สว.นพดล เตรียมดัน กมธ.พิเศษ แก้อาชญากรรมไซเบอร์ คอลเซ็นเตอร์

วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 นายนพดล อินนา สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เปิดเผยว่า ในฐานะผู้เสนอญัตติตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อศึกษาปัญหาสังคมที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของคนไทยในปัจจุบัน ซึ่งจะนำเข้าพิจารณาในการประชุมวุฒิสภา วันที่ 15 กรกฎาคมนี้ เหตุผลสำคัญเพราะปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่แม้รัฐบาลจะพยายามแก้ไขมาโดยตลอด และมีพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ไซเบอร์ฉบับใหม่บังคับใช้มาหลายเดือน แต่สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

นายนพดล ระบุว่า ปัจจุบันประเทศไทยสูญเสียเงินจากอาชญากรรมออนไลน์สูงถึงวันละประมาณ 100 ล้านบาท รวมปีละ 2-3 หมื่นล้านบาท ซึ่งวุฒิสภาควรเข้ามามีบทบาทในการศึกษาและเสนอแนะ เพราะถือเป็นปัญหาที่สร้างความเสียหายมหาศาล ทั้งนี้ หากมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง จะสามารถแก้ไขได้ไม่ยาก เนื่องจากผู้ประกอบการตามแนวชายแดนส่วนใหญ่ก็เป็นคนไทย อีกทั้งประเทศเพื่อนบ้านเองก็ใช้สัญญาณโทรคมนาคมของไทยในการก่ออาชญากรรมกลับมาที่ไทย

เมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้ในการแก้ปัญหาท่ามกลางสถานการณ์รัฐบาลที่สั่นคลอน นายนพดลเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเสถียรภาพทางการเมืองมากนัก เพราะกระทรวงสำคัญต่างๆ ยังอยู่ในมือของพรรคแกนนำรัฐบาลพรรคเดียวกัน ซึ่งน่าจะทำให้การแก้ไขปัญหาง่ายกว่าช่วงที่เป็นรัฐบาลผสมหลายพรรค พร้อมทั้งชี้ว่าหากรัฐบาลทำได้สำเร็จ จะเป็นผลงานที่ชัดเจน แต่หากทำไม่สำเร็จ ก็เป็นผลเสียที่โทษใครไม่ได้ เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐบาลโดยตรง

สาระสำคัญของญัตติ ระบุว่า ปัจจุบันไทยกำลังเผชิญกับปัญหาสังคมรุนแรงที่สร้างผลกระทบต่อชีวิตประชาชนและเกิดความเสียหายในวงกว้าง โดยกลไกของรัฐยังไม่สามารถจัดการได้ทันท่วงที เช่น ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปัญหาการพนันออนไลน์ และปัญหายาเสพติด ที่เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่าย จนทำให้จำนวนคดีอาชญากรรมเพิ่มขึ้นสูงมาก ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมของครอบครัวไทยอย่างหนัก

ทั้งนี้ จากข้อมูลของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 18 มิถุนายน 2568 พบว่ามูลค่าความเสียหายจากอาชญากรรมออนไลน์สูงถึง 12,779,626,726 บาท แต่เจ้าหน้าที่สามารถอายัดบัญชีได้ทันเพียงร้อยละ 2 หรือประมาณ 295,764,203 บาท

นายนพดลย้ำว่า ปัญหาภัยสังคมเหล่านี้เป็นภัยคุกคามเร่งด่วนและรุนแรง จนเกินกว่าที่หน่วยงานรัฐจะรับมือได้ทัน ควรให้วุฒิสภาเสนอแนวทางและคำแนะนำเพื่อแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้เสนอให้วุฒิสภาตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาใน 4 ประเด็นสำคัญในการประชุมวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 ได้แก่

1. กมธ.วิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน

2. กมธ.วิสามัญศึกษาปัญหาสังคมที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของคนไทยในปัจจุบัน

3. กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาและติดตามตรวจสอบการแก้ไขปัญหาความมั่นคงตามแนวชายแดนของประเทศไทยแบบบูรณาการ

4. กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติในประเทศไทย

โดยทั้งหมดจะมีกรอบเวลาการพิจารณาศึกษาเป็นระยะเวลา 90 วัน