เวลาคนเราเป็นแผลนั้น ถ้ารักษาและให้เวลา แผลนั้นก็จะหายไป แต่ก็ต้องยอมรับว่าแม้เราจะรักษาดีแค่ไหน บางแผลก็อาจจะถูกเปิดได้ในห้วงเวลาที่เรานั้นอ่อนแอ นี่อาจเป็นความพิเศษเฉพาะตัวของ 'บาดแผลในใจ' จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเราต้องดูแลรักษาแผลใจของเรานั้นอย่างดี LINE TODAY ORIGINAL เลยมี 9 วิธีดูแลแผลใจ และเราจะผ่านวันอ่อนแอไปด้วยกัน
รู้อะไรไม่เท่ารู้เท่าทันตัวเอง
เวลาที่เรารู้ทันตัวเอง ก็จะรู้ว่าเราเป็นใคร ต้องการอะไร อยากไปไหน การที่เรารู้เท่าทันตัวเองจะทำให้เรารู้ว่าเป้าหมายของเราคืออะไร นี่เป็นเหมือนกุญแจสำคัญ เพราะจะไขให้รู้ว่าะไรที่สามารถทำให้เจ็บปวดได้มากที่สุด ถ้ารู้จักตัวเอง ก็จะรู้วิธีการรับมือกับเหตุการณ์ต่าง ๆ อีกทั้งยังจะสามารถเรียนรู้ฝึกฝนการรับมือต่อสถานการณ์อื่น ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น การได้รู้จักตัวเองมากขึ้น ก็จะทำให้สามารถเป็นตัวเองได้แบบเต็มที่ เพราะว่าการกล้าเผชิญหน้ากับปัญหาต่าง ๆ ที่ถูกซุกอยู่ใต้พรมนั้นจะทำให้สามารถเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ ไม่จำเป็นต้องแสร้งทำเป็นสิ่งอื่นใดที่ไม่ใช่ตัวเองเพื่อปิดบังความเจ็บปวด
ยอมรับว่าแผลทางใจเหล่านั้นเป็นส่วนหนึ่งของตัวเอง
มันจะมีบางเรื่องในชีวิตที่ยากในการเผชิญหน้า แต่ถึงที่สุดแล้วเราก็ต้องยอมรับมันเพื่อที่จะเดินหน้าต่อไปได้ บางครั้งก็อาจจะรู้สึกว่ามันยากเย็นแสนเข็ญ เพราะคิดว่าตัวเองนั้นไม่สามารถรับมือกับเรื่องบางเรื่องได้ หรือบางครั้งก็ไม่อยากจะยอมรับว่ารู้สึกเศร้า, โกรธ หรือรู้สึกผิด ยิ่งไปกว่านั้นก็อาจจะลืมเลือนว่าความรู้สึกเหล่านั้นเคยเกิดขึ้น แต่มันก็ซึมเข้าไปฝังอยู่ในใจแล้ว การใส่ใจบาดแผลทางจิตใจของตัวเองนั้น เป็นอีกทางในการยอมรับความรู้สึกเหล่านั้น ลองสังเกตบาดแผลของตัวเอง สำรวจ และตรวจสอบพวกมันอย่างใกล้ชิด
ใส่ใจแผลในใจ อย่าเพิกเฉยเพราะมันจะเกิดผลเสีย
การแสดงความรู้สึกออกมานั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ แม้บางครั้งก็ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร แต่นั่นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะการแสดงออกทางความรู้สึกนั้นก็ต้องฝึกเช่นเดียวกัน เริ่มต้นจากการปล่อยตัวเองให้รู้สึก ให้รับรู้ว่าอะไรทำให้เรารู้สึกเจ็บปวด อาจจะเริ่มต้นเขียนระบายความรู้สึกออกมา หรือบอกคนอื่นสิ่งที่ตัวเรานั้นรู้สึก พยายามเล่าให้คนอื่นได้ฟังบ้าง
ปล่อยวาง ปล่อยให้มันเป็นไป
บางครั้งก็อาจจะรู้สึกว่าไม่สามารถจะไปต่อได้ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะว่าเราต้องการจะควบคุมทุกอย่าง หรือไม่ก็เพราะว่าไม่อยากจะอยู่ในเหตุการณ์เหล่านี้แล้ว และใช้เวลาคิดถึงอดีตหรือไม่ก็อนาคตมากเกินไป ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ภาวะวิตกกังวล และซึมเศร้าต้องถามหาอย่างแน่นอน ดังนั้นมันเป็นเรื่องที่สำคัญมากเราต้อง ‘ปล่อยวาง’ อย่าฝืนความเป็นไป ปล่อยให้ทุกอย่างเกิดขึ้น ให้คิดว่าเราไม่สามารถควบคุมอนาคต และก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต
จัดการอารมณ์ให้เป็น
แม้การแสดงออกทางอารมณ์จะมีความสำคัญ เพราะมันจำให้เราเป็นตัวเราที่ดีขึ้นได้ แต่การแสดงออกในที่นี้มีความหมายว่า การแสดงออกอารมณ์ในแต่ละสถานการณ์เพื่อที่จะสื่อสารสิ่งที่เรารู้สึกออกไปในหนทางที่ดีที่สุดนั่นเอง ดังนั้นการจัดการอารมณ์จึงเป็นกุญปจสำคัญ และการที่เราจะทำสิ่งนี้ได้ มันต้องเริ่มจากการเรียนรู้จากประสบการณ์ในอดีต และเรียนรู้ว่าแท้จริงแล้วตัวเรานั้นเป็นอย่างไร การทำแบบนี้มันจะส่งผลดีต่อตัวเราเองในอนาคตมากกว่า การจัดการอารมณ์นั้นไม่ได้หมายความว่าเราห้ามรู้สึกไม่ดี แต่มันหมายถึงว่าเรารู้เวลาที่จะแสดงออกด้านอารมณ์ อย่าเข้มงวดกับตัวเองมากเกินไป แม้ว่าบางครั้งเราอาจจะระเบิดอารมณ์ไปโดยที่ไม่ทันคิด แต่นั่นเป็นสิ่งที่แสดงว่าเรานั้นเป็นมนุษย์ จงเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเองแทนที่จะกร่นด่าตัวเองเวลาแสดงอารมณ์ของตัวเองออกไป
ยืดหยุ่น อย่ายึดติด
ความยืดหยุ่นนั้นเป็นความสามารถในการเอาชนะความทุกข์ยาก การไม่ยึดติดเป็นสิ่งที่บางคนก็ขอให้มีในชีวิตเพราะบางครั้งมันก็ยากที่จะปล่อยวาง แต่การปล่อยวางก็สร้างได้ เริ่มจากการยอมรับความเปลี่ยนแปลง, มองโลกในแง่ดี, เพิ่มอารมณ์ขันในชีวิต, ใส่ใจดูแลในความสัมพันธ์ และลองทำกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกดีและเบิกบาน การปล่อยวางเป็นเพื่อนที่ดีสำหรับชีวิตมนุษย์ เพราะมันจะช่วยให้ก้าวข้ามผ่านความเจ็บปวดไปได้ มันไม่ได้หมายความว่าเราลืมความเจ็บปวดของตัวเอง แต่มันคือยอมรับและก้าวข้ามผ่านความเจ็บปวดของตัวเองโดยบันทึกไว้เป็นบทเรียนในใจ
สร้างแรงบันดาลใจขับเคลื่อนชีวิต
บางครั้ง มันก็ยากที่จะมาหาสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจหรือขับเคลื่อนชีวิตของตัวเอง แต่ถ้าอยากหาสักสิ่งทำเพื่อเป็นแรงผลักให้กับตัวเอง อาจจะลองออกกำลังกาย เพราะเมื่อร่างกายหลั่งสารเอ็นโดฟิน ก็จะทำให้สมองรู้สึกว่ามีคุณภาพชีวิตที่ดี หรือไม่ก็ลองไปทางศิลปะ เพราะเป็นการระบายความวิตกกังวลในจิตใจออกมาได้ทางหนึ่ง หรืออีกสิ่งที่น่าลองทำคือการนั่งสมาธิ เพราะการนั่งสมาธิทำให้เราได้อยู่กับตัวเอง อาจจะช่วยให้มองเห็นสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อีกหลาย ๆ มุม หรือจะเป็นกิจกรรมอะไรก็ได้ที่ทำให้รู้สึกดี ในการรักษาแผลใจนั้น การตัดขาดจากสิ่งที่ทำร้ายเราก็เป็นเรื่องสำคัญ หรือถ้าแข็งแกร่งพอแล้วก็อาจจะลองเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอีกมุมหนึ่งแทนก็ได้
ขอความช่วยเหลือ
การยอมรับว่าตัวเองไม่สามารถรับมือกับทุกอย่างในชีวิตได้นั้นก็เป็นเรื่องยากอยู่ไม่น้อย แต่คนเราก็ไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร่ซักหน่อย ทำไมต้องรับมือได้ทุกอย่างละ อีกเรื่องสำคัญที่ต้องจำไว้คือ เราสามารถขอความช่วยเหลือได้ แม้ว่าเราจะเคยช่วยคนอื่นเวลามีปัญหาทางใจ แต่เราก็อาจจะไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรเมื่อมันเกิดขึ้นกับตัวเอง อีกทั้งถ้าหากสามารถหาผู้เชียวชาญที่จะช่วยรักษาบาดแผลทางใจได้ก็จะยิ่งดีเข้าไปใหญ่ การใส่ใจนั้นจะทำให้ตัวเรานั้นรู้สึกดีขึ้น และได้ปรับปรุงคุณภาพชีวิตไปในทางที่ดีขึ้น นักจิตวิทยานั้นเป็นผู้ที่ความเชี่ยวชาญในเรื่องพฤติกรรมมนุษย์, ทัศนคติ, ความคิด และอารมณ์ ดังนั้นพวกเขาจะสามารถช่วยในการจัดการสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกเจ็บปวดใจได้ดี และจะช่วยทำให้เรามีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นด้วย
การเห็นอกเห็นใจเป็นอาวุธสำคัญในการรักษาใจ
จงจำไว้ว่าตัวเราเองนั้นไม่ได้โดดเดี่ยวและเดียวดายในสิ่งที่เรารู้สึก เพราะมีคนรู้สึกเหมือนเราเยอะแยะเต็มไปหมด เวลาที่เราใส่ใจแผลใจของตัวเรา เราก็สามารถดูแลคนอื่น ๆ ได้ด้วย ก็ต้องใช้ใจเชื่อมใจกันหน่อยในสถานการณ์เช่นนี้ การเห็นอกเห็นใจจะทำให้เราเข้าใจผู้อื่นได้มากขึ้น เป็นหนทางที่เราจะเข้าใจคนอื่นอย่างถ่องแท้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขา ให้ลองปรับความเข้าใจกับพวกเขา และก็ช่วยหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับพวกเขาเท่าที่เราทำได้
เวลาที่เราอยากจะเข้าใจคนอื่น หรือแสดงความเห็นใจ เราต้องใช้ทั้งความเห็นใจ ความกล้า และความเข้าใจ เพื่อที่เราจะได้ใส่ใจคนอื่นอย่างดีที่สุด และเป็นการแสดงออกเพื่อที่จะสนับสนุนคนอื่นทางใจ การดูแลแผลใจตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันก็เป็นไปได้ อีกทั้งเราอาจจะส่งต่อการดูแลเข้าอกเข้าใจนี้แก่คนอื่นด้วย และมันจะเป็นประโยชน์ต่อคุณภาพชีวิตของเราแน่นอน เพราะเวลาที่เรามีความสุข คนรอบข้างก็มีความสุข สังคมก็จะน่าอยู่ขึ้นไปอีก
เข้าใจตัวเอง ปล่อยให้สิ่งต่าง ๆ เป็นไป อย่าละอายใจที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นหากจำเป็น ใช้ความรู้สึกเห็นอกเห็นใจเป็นเครื่องมือในการที่จะเชื่อมกับคนอื่น ๆ สร้างความยืดหยุ่น และหาแรงบันดาลใจให้ตัวเองในการทำกิจกรรมที่ชอบทำ ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น ปล่อยให้มันเป็นไป ดูแลตัวเองและคนรอบ ๆ ตัวให้ดี ๆ ก็เพียงพอ
ขอบคุณข้อมูลจาก