โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

IRPC เร่ขายสินทรัพย์! หวังช่วยให้บริษัทมีกำไร โบรกฯคาดชัดเจนภายใน 3-6 เดือน

Share2Trade

อัพเดต 20 พ.ค. เวลา 06.57 น. • เผยแพร่ 20 พ.ค. เวลา 07.30 น. • Share2Trade

IRPC มีแผนขายสินทรัพย์ เช่น การขายที่ดินและการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ท่าเรือและคลังสินค้า โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้กำไรของบริษัทกลับมาเป็นบวกอีกครั้ง

IRPC เร่ขายสินทรัพย์!S2T (เว็บ)0.jpg

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า IRPC มีแผนขายสินทรัพย์ที่เป็น non-core/ไม่มี synergy กับธุรกิจปัจจุบัน (คาดว่าจะเห็นความชัดเจน ภายใน 3-6 เดือนข้างหน้า)

โดย บริษัทมีแผนลด unit cost ลงราว 1.2ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ภายในปี 70 จากการปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ส่วน Potential strategic partner ที่จะเข้ามาจะมาจาก การขายหุ้นเพิ่มทุน (PTT จะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่)

อย่างไรก็ตาม ส่วนต่างราคาปิโตรเคมียังคงมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ใน ระดับต่ำต่อเนื่อง กดดันจากภาวะอุปทานล้นตลาด โดยแนวโน้มผลการดาเนินงานไตรมาส 2/68 ยังคงอ่อนแอ จึงยังคงคำแนะนำ “ขาย”

ขณะที่ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ท่ามกลางวัฏจักรขาลงของปิโตรเคมี IRPC มีแผนมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุนการจัดหาวัตถุดิบ ควบคุมค่าใช้จ่ายบุคลากร และลดปริมาณสต๊อกน้ำมันจาก 10 ล้านบาร์เรล เหลือ 7.5 ล้านบาร์เรล โดยมีแผนใช้อัตรากำลังการกลั่นของโรงกลั่น IRPC ที่ระดับ 1.90–2.10 แสนบาร์เรลต่อวัน

จากกิจกรรมเหล่านี้ผู้บริหารคาดว่าจะสามารถเพิ่มความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ ได้ประมาณ 1.2ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล หรือ 2พันล้านบาทต่อปีภายในปี 2570

นอกจากนี้ IRPC ยังมีแผนแปลงสินทรัพย์เป็นเงินสด เช่น การขายที่ดินและการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ท่าเรือและคลังสินค้า โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้กำไรของบริษัทกลับมาเป็นบวกอีกครั้ง

ขณะที่บริษัทฯ อยู่ระหว่างการมองหาพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและลดจุดอ่อน ผ่านความได้เปรียบด้านต้นทุนวัตถุดิบ หรือการขยายเข้าสู่ตลาดใหม่ ซึ่ง อาจเกี่ยวข้องกับการเพิ่มทุนใหม่ให้กับพันธมิตรรายนั้น โดยที่ PTTจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลง แต่ยังคงถือหุ้น ใหญ่ในบริษัทฯ ต่อไป เงินที่ได้รับจากการเพิ่ม ทุนจะถูกนำมาใช้ในการลดหนี้ในช่วงที่อุตสาหกรรมปิโตรเคมีอยู่ในวัฏจักรขาลง

ทอย่างไรก็ตาม ประเมินว่ามีความเสี่ยงขาลงต่อประมาณการกำไรปี 2568 เนื่องจากขาดทุนสุทธิในไตรมาส 1/2568 คิดเป็น 37% ของประมาณการขาดทุนทั้งปี และคาดว่ากำไรในไตรมาส 2/2568 จะยังคงขาดทุนต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 5 ติดต่อกัน

ดังนั้นจึงคงคำแนะนำ “ถือ” พร้อมให้ราคาเป้าหมายกลางปี 2569 ที่ 0.94 บาท อิงจากค่า PBV ที่ 0.30 เท่า สำหรับปี 2568-69 โดยความเสี่ยงหลัก คือ ราคาหุ้นที่จะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่พันธมิตรทางยุทธศาสตร์ ผลกระทบจากการลดสัดส่วนการถือหุ้น และมูลค่าเพิ่มที่ได้จากพันธมิตรรายใหม่ดังกล่าว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...