สมัยนี้เล่ห์อุบายกลลวงในการหลอกล่อให้เสียเงินมีอยู่มากมายเรียกว่าหลายร้อยเล่มเกวียนก็ว่าได้ สารพัดเทคนิคที่เหล่ามิจฉาชีพนำมาใช้ขายฝัน เกลี้ยกล่อมให้คนที่ตามไม่ทันยอมควักเนื้อ ผลสุดท้ายปล่อยทิ้งให้เคว้างคว้างเหมือนคว้าอากาศที่ไม่อาจจับต้องได้ กว่ารู้ตัวว่าถูกหลอกก็แทบสิ้นเนื้อประดาตัว
นั่นจึงเป็นสาเหตุที่เราต้องเฝ้าระวังและตั้งสติให้ดีทุกครั้งก่อนที่จะตัดสินใจเชื่อ เพื่อมิให้ตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพ หากเราเอะใจเตือนตนเองได้ด้วย 4 ข้อคิดนี้ เชื่อว่าจะช่วยคุ้มครองให้หลายคนรอดพ้นจากการถูกหลอกได้ระดับหนึ่ง
1. ไม่โลภมากอยากได้อยากมี
เพราะใคร ๆ ก็ล้วนมีความฝัน อยากมีคุณภาพชีวิตที่ดี อยากกินดีอยู่ดี ใช้ของดี เป็นที่นับหน้าถือตาในสังคม ยิ่งยุคนี้มีโซเชียลมีเดียเป็นเหมือนพื้นที่โชว์ไลฟ์สไตล์ชีวิตดี๊ดีน่าอิจฉา กินอะไร ไปเที่ยวไหน สวมใส่อะไรก็อวดได้แค่กดโพสต์ ยิ่งกระตุ้นความอยากได้อยากมีจนต้องไขว่คว้าหาสารพัดวิธีที่จะทำอย่างไรให้ได้มาซึ้งความหรูหรานั้น การมีความหวังมีความฝันเช่นนี้ก็เปรียบเหมือนดาบสองคม ด้านที่ดีก็คือเป็นการกระตุ้นให้เราไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาทักษะในการทำงาน/การหารายได้ แต่ก็เป็นจุดอ่อนที่บรรดามิจฉาชีพใช้ในหว่านล้อมได้เช่นกัน
2. ไม่เกียจคร้านหวังพึ่งแต่ทางลัด
ในวัยเด็กเรามักถูกสอนให้ท่องจำให้ขึ้นใจว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” เพราะการอยากได้อะไรต้องใช้ความพยายาม อยากมีเงินใช้ก็ต้องลงทุนลงแรง มีความขยัน ไม่ย่อท้อ แต่น่าเสียดายที่หลายคนหวังรวยทางลัด เมื่อมีข้อเสนอว่าทำอย่างไรให้สำเร็จไว ใช้เวลาน้อยที่สุด ยิ่งเหนื่อยน้อยที่สุดได้ยิ่งดี จึงเป็นหลุมพรางที่มีกลิ่นหอมหวานเย้ายวนชวนให้ตกลงไป เจ็บตัวกันหลายราย พึงรู้ไว้ว่าบุคคลที่ประสบความสำเร็จที่เราเห็นกันในปัจจุบันส่วนใหญ่พวกเขาล้วนต้องเจอกับอุปสรรค ต้องสู้เพื่อเอาชนะความยากลำบากกันมาหลายรูปแบบกว่าจะมีทุกวันนี้.. ที่คุณเห็นนั้นมันแค่ ‘ปลายทาง’
3. หยุดเกรงใจไม่เข้าเรื่อง
จงซื่อสัตย์ต่อสถานะการเงินของตัวเอง หากถูกชักชวนให้ร่วมลงทุนที่เงินในกระเป๋าของคุณไม่เป็นใจก็อย่าได้ฝืนจ่ายให้เจ็บตัว ไม่ว่าจะเป็นการชักชวนโดยคนที่เกรงใจสักแค่ไหน หรือถูกกดดันหรือหว่านล้อมด้วยวิธีไหนก็อย่าได้หวาดกลัว เพราะสุดท้ายถ้าพลาดพลั้งขาดทุนไม่เป็นท่า คนที่จะพังก็มีเพียงตัวของคุณเอง
4. ไม่ใจอ่อนขี้สงสาร
เพราะความ ‘ดราม่าน่าสงสาร’ ยังคงเป็นมุกคลาสสิคที่สามารถพังทลายทุกกำแพงได้อย่างราบคาบ และแน่นอนว่ามิจฉาชีพก็เล็งเห็นในจุดนี้ และใช้มันเป็น (หนึ่งใน) วิธีที่จะพิชิตเงินในกระเป๋าของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ ที่นิยมส่วนใหญ่มักเป็นการบอกเล่าเรื่องราวความยากลำบากแล้วปิดท้ายด้วยการขอเงินช่วยเหลือ ซึ่งหากไม่ช่วยก็ดูจะเป็นการใจร้ายจนเกินไป แต่หากช่วยแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าไม่ได้กำลังโดนหลอก ทางที่ดีลองช่วยเหลือกันในเรื่องของการมอบโอกาสในการหาอาชีพ ย่อมดีกว่าการให้ช่วยเป็นเงินที่ได้มาง่ายก็ใช้หมดไปง่าย ไม่จีรังยั่งยืน แต่หากคิดทบทวนดีแล้วสะดวกให้ความช่วยเหลือเป็นเงิน ก็จงทำใจอาไว้แต่เนิ่น ๆ เป็นการดี
ทั้ง 4 ข้อที่ว่ามานี้หากนำไปปรับใช้อาจช่วยปกป้องจากการถูกโกงในเรื่องอื่น ๆ ได้อีกเช่นกัน เพื่อความอยู่รอดปลอดภัย ไม่ถูกใครเอารัดเอาเปรียบได้ง่าย ๆ
ความเห็น 11
Supamitr
มีทุกยุคคนหัวอ่อนเพราะความโลภเลยตกเป็นเหยื่อยของคนฉลาดที่ตั้งใจโกงหลอกลวงให้ตกเป็นเหยื่อย
10 ต.ค. 2564 เวลา 02.16 น.
supe®model
ข้อ 5 ไม่มีตังค์
เมื่อไม่มีตังค์ จบทุกปัญหา555
31 ก.ค. 2565 เวลา 09.11 น.
ไม่เชื่อคนอื่น แต่เชื่อตัวเราเองครับ
ลงทุน เงินฝาก สลากออมสิน ทองคำ หุ้น กองทุนรวม
....รอเก็บดอกผลกินเรื่อยๆ ยาวๆ🤩🤩🤩
11 ต.ค. 2564 เวลา 12.50 น.
non
มีทั้งสี่ข้อเลยที่กล่าวมา แต่สงสัยว่าถ้า"ที่เขาว่า" มันดีรวยจริงจะมาบอกเราทำใม ทำไมใม่ชวนโครตเหง้าหมู่สหายมาทำ ....ป้ายหน้าเลยครับ
14 ต.ค. 2564 เวลา 02.06 น.
หนึ่ง
ก่อนที่คิดจะตัดสินใจทำในสิ่งใดก็ตาม ในการคิดพิจารณาให้อย่างรอบครอบ ย่อมที่จะช่วยได้อยู่เสมอ.
11 ต.ค. 2564 เวลา 10.56 น.
ดูทั้งหมด