โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์ โร่แจ้งความ เว็บข่าวปลอมสร้างเฟกนิวส์ ไม่กล้ากดลิงก์ หวั่นโดนดูดเงิน

ขอเดินหน้าตัดไฟตั้งแต่ต้นลม สำหรับนักแสดง-นางแบบสาว โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์ ที่ล่าสุดวันนี้ (24 ก.พ. 68 ) เวลา 13.00 น. ได้หอบหลักฐานเดินทางมายัง สน.ทองหล่อ เพื่อเข้าแจ้งความหลังเจอมือดีนำภาพไปแอบอ้างสร้างเฟกนิวส์บนเว็บไซต์ พร้อมแชร์ลงเฟซบุ๊ก ใจความว่า “โยเกิร์ต ถูกจับกุมและตรวจค้น ทำให้อาชีพและวงการบันเทิงของเธอสิ้นสุดลง”

โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์ หวั่นสร้างความเสียหายให้ตัวเอง จึงต้องแจ้งความเว็บปลอม

โดย โยเกิร์ต ได้เปิดใจกับสื่อมวลชนหลังจากเข้าแจ้งความว่า วันนี้เดินทางมาแจ้งความเกี่ยวกับข่าวเฟกนิวส์ เพราะเพื่อนไปเจอข่าวนี้ กลัวว่าจะมาสร้างความเสียหายให้ตัวเอง และเกรงว่าจะเป็นมิจฉาชีพ ด้วยความสบายใจเลยปรึกษาทางค่ายและผู้จัดการส่วนตัวแนะนำให้เข้าแจ้งความ ตนจึงตั้งใจเดินทางมาแจ้งความด้วยตัวเอง รวมถึงจะได้สร้างความตระหนักรู้ให้แก่ประชาชน กลัวว่าจะมีคนหลงเชื่อคลิกเข้าไปเว็บไซต์นี้แล้วเงินอาจจะหายได้ รูปแบบของมิจฉาชีพครั้งนี้ ได้เขียนข่าวว่าตนโดนตำรวจจับกุม มันเลยทำให้สร้างความเสียหาย นอกจากนี้ก็มีโควทคำพูดที่บอกว่าตนเป็นคนพูด แต่จริง ๆ เราไม่ได้พูด วันนี้เลยมาแจ้งความเพื่อไม่ให้เกิดการเข้าใจผิด ซึ่งเหตุการณ์นี้เจอมาตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ และก่อนหน้านี้ก็เคยมีเฟคนิวส์เกิดขึ้นกับตนเช่นกัน อาจจะรวบยอดทั้งหมดอีกที แต่ก็ทำเท่าที่จะทำได้

ถามว่าในกรณีนี้ได้คลิกเข้าไปดูมั้ยว่าคือเว็บไซต์อะไร? สาว โยเกิร์ต บอกว่า ไม่กล้าคลิกเข้าไปดูจึงไม่รู้ว่าเกี่ยวกับเว็บพนันหรือไม่ เพราะกลัวว่าจะเป็นมิจฉาชีพดูดเงิน แต่ไม่รู้ว่ามีคนเข้าใจผิดไปเยอะมั้ย เพราะเห็นว่าเขายิงแอดด้วยทางเฟซบุ๊ก ด้านผลกระทบตอนนี้ยังไม่มีอะไร นอกจากความสบายใจ ทุกวันนี้ก็ต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง อย่างล่าสุดเห็นเพื่อนโพสต์เกี่ยวกับมิจฉาชีพ หากเจอกระเป๋าตังค์ในห้องน้ำไม่ควรหยิบ เอาเป็นว่าหากเตือนอะไรได้ก็เตือน อย่างวันนี้ตนก็เป็นอีกหนึ่งเสียงที่ช่วยเตือนให้ระวัง ตนก็ไม่รู้ว่าเว็บไซต์นี้เกี่ยวกับเว็บพนันด้วยหรือไม่

ถามว่าเหมือนฟาดเคราะห์รับวันเกิดมั้ย เพราะวันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา เป็นวันเกิดของสาว โยเกิร์ต งานนี้เจ้าตัวบอกว่า เหตุการณ์นี้มันเกิดตอนช่วงวันเกิดพอดีเลย แต่ถือโอกาสดีที่จะมาแจ้งความวันนี้ แต่ปีนี้ตนเช็กแล้วไม่ได้เป็นปีชง

หลังจากที่ โยเกิร์ต เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เจ้าหน้าที่จะดำเนินการส่งหลักฐานให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ตรวจสอบเว็บไซต์ว่ามีตัวตนหรือไม่ เป็นคนในพื้นที่ใด ก่อนจะส่งหมายเรียกตัวให้กับผู้กระทำความผิดเป็นลำดับต่อไป .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

ภาพจาก yoghurt_nattasha