โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

สามสิบ X เจ็ทแล็ก -บองเต่า

THINK TODAY

เผยแพร่ 02 เม.ย. 2562 เวลา 10.03 น.

ผมเป็นคนไม่เที่ยวกลางคืน มากสุดของการเที่ยวกลางคืนของผม คือการไปนั่งดริงก์เบาๆกับเพื่อนตามร้านอาหาร ร้านชิวๆที่เสียงในร้านยังอยู่ในเดซิเบลที่เราสามารถคุยกับเพื่อนร่วมโต๊ะโดยไม่ต้องแหกปากตะโกนใส่กัน แต่ผมก็มีเพื่อนที่เป็นสายเที่ยวสายดริงก์ที่ในช่วงเรียนจบใหม่ๆ สามารถเที่ยวโต้รุ่ง แล้วเช้ามาก็สามารถเด้งขึ้นมาทำงานได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

แต่พอเพื่อนกลุ่มนี้เข้าสู่หลักวัยสามสิบ เราเริ่มเห็นเสียงบ่นของหลายคนเป็นเสียงเดียวกันว่า “กูโต้รุ่งไม่ไหวแล้ว แค่เที่ยงคืนตาก็จะปิดแล้วมึง กลับหลังตีสองคือร่างแหลก” ราวกับว่าพออายุสามสิบปุ๊บ ร่างกายก็ปิดสวิทช์โหมดความอึดกันไปดื้อๆซะอย่างนั้น 

นี่คือความร่วงโรยของ “สายเที่ยว” ในแบบที่ผมไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน ในฐานะเด็กดีเด็กอนามัยเลยได้แต่ฟังเขาเล่ากันมา แต่สิ่งที่ผมประสบพบกับตัวนั้นเป็นความร่วงโรยของ “สายเที่ยว” อีกแบบ คือเที่ยวแบบที่ต้องออกเดินทางครับ ผมพบว่าช่วงวัยยี่สิบกว่าๆนี่เป็นช่วงที่เราได้สำแดงเดชความอึดของร่างกายกันทุกครั้งที่เราไปเที่ยวหรือเดินทางไกลๆ

ถ้าไปเที่ยวต่างประเทศนี่เจ็ทแลคดูเป็นเรื่องเล็กน้อยมากครับ สมมติว่าบินไปยุโรป วันแรกๆอาจจะงงๆอ๊องๆนิดหน่อย คืนแรกอาจจะนอนลำบาก หรืออาจจะง่วงตอนบ่ายนิดหน่อย แต่แค่แป๊บเดียวร่างเราก็ปรับโหมดไปใช้ไทม์โซนยุโรปได้แบบไม่ต้องฝืนมาก

อยู่ครั้งนึง ผมมีเหตุต้องเดินทางไปอิตาลีเรื่องงาน เป็นทริปที่เร่งด่วนและกดดันมาก ออกเดินทางจากกรุงเทพตอนเที่ยงคืน ไปถึงอิตาลีช่วงสายๆของวันถัดไป ลงเครื่องปั๊บอย่าได้หวังว่าจะเข้าไปเช็คอินโรงแรมอาบน้ำก่อน เพราะเราพุ่งตัวไปที่ออฟฟิศลูกค้า แล้วเริ่มประชุมกันเลย ถึงช่วงแรกจะอ๊องๆไปบ้าง แต่พอตั้งสติ และกรอกคาเฟอีนเข้าร่าง สมองก็เริ่มทำงานได้ดีขึ้น

แถมพอประชุมเสร็จยังกลับมาโรงแรมนั่งทำงานต่อได้จนถึงตีสามเวลาอิตาลี เรียกว่าลงเครื่องมาแล้วก็ลุยงานรวดเดียวได้เป็นสิบชั่วโมง โอ้โห สุดยอดมนุษย์เงินเดือนจริงๆ เอาชนะเจ็ทแลคได้สบายมาก

ครับ เราก็หวังว่าเราจะสามารถท๊อปฟอร์มอย่างนั้นไปได้ตลอด แต่โลกของความจริงมันไม่เป็นอย่างนั้นสิครับ พอเราอายุสามสิบปุ๊บ เจ็ทแลคมันได้ที ลุกขึ้นมาเอาคืนเราบ้าง จากเดิมเวลาต้องเดินทางไปยุโรปหรืออเมริกา ผมจะมีอาการเจ็ทแลคตอนกลับถึงไทยแล้วอยู่ประมาณวันสองวัน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ให้เวลาร่างกายมันหน่อย 

แต่ช่วงหลังๆมันไม่ใช่แค่วันสองวันแล้วว่ะ ผมเคยแจ็ทแลคหนักที่สุดคือเกือบหนึ่งอาทิตย์ โอ้โห สมองกลายเป็นผักอยู่หลายวันกว่าจะประกอบร่างกลับคืนสู่สภาพปกติ  บางคนอาจจะเถียงว่า แหม ก็ไปทำงาน มันใช้พลังงานเยอะ มันเหนื่อย ถ้าไปเที่ยวสนุกๆ อาจจะไม่เป็นแบบนี้ก็ได้ แต่หารู้ไม่ว่า การไปเที่ยวต่างประเทศก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นจากความพังพินาศของเจ็ทแลคครับ 

 ในยุคที่เราเข้าใจว่าเราคือสายลุย (ซึ่งมาค้นพบความจริงทีหลังว่าจริงๆ เราไม่ได้เป็นสายลุย แต่ตอนนั้นเราแค่ไม่มีตังค์) การเที่ยวต้องเอาให้คุ้ม และหนึ่งในความคุ้มคือการนอนบนเครื่องบิน เพื่อที่จะได้ประหยัดค่าโรงแรม ยิ่งทริปไหนนอนบนเครื่องไปกลับนี่คุ้มเห็นๆ ประหยัดสองเด้งทั้งค่าโรงแรม ทั้งวันลา ลงเครื่องปั๊บเที่ยวปุ๊บ กลับถึงเมืองไทยปั๊บไปทำงานปุ๊บ

 ครับ อีตอนสายลุยนี่มันก็ไม่ยากใช่ไหมครับ คือความงกของเรามันมีพลังอำนาจอยู่เหนือทุกสิ่งอยู่แล้ว แต่พอเริ่มแก่ เราจะพบว่าแม้แต่พลังความงกของเราก็ไม่สามารถเอาชนความพังของกายหยาบของเราได้แล้ว เราเริ่มพบว่าการนอนบนเครื่องบิน ซึ่งผมขออนุมานเอาว่าปุถุชนทั่วไปอย่างเราๆ ก็คงนั่ง economy class กันแทบทุกคน มันไม่ได้สะดวกสบายเลย ไหนจะปวดคอ ไหนจะปวดหลัง ไหนจะปวดตูด 

คุณภาพการนอนบนเครื่องบินนี่ถือว่าเลวร้ายมาก จังหวะที่กำลังนอนเข้าด้ายเข้าเข็ม ก็โดนปลุกขึ้นมากินอาหารเช้า ยังไม่ทันไร อ้าว ถึงแล้ว เตรียมเที่ยวต่อเลยจ้า เอาจริงๆคือโคตรเหนื่อยเลยนะครับ ตอนเรางกนี่เราอาจจะพอปลอบใจตัวเองได้ว่าก็เราต้องประหยัด แต่พอเราเข้าโหมดร่างแหลก เราจะเริ่มได้ยินเสียงตัวเองก้องอยู่ในหัวว่า นี่กูมาทำอะไรที่นี่ นี่กูมาเที่ยวหรือมาบำเพ็ญทุกรกิริยากันแน่

ซึ่งปัญหาเหล่านี้ จริงๆล้วนแก้ไขได้ด้วยเงินครับ เมื่อเรางกน้อยลง แล้วเราเอาเงินฟาดเพื่อซื้อความสะดวกสบาย ความร้ายกาจของเจ็ทแลคจะทุเลาลง พฤติกรรมอย่างนึงของผมที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนมากเวลาไปเที่ยว คือการเลือกไฟลท์บิน จากเดิมเรามักเลือกไฟลท์ที่ถูกสุด และมีเวลาเที่ยวมากที่สุด (สมัยก่อนไฟลท์ฮ่องกงที่บินไปถึงตอนเช้าตรู่นี่คือไฟลท์ที่เลิฟมาก แต่ตอนนี้พบว่ามันคือนรกชัดๆ) 

แต่ตอนนี้ผมมักจะเลือกไฟลท์ที่พอถึงแล้วสามารถเข้าไปเช็คอินที่โรงแรมก่อนได้ เช่น ถึงสักเที่ยงๆ หรือบ่ายๆ มีเวลายืดเส้นยืดสายในโรงแรมนิดหน่อย หรือถ้าไม่ได้มีไฟลท์ให้เลือกเวลามาก ก็จะพยายามเลือกให้ถึงเย็น ดีกว่าถึงเช้า คิดซะว่าวันแรกขอปรับร่าง เก็บแรงกันก่อน แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เริ่มเที่ยวกัน ถ้าเที่ยวได้ไม่ครบในทริปเดียว ก็อย่าเสียดาย แต่ให้คิดซะว่าจะได้มีข้ออ้างให้กลับมาเที่ยวอีกรอบไง

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0