โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ครม. อนุมัติครอบครองอาวุธปืนต้องมีใบรับรองแพทย์ จริงหรือ?

สวพ.FM91

อัพเดต 24 ต.ค. 2565 เวลา 22.13 น. • เผยแพร่ 24 ต.ค. 2565 เวลา 22.13 น.

ตามที่มีข้อมูลในสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องครม. อนุมัติครอบครองอาวุธปืนต้องมีใบรับรองแพทย์ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการและกำหนดหน่วยงานรับผิดชอบหลักในการแก้ไขปัญหาอาวุธปืนและยาเสพติด โดยมีมาตรการระยะเร่งด่วนสำคัญ 4 มาตรการ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบและรวดเร็ว นําไปใช้ได้จริงในการสร้างความปลอดภัย ต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ตลอดจนบูรณาการการทํางานร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

1. มาตรการเกี่ยวกับอาวุธปืน ได้แก่

- การอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน เช่น เพิ่มเติมเอกสารใบรับรองแพทย์ หนังสือรับรองจากต้นสังกัด/นายจ้าง

- การจัดการอาวุธปืนที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือที่มีกฎหมายห้ามออกใบอนุญาต โดยผ่อนผันให้ผู้ครอบครองนําอาวุธปืนที่ไม่ได้รับอนุญาต/หรือที่มีกฎหมาย ห้ามออกใบอนุญาตมาส่งมอบให้แก่ภาครัฐหรือนํามาขึ้นทะเบียน

- การป้องกันและปราบปรามในเชิงรุก เช่นตรวจจับการค้าอาวุธที่ไม่ได้รับอนุญาต

- มาตรการทางดิจิทัล เช่น การป้องกันการค้าอาวุธปืนบนแพลตฟอร์มดิจิทัล

2. มาตรการด้านการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เช่น

การควบคุมสารเคมีที่นำใช้ผลิตยาเสพติด การทำลายเครือข่ายนักค้ายาเสพติดและยึดทรัพย์ ติดตามจับกุมผู้มีหมายจับคดียาเสพติด การค้นหาผู้ติดยาเสพติดทั่วประเทศ การติดตามข้อร้องเรียนประชาชน การทบทวนผู้เสพเป็นผู้ป่วย และการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (EM)

3. มาตรการด้านการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ประกอบด้วย

- ระยะเร่งด่วน ค้นหาและคัดกรองผู้ป่วยจิตเวช

- ระยะกลาง เร่งรัดจัดตั้งสถานฟื้นฟูสมรรถภาพ

- ระยะต่อเนื่อง โดยใช้ชุมชนเป็นฐานบำบัดยาเสพติด

4. มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาสุขภาพจิต เช่น การพัฒนาเครือข่ายในและนอกระบบสุขภาพ และการพัฒนาเครือข่ายในชุมชน

ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.prd.go.th หรือโทร. 02-618-2323

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...