โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

‘กัณวีร์’ ซัดรัฐบาลไทย ‘ตั้งการ์ดหลวม’ ปล่อยกัมพูชารุกคืบทุกทาง

The Bangkok Insight

อัพเดต 03 มิ.ย. เวลา 11.32 น. • เผยแพร่ 03 มิ.ย. เวลา 11.28 น. • The Bangkok Insight

"กัณวีร์" ย้ำไม่ได้ปลุกปั่นให้เกิดสงคราม ซัดรัฐบาลไทย "ตั้งการ์ดหลวม" ปล่อยกัมพูชารุกคืบทุกทาง

นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อพรรคเป็นธรรม ชี้แจงกรณีโพสต์ข้อความก่อนหน้านี้ระบุว่า “เปิดหัวให้ทราบ แม้ 1 ตารางมิลลิเมตรเดียวจะไม่ยอมสูญเสีย อธิปไตยเหนือดินแดนไทยจะไม่ยอมให้ใครมาพรากไป ผมคนนี้จะไม่ยอม รัฐบาลอ่อนแอ ก็อ่อนไป ฝ่ายนิติบัญญัติต้องเข้มแข็ง เป็นกำลังใจให้พี่น้องทัพภาค 2 ทุกนายครับ”

นายกัณวีร์ ชี้แจงว่า ตนไม่ได้เฮี้ยน ไม่ได้ผีเข้าเรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทุกฝ่ายชอบธรรมในการใช้สันติวิธีจัดการข้อพิพาท และตนไม่ปลุกปั่นให้เกิดสงครามและความรุนแรงที่จะกระทบต่อมนุษย์ทั้งสองประเทศในพื้นที่ ผมไม่สนับสนุนให้ทหารมานำการเมือง

นายกัณวีร์ ระบุว่า ก่อนอื่นต้องบอกและออกตัวว่าตนทำงานชายแดน โดยเฉพาะชายแดนไทย และเรื่องเขตแดนด้วย ทราบดีกรณีพิพาทต้องใช้การเจรจา ไม่ใช่ใช้ความรุนแรง เรามีกลไกต่างๆ ก็ต้องใช้ให้เต็มสูบ

“ผมเลยโพสต์ไปเมื่อวานว่า “เปิดหัว” มาดูฉบับเต็มกันครับว่าความหมายของผมคืออะไร ขออธิบายเพิ่มเติมประเด็นที่เห็นว่าผมปลุกปั่น คลั่งชาติและ/หรือชาตินิยมในเรื่องสถานการณ์ฝั่งชายแดนไทย-กัมพูชานะครับ ผมต้องอธิบายให้เห็นถึงหลักการ เหตุผลและตรรกะในการแสดงความคิดเห็นของผมว่ามันไม่ใช่อารมณ์ความรู้สึกเพียงอย่างเดียว”

นายกัณวีร์ กล่าวว่า หากทุกคนเห็นจะเข้าใจว่าตนสะท้อนถึงการบริหารจัดการของรัฐบาลในฐานะฝ่ายบริหารที่มีอำนาจเต็มในการสั่งการทุกอย่างจากการวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน จากข้อมูลทุกหน่วยแล้ว รัฐบาลต้องมองให้ขาดถึงการรุกคืบของรัฐบาลและองคาพยพ กลไลรัฐของกัมพูชา

“ผมพูดชัดนะครับว่า ไม่เกี่ยวข้องกับ “คนกัมพูชา” ผมไม่ได้ใช้อคติและมีอคติใดๆ ระหว่างคนไทยกับคนกัมพูชาเลยแม้แต่น้อย ผมพูดถึงการวางตัวของรัฐบนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในเวทีโลก แน่นอนความรู้สึกระหว่างคนต่อคนมันต้องปะปน แต่เราต้องแยกให้ออก ไม่งั้นเราตายครับ อยู่กับใครไม่ได้หรอกบนโลกใบนี้”

นายกัณวีร์ กล่าวว่า การรุกคืบอย่างรวดเร็วของฝ่ายกัมพูชาทั้งฝ่ายบริหาร ทั้งมีการส่งกองกำลังมาตรึงกำลัง ขุดเจาะแนวคูเลตเกือบ 1 กิโลเมตร นำทหารมาตั้งรกรากอยู่ในพื้นที่สามเหลี่ยมที่เป็น no man land และฝ่ายนิติบัญญัติยกมือมีมติ 182 เสียง ให้ฟ้องศาลโลกเอาปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ปราสาทโดนตวล ช่องบกสามเหลี่ยมมรกต และเกาะกูดกลับมาเป็นของตนให้จงได้

”นี่คือสิ่งที่กัมพูชาทั้งยั่วยุและดำเนินการตามกลไกฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติของเค้า โดยให้ไทยและโลกเห็นว่าเค้ารุกอย่างรวดเร็วและทำแน่ๆ แต่พอหันมาดูไทยเราเอง ซึ่ง “เป็นประเทศของเรา” กลับยืนตั้งการ์ดแบบหลวมๆ และให้เค้าชกทั้งเหนือและต่ำกว่าเข็มขัดแบบผิดกติกา แต่ไม่ตอบโต้ เหมือนพร้อมพลีชีพแบบ “พระเอก หล่อๆ” มันไม่ได้ครับ“

นายกัณวีร์ ระบุว่า หลังจาก ผบ.ทบ.2 ประเทศพบกันและหารือหลังจากสถานการณ์การปะทะแล้วมีทหารกัมพูชาเสียชีวิต ฝั่งกัมพูชากลับไปแสดงตนประกาศอย่างเป็นทางการถึงการมีสิทธิเหนือดินแดนทันทีตรงพื้นที่ no man land เอากันถึงขนาดนี้ เราก็น่าสังเกตเห็นปฏิกิริยาความไม่ซื่อของกลไกรัฐของกัมพูชาแล้วยังมาเห็นรูปฮุน เซน กับภรรยาใส่ชุดทหารที่ศาลาตรีมุข ก็นี่ไงชัดหรือไม่

พอมาดูฝั่งนิติบัญญัติแล้วก็ยกมือกันท่วมท้นให้ฟ้องศาลโลกเหมือนคดีเขาพระวิหาร ก็ได้มีอดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา อย่าง สม รังสี ผู้อยู่วงในออกมาบอกว่า “แน่จริง เอาดิ” แสดงถึงสัญญาณอะไรบ้างอย่างหรือไม่

“เราต้องมองให้ออกนะ ผมในฐานะฝ่ายนิติบัญญัตินั่งอยู่ในสภาฯ ทราบดีครับว่ามันมีข้อมูลต่างๆ นาๆ ที่เกี่ยวข้องก่อนการที่จะยกมือทุกเรื่องว่าอะไรมันอยู่นอกเหนือจำนวนมือที่ยกผ่านหรือไม่ผ่าน มันแสดงว่าอะไรลับๆ ที่ไม่ออกมาตามจำนวนมือที่ยกนั้นเป็นความจริงที่ไม่ถูกเปิดเผย หากให้ตีความคงต้องเป็นเรื่องว่าทำไมต้องขู่ฟ้องศาลโลก ทั้งๆ ที่ตอนนี้ไทยไม่ยอมรับอำนาจเขตศาลโลกแล้วหลังคดีเขาพระวิหาร ฟ้องไปไทยก็ไม่รับอ่ะจะฟ้องทำไม”

นายกัณวีร์ กล่าวอีกว่า แล้วทราบกันหรือไม่เขตแดนไทย-กัมพูชาที่ยังมีปัญหากันอยู่มีทั้งหมดกี่จุด ตั้งแต่พื้นที่ ทภ.1 - ทภ.2 ตั้งแต่สระแก้ว อุบลฯ ศรีษะเกษ สุรินทร์และบุรีรัมย์มี 30 พื้นที่ หากจะซัดกัน ตนว่าซัดกันนานและแรงมานานแล้ว นี่คือสถานการณ์ชายแดนของประเทศที่มีพื้นดินติดกันและเป็นผลพวงของช่วงล่าอาณานิคม ซึ่งมันเป็นตลอดทั้งรอบชายแดนครับ ต้องใช้การเจรจาผ่านกลไกที่มีทั้งหมดครับ ซึ่งผมขอย้ำนะครับ ผมทราบดีและเห็นว่าทำยังไงอะไรกันในฐานะคนที่เคยทำงาน

“หากใครติดตามจริงๆ จุดปัญหาทั้ง 30 จุดกับกัมพูชานี้จะเห็นว่ามันขึ้นๆ ลงๆ มาตลอด หาทางออกกันไปตามความตกลงทวิภาคีทั้งแบบ จนท.ส่วนหน้าต่อส่วนหน้าและใช้กลไก JBC ตลอดมา มาประทุตอนนี้ เพื่ออะไร การเบี่ยงเบนความสนใจ เพื่อจุดหมายที่ใหญ่กว่าที่มีเม็ดเงินเป็นล้านๆ บาท คือเรื่องพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล OCA ถูกทำให้หลุดจากประเด็นความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาไปเสียอย่างหน้าฉงน การแบ่งปันโควต้าการครอบครองของบริษัทพลังงานแก๊สธรรมชาติ คือบรรษัทข้ามชาติต่างๆ สำเร็จเรียบร้อยไปนานแล้ว แถมยังมีบริษัทพลังงานต่อแถวอยากได้อีกด้วยมากมาย แต่ติดอยู่ก็ตรงยังเป็นพื้นที่ข้อพิพาทนี่แหละ”

นายกัณวีร์ ระบุว่า รัฐบาลคุณเศรษฐาฯ เคยประเมินว่าไทยจะสามารถมีเงินเพิ่มขึ้นจากแก๊สธรรมชาติในพื้นที่ OCA นี้อีกประมาณ 1.5 แสนล้านบาทต่อปี นี่ไม่รวมกับกำไรของพวกบรรษัทข้ามชาติที่จะได้นะครับ มันมหาศาล

หากยังมีข้อพิพาท ก็ทำประโยชน์ไม่ได้ ฮุน เซนและฮุน มาเนตไม่โง่ ฉลาดมาก และในเวลาเดียวกัน สม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้าน ถึงแม้ไม่อยู่ในกัมพูชาก็ไม่โง่และได้รับรู้เรื่องราวทันทีเช่นกัน ทุกคนว่าใช่มั้ย

“เราถูกปิดกั้นความต้องการที่แท้จริงของสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จากฉากทัศน์ที่ถูกสร้างให้ความสนใจคนไทยหมู่มากถูกกระชากจากความเป็นจริงอย่างง่ายดายหรือไม่ ผู้มีอำนาจทั้งสองประเทศรู้ดีครับว่าเรื่องพื้นที่ทับซ้อนมันเรื่องใหญ่ เคยเปิดมาแล้ว และโดนตีตกอย่างแรงมาแล้วตั้งแต่ต้นรัฐบาลคุณเศรษฐาฯ ว่าอย่าเอาเรื่องผลประโยชน์มาเหยียบเหนือเรื่องดินแดน”

นายกัณวีร์ กล่าวย้ำว่า คนที่บอกว่าเราก็หาประโยชน์ร่วมกันไปก่อน แล้วค่อยมาพูดคุยเรื่องดินแดน จบครับ วิ่งปิดประตูไม่เป็นท่า ตอนนี้สถานการณ์มันร่นเข้ามาจวนจะปิดประตูเวลาสภาฯ ไทย หากจะเอา OCA ให้จบก็ต้องใช้เวลาเกือบ 2 ปีนี่แหละ มิเช่นนั้นเริ่มต้นใหม่และคงจะยากในสมัยหน้าปี 70 แน่นอน เพราะกัมพูชาเล่นแง่กับไทยเยอะมาก ผมยังจำได้พื้นที่ OCA แบ่งกัน 5 หรือ 7 ส่วน ว่าควรแบ่งกันยังไง นั่นคือช่วงที่ผมยังจำความได้นะครับ ตอนนี้คงมีรายละเอียดมากกว่านั้น

“อย่าหลงทางครับ รัฐบาลตั้งการ์ดให้มั่น อย่าถูกบิดประเด็นให้เป็นเรื่องความมั่นคงอื่นๆ แล้ววกกลับมาตรงเรื่องผลประโยชน์ที่มันจะกลายเป็นความไม่ชอบธรรมอย่างยาวนาน อย่าดีลลับๆ แล้วใช้กระบวนการดึงความสนใจชั้นเชิงการเมืองแล้วถูกล่อลวงด้วยกลไกฝ่ายบริหาร”

นายกัณวีร์ ระบุว่า ที่ตนบอกว่า “เราต้องไม่สูญเสียดินแดนแม้แต่น้อย” ตนพูดในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติที่ต้องเทิดทูนกฎหมายสูงสุดของประเทศ คือรัฐธรรมนูญ ที่ประเทศไทยเป็นรัฐเดี่ยวไม่สามารถแบ่งแยกได้ ซึ่งดินแดนคืออธิปไตยที่ไม่สามารถถูกพรากไปได้ มิใช่หรือ หรือใครมีเหตุผลเป็นอื่น

“ส่วนเรื่องให้กำลังใจพี่น้องกองทัพภาคที่ 2 ในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่เห็นพี่น้องเราไปอยู่ในสภาวะสงครามเหมือนตัวผมเองที่เคยอยู่ในต่างประเทศ ผมเข้าใจดีว่าพวกเค้ารู้สึกอย่างไรที่ต้องเผชิญหน้าและพร้อมที่จะเสี่ยงเสมอ มันผิดด้วยเหรอครับที่เราจะให้กำลังใจคนไทยด้วยกัน หรือใครมีเหตุผลเป็นอื่นครับ”

นายกัณวีร์ ยืนยันในเรื่องการไม่เห็นด้วยกับความรุนแรงทุกรูปแบบ โลกนี้ต้องการสันติภาพ ตนทำงานสันติภาพมานานและไม่อยากให้เห็นสงครามเกิดขึ้นในโลกใบนี้อย่างแน่นอนครับ โปรดเชื่อมั่นในเรื่องนี้

แต่สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ที่มีอยู่ตอนนี้มันดูทะแม่งๆ เหมือนกับดีลปีศาจ เหตุผลที่เราเห็นกันอยู่มันไม่ใช่การก่อให้เกิดสงครามครับ อย่าหลงประเด็นกัน

“ผมจะทำหน้าที่อย่างสันติอยู่ในฝ่ายนิติบัญญัติ เรื่องนี้ท่านประธานรัฐสภา/สภาผู้แทนราษฎร คงต้องรับทราบและพิจารณาอะไรบางอย่าง เนื่องจากสภาฝั่งกัมพูชาเค้าก็เร่งดำเนินการหากเราเอาแต่นิ่งเฉย คงไม่เป็นการดีแน่ๆ” นายกัณวีร์ กล่าวย้ำ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...