ไม่ยอมเจ็บ ไม่ยอมตาย ความหมายที่แท้จริงของการรักษาสุขภาพคือ หมั่นดูแลรักษาตามเหตุปัจจัย อย่ารักษาดูแลตนกลายเป็นความยึดติด ขอให้ดูแลตนเองอย่างพอเพียงแก่ตนเอง จงงามตามวัย จงรู้รักษ์ขอบคุณร่างกายของตน กายมีไว้ให้ได้ทำประโยชน์ ทั้งประโยชน์ตนประโยชน์ท่าน มองร่างกาย แขน ขา เนื้อตัวของตนเองบ้าง นานแค่ไหนแล้ว ที่เราไม่ได้ใส่ใจดูแลมันเลย ยังไม่สายเกินไป ตราบยังมีลมหายใจ
9. ชีวิตที่ดีจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากเราไม่รู้จักตนเองตามความเป็นจริง ตัวเราเป็นใครนั้นก็พอรู้ ตัวเราชื่นชอบอะไรนั้นก็พอรู้ แต่ตัวเราคืออะไร ความเป็นเราคืออะไร อัตตาตัวตนของเราคืออะไร นี่คือสิ่งที่ยังสงสัยอยู่ สิ่งนี้คือสิ่งที่เราควรศึกษาเล่าเรียน ที่จริงแล้ว เราเกิดมาก็เพื่อสิ่งนี้ เกิดมาเพื่อทำที่สุดแห่งทุกข์ให้แจ้ง เกิดมาเพื่อกำจัดความเห็นแก่ตัวของตนให้หมดสิ้นไป ท่ามกลางชีวิตจงมีความเบิกบาน ท่ามกลางความเบิกบานจงมีความรู้ตัวทั่วพร้อม ความร้ตัวทั่วพร้อม จะทำให้เราสามารถอยู่กับปัจจุบันขณะได้ ปัจจุบันขณะนี่เอง คือกุญแจไขสู่ความจริงแท้ของตนเอง
10. ชีวิตที่ดีจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากเราไม่รู้จักนิยามความหมาย ว่าชีวิตที่ดีคืออะไร แน่นอนว่า นิยามเป็นเรื่องของการสื่อสาร นิยามใครนิยามมัน ทว่า ชีวิตที่ดีของใคร ๆ ล้วนมีจุดร่วมเดียวกัน นั่นคือความรักความเมตตาตนเอง ความรักในที่นี้คงมิใช่ความรักหนุ่มสาว แต่มันคือความรักในตัวตนของชีวิต ความรักนี่เองที่ทำให้เรายอมรับสิ่งต่าง ๆ ตามที่มันเป็น รู้จักเข้าใจ สงบ และปล่อยวางตามสมควร
ชีวิตที่ดี อาจมิใช่ชีวิตที่ไล่ลาความสำเร็จ อุดมด้วยชื่อเสียงเงินทอง ชีวิตที่ดี อาจมีสิ่งเหล่านี้ไม่มากนัก ทว่า เป็นชีวิตที่เปี่ยมล้นปัญญา ปัญญาที่จะขูดเกลาชำระจิตใจของตนเอง ปัญญาที่จะรักษาการงานด้วยความเมตตา มิใช่ความโลภ หลงตน ปัญญาที่จะอยู่ในความสัมพันธ์อย่างเข้าใจ อบอุ่นเป็นอิสระ ปัญญาที่จะรู้แจ้งแทงตลอดถึงเหตุใหญ่แห่งความสับสนวุ่นวายของชีวิต ชีวิตที่ดีจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากเราไม่ตั้งใจที่จะใช้ชีวิต ชีวิตมิใช่การเติมเต็ม เพราะชีวิตมีความสมบูรณ์อยู่แล้วด้วยตนเอง เราอาจจะเรียกชีวิตที่ดี ว่าเป็นชีวิตที่เปี่ยมไปด้วยบุญก็ได้ บุญแปลว่าชำระ ชำระให้สงบเย็น
ขอความร่มเย็นจงบังเกิดแก่ชีวิตของท่าน
ขอทุกท่านจงมีชีวิตที่ดี ที่เย็น ที่เป็นอย่างที่ชีวิตควรจะเป็นจริง ๆ
ความเห็น 8
Yongyuth
ทำตนให้อยู่ในศีลในธรรมนั่นแหละ ชีวิตจะดีขึ้นแน่นอน กับคนที่มี ศรัทธาอยู่ในศีลจะเป็นผู้ มีจิตใจกล้าหาญ ร่าเริง จากการประพฤติปฏิบัติ ดีปฏิบัติชอบธรรมนำสุขมาให้
19 ก.พ. 2563 เวลา 01.04 น.
คิดดี ทำดี กับในสิ่งที่ควรทำ ชีวิตย่อมมีความสุข.
18 ก.พ. 2563 เวลา 08.09 น.
pop
ชีวิตดี ไม่จําเป็นต้องรวย
ชีวิตดี ไม่จําเป็นต้องบ้านหลังใหญ่
ชีวิตที่ดีคือ คนที่เข้าใจชีวิต
19 ก.พ. 2563 เวลา 10.17 น.
วิบูลย์ ตี๋
จงพอใจในสิ่งที่เกิดขึ้น หยุดดูสิ่งนี้นด้วยความเป็นกลางอย่าให้มันแกว่ง(ใจ)เราขึ้นหรือลงเหมือนที่ผ่านๆมา(นับแสนโกฏกัปป์)เป็นมาอย่างไรก็เป็นอยู่อย่างนั้น(มืดมาแล้วกำลังจะมืดไป) ได้เกิดเป็นมนุษย์ชาตินี้ได้พบพระพุทธศาสนาด้วยไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นง่ายๆ ชีวิตนี้ก็น้อยนัก เร่งชวนขวายให้แสงสว่างแห่งพระสัทธรรมได้สาดส่องลงไปล้างความไม่รู้สิ่งทั้งหลายตามที่มันเป็นจริง
ข้าพเจ้ามารู้สึกตัวขึ้นก็ปัจฉิมวัยเสียแล้ว ท่านทั้งหลายพึงระลึกถึงปัจฉิมโอวาทที่ประทานไว้ อย่าตั้งอยู่บนตวามประมาท
19 ก.พ. 2563 เวลา 12.14 น.
Nang🌈🌈🌻
ทำได้เช่นนี้ไม่ต้องเบียดเบียนใครก็สุขแล้วค่ะ
18 ก.พ. 2563 เวลา 10.35 น.
ดูทั้งหมด