DMT เปิดแผนธุรกิจเตรียมรับมือ หลัง “ดอนเมืองโทลล์เวย์” หมดสัมปทาน มั่นใจยอดใช้ทางพิเศษพุ่ง ดันรายได้ทั้งปีโตเข้าเป้า 10%
ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT เปิดเผยถึง ประเด็นการปรับอัตราค่าผ่านทางทางยกระดับอุตราภิมุข หรือ ดอนเมืองโทลล์เวย์ เป็นการปรับราคาค่าผ่านทางตามสัญญา ซึ่งได้มีการกำหนดไว้ตั้งแต่แรก ปัจจุบันบริษัทมีหน้าที่ทำตามสัญญาสัมปทาน
โดยวันที่ 22 ธ.ค. 67 จะมีการปรับอัตราค่าผ่านทางตามปกติ โดยกำหนดอัตราค่าผ่านทาง ช่วงดินแดง-ดอนเมือง จากปัจจุบัน 80 บาท ขึ้นเป็น 90 บาท และช่วงดอนเมือง-อนุสรณ์สถาน จาก 35 บาท ขึ้นเป็น 40 บาท อย่างไรก็ตาม บริษัทพร้อมน้อมรับและสนับสนุนนโยบายของกระทรวงคมนาคมและกรมทางหลวงทุกด้าน เช่น การให้คูปองส่วนลด
ส่วนประเด็นที่สัญญาสัมปทานทางยกระดับดอนเมืองจะสิ้นสุดในปี 2577 และกรมทางหลวงอาจไม่ขยายสัมปทาน บริษัทมีแนวทางการปรับมืออย่างไรนั้น ดร.ศักดิ์ดา ระบุว่า หลังหมดสัมปทานในปี 2577 ตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ก่อนหมดสัญญา 5 ปี หรือประมาณปี 2572 กรมทางหลวงจะศึกษาแนวทางในการดำเนินโครงการต่อว่ารูปแบบไหนจะคุ้มค่าและให้ประโยชน์มากกว่ากัน รวมถึงพิจารณการให้บริการประชาชนได้อย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งบริษัทจะให้ความร่วมมือในส่วนนี้เช่นกัน
ทั้งนี้ บริษัทมีการวางแผนเพื่อรับมือและสร้างการเติบโตให้ธุรกิจ ทั้งการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ การเข้าร่วมประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง ได้แก่ โครงการ M82 (โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางขุนเทียน – บ้านแพ้ว) และ โครงการ M5 (ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงรังสิต – บางปะอิน) ซึ่งคาดว่าปลายปี 67 ถึงต้นปี 68 อาจเห็นความชัดเจน
รวมถึงการแสวงหาโอกาสในธุรกิจใหม่เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับบริษัท โดยคาดว่าภายในช่วง 2 ปีจากนี้ จะเริ่มเห็นความชัดเจนมากขึ้น อีกทั้งบริษัทยังมีโครงการสำคัญอย่าง บริษัท เอ สยาม อินฟรา จำกัด ซึ่งปีนี้คาดจะทำรายได้ดีกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งนี้ บริษัทมีแผนการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเข้ามาสนับสนุนการให้บริการ ปัจจุบันระหว่างขั้นตอนการศึกษา
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการปรับอัตราค่าผ่านทาง รวมถึงการกลับมาให้บริการที่สนามบินดอนเมืองของสายการบิน ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ และหากแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวได้ดีกว่าคาด น่าจะช่วยสนับสนุนให้ปริมาณการจราจรเฉลี่ยต่อวันบนถนนวิภาวดีและทางยกระดับดอนเมืองสูงขึ้น ทำให้ปริมาณการจรจาบนทางยกระดับดอนเมืองอาจกลับไปอยู่ในระดับสูงกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ได้ ช่วยหนุนให้ภาพรวมผลประกอบการปี 2567 รายได้เติบโต 10% ตามเป้าหมายที่วางไว้ และมีปริมาณจราจรเฉลี่ยต่อวันคาดว่าจะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 116,000 คันต่อวัน จากปี 2566 เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 106,907 คันต่อวัน