โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

เรื่องสั้น

ย้อนเวลากลับไปอ้อนรักคุณสามี ยุค 70

นิยาย Dek-D

อัพเดต 23 เม.ย. เวลา 13.09 น. • เผยแพร่ 23 เม.ย. เวลา 13.09 น. • arphaphorn15
ย้อนเวลากลับไปอ้อนรักคุณสามี ยุค 70
เสิ่นถิงถิง หญิงสาวร่างอ้วนคนหนึ่งที่ได้ย้อนเวลากลับไปแก้ไขความผิดพลาดในอดีต ชาติก่อนเธอโง่หลงรักชายเลวทั้งที่มีสามีที่แสนดีและหล่อเหลา ย้อนเวลากลับไปครั้งนี้เพื่อแก้แค้นและร่ำรวยเท่านั้น

ข้อมูลเบื้องต้น

เสิ่นถิงถิง ชาติก่อนเธอหลงเชื่อในรักที่จอมปลอมจนทำร้ายชายหนุ่มที่แสนดี

เธอเชื่อคำลวงของพี่สาวกับแม่เลี้ยง โดนวางยาพิษจนกลายเป็นคนอ้วนที่น่ารังเกียจ
โดนคนที่คิดว่าแสนดีหลอกให้รัก ทำร้ายจนตายตก
กลับมาชาตินี้เธอจะรักสามีที่แสนดีคนนั้น และลดความอ้วนเพื่อสวยให้คนเลวอิจฉา จะร่ำรวยให้ได้ด้วยฝีมือทำอาหารของตัวเองที่ไม่เป็นสองรองใคร

[ นิยายเรื่องนี้ไม่ได้อิงตามประวัติศาสตร์ใดๆ เหตุการณ์และการกระทำของตัวละครเป็นสิ่งที่นักเขียนปั้นแต่งขึ้นเท่านั้น โปรดอ่านเพื่อความสนุกและผ่อนคลาย ]

ย้อนกลับ

เสิ่นถิงถิงหญิงสาวอวบอ้วนแห่งหมู่บ้าน หลวนซาน เธอเป็นเด็กสาวอายุสิบเจ็ดปี ที่กำลังจะแต่งงานในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่มันไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการเลย

นั่นเพราะเธอไม่ได้ชอบเขา ชายหนุ่มที่กำลังจะเป็นสามีของเธอ ถึงแม้ว่าเขาจะหน้าตาดี แต่เธอไม่ได้ชอบเขาเลยสักนิด สู้พี่ชายหมิงลู่ของเธอก็ไม่ได้ เราสองคนรักกันและวางแผนจะแต่งงานกันด้วย

“นี่ถิงถิง ไม่ไปหาว่าที่สามีของเธอหน่อยหรอ พี่ว่าเธอควรไปทำความรู้จักกับเขาไว้นะ ต่อไปก็ต้องแต่งงานเป็นสามีภรรยากันแล้ว ถึงเขาจะตัวคนเดียว ยากจนไปบ้าง แต่มันก็ดีต่อเธอนะเพราะจะได้ไม่ต้องคอยเอาใจพ่อแม่สามี สุดท้ายแต่งงานกันไปเธอก็ต้องได้เป็นใหญ่ในบ้าน อีกอย่างพี่ว่าเธอควรจะดีใจนะเพราะเขาเองก็ถือว่าเป็นชายหนุ่มที่หน้าตาดีส่วนเธอก็เอ่อ อาจจะอ้วนไปบ้างได้แต่งงานกับเขาก็ถือว่าเป็นโชคดีของเธอแล้วล่ะ”

จูเฟยเมี่ยวปิดปากแอบขำสะใจ เธอมองถิงถิงด้วยสายตาเหยียดหยาม หึ อ้วนขนาดนี้ได้แต่งงานกับหยางอี้ก็ถือว่าดีแค่ไหนแล้ว ยังหวังว่าจะได้แต่งงานกับพี่ชายหมิงลู่อีก เหอะ หวังสูงไม่ดูสารรูปตัวเองเลยสักนิด อ้วนขนาดนี้ผู้ชายที่ไหนเห็นก็ต้องวิ่งหนีแล้ว

“ฉันไม่ได้ชอบเขานี่คะพี่” เสิ่นถิงถิงเบ้ปากอย่างไม่ชอบใจ แบบนี้พี่ชายหมิงลู่จะเข้าใจผิดและเสียใจขนาดไหนแล้วก็ไม่รู้

เฉินหมิงลู่ ชายหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลา อายุสิบแปดปี วันๆ ไม่ทำงานมีดีแค่ใช้ความหล่อหลอกล่อหญิงสาวไปวันๆ เขาเป็นที่ชื่นชอบของหญิงสาวเกือบทั้งหมู่บ้าน รวมถึงจูเฟยเมี่ยวพี่สาวของถิงถิง แต่เธอไม่ได้แสดงออกว่าชอบหมิงลู่เลยสักนิด ทั้งที่ลับหลังถิงถิง หญิงสาววางแผนกับหมิงลู่ให้เขาหลอกทำดีกับเธอเพื่อความสะใจ

โดยที่ถิงถิงคิดว่าหมิงลู่แอบมีใจให้ตนเอง เธอทำดีกับเขาทุกอย่าง คิดว่าเขาเป็นชายหนุ่มที่ดี เธออ้วนเขาก็รัก เขาอยากได้อะไรเธอก็หามาให้ ขนาดที่ว่าหาฟืน หาบน้ำให้กับครอบครัวของเขาแบบไม่คิดมากอะไรเลย เรียกได้ว่าเธอโดนหลอกใช้งานนั่นเอง

หลังจากที่ถิงถิงแต่งงานกับ หลงหยางอี้ ชายหนุ่มทำดีกับเธอทุกอย่าง ทำหน้าที่สามีที่ดี แต่ถิงถิงกับยังแอบพบเจอกับหมิงลู่อยู่ตลอด คอยเอาเงินที่สามีหามาไปให้เขา ซื้อของให้ แอบเอาเนื้อหมู ของกินของใช้ไปให้เขาอยู่ร่ำไป

ถิงถิงไม่สนใจอะไร เธอยังคงคิดว่าหมิงลู่นั้นมีใจให้ตน เพราะเขาพูดดีและทำดีกับเธอตลอด

แต่วันนี้เขากลับเปลี่ยนไป เขากำลังจะแต่งงานกับพี่สาวของเธอ ได้ยังไงกัน ตั้งแต่เมื่อไหร่ พวกเขาสองคนไปแอบชอบกันตั้งแต่ตอนไหน เธอทำไมไม่เคยรับรู้อะไรเลย

“พี่หมิงลู่ พี่จะแต่งงานกับพี่สาวของฉันไม่ได้นะคะ ฉันกับพี่เรารักกันไม่ใช่หรอ ทำไมพี่ถึง”

“ใครจะไปชอบคนอย่างเธอกัน อ้วนก็อ้วน สภาพอย่างนี้ฉันยังไม่อยากจะมอง ที่ทนทำดีกับเธอมาได้ขนาดนี้ เธอควรดีใจและขอบคุณฉันนะ หึ น่าเกลียด”

เฉินหมิงลู่ มองหญิงอ้วนที่ตนแสนจะขยะแขยง ถ้าไม่เห็นแก่น้องเฟยเมี่ยวล่ะก็ เขาไม่มีทางมาทำดีกับหล่อนแน่

“พี่ พี่พูดแบบนี้ออกมาได้ยังไง แล้วที่ผ่านมาล่ะ ฉันทำอะไรให้พี่มากมาย ทั้งเงินทั้งของแม้แต่แรงกายฉันก็มอบให้พี่ แล้ววันนี้พี่กลับมาพูดแบบนี้เนี่ยนะ” ถิงถิงมองชายหนุ่มที่ตนรักด้วยสายตาเจ็บปวด และโกรธแค้น มือสองข้างของเธอกำแน่นจิกเข้าเนื้อจนเลือดซิบ

“หึ เธอควรกลับไปได้แล้วนะ กลับไปหาสามีพิการของเธอสิ เขารอเธอไปดูแลอยู่นะ เธอแต่งงานแล้วกลับมาวุ่นวายกับว่าที่สามีของพี่สาวแบบนี้รู้ถึงไหนอายถึงนั่น” จูเฟยเมี่ยวมองถิงถิงด้วยสายตาเยาะเย้ย

“พี่ทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง ที่ผ่านมาพี่หลอกทำดีกับฉันงั้นหรอ”

“ฮ่า ฮ่า ทำดีกับเธอ ใช่ฉันเกลียดเธอมาตลอด ที่ผ่านมาฉันแค่หลอกใช้เธอเพื่อความสะใจเท่านั้นแหละ แล้วเธอเห็นนี่ไหม ยาที่เธอคิดว่าเป็นสมุนไพรบำรุงร่างกาย แต่ความจริงแล้วมันคือยาที่ทำให้เธออ้วนแบบนี้ไงล่ะ หึ ฉันกับแม่เสาะหามาให้เธอด้วยความรักเลยนะเนี่ย”

จูเฟยเมี่ยวเทยาทั้งหมดลงพื้นพร้อมกับใช้เท่าเหยียบซ้ำ

“พี่กับแม่ไม่เคยรักฉันเลยสินะ ฮึก ฉันจะฆ่าแก อ๊ากกก” ถิงถิงโกรธมากจนเธอไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้อีกต่อไป

เธอวิ่งเข้าไปบีบคอของเฟยเมี่ยวแน่นจนเธอหน้าเขียวเพราะหายใจไม่ออก

“พะ พี่ ช่วยฉะฉันด้วย อื้อ”

“นี่ปล่อยเฟยเมี่ยวนะยัยอ้วน ปล่อยสิวะ” หมิงลู่ร้อนรนตื่นตระหนก เขาพยายามดึงถิงถิงออก แต่กลับไม่สามารถสู้แรงของเธอได้เลยสักนิด

ปัก!

อึก!

ร่างอ้วนของถิงถิงค่อยๆ ล้มลงไปกับพื้น เลือดมากมายไหลออกมาจากศีรษะของเธอ หญิงสาวกุมท้ายทอยด้วยความเจ็บปวด

“แค่ก แค่ก หน็อยนังนี่ กล้าคิดจะฆ่าฉันงั้นหรอ” จูเฟยเมี่ยวตรงเข้าไปกระทืบร่างอ้วนของถิงถิงด้วยความโมโห โดยที่มีหมิงลู่เข้าไปร่วมเสริมอีกคน

“อึก! เจ็บ! ฉันเจ็บ” ถิงถิงสายตาเลือนราง มองคนที่ตนเคยรักและคิดว่าหวังดี กำลังจะฆ่าตนด้วยความเจ็บปวด

“หึ ฉันจะบอกให้นะว่าสามีพิการของเธอก็เป็นฝีมือของฉันเองแหละ ฮ่า ฮ่า” เฟยเมี่ยวหัวเราะสะใจ

“แก อึก! แคก!” ถิงถิงกระอักเลือด

“หล่อนจะตายหรือเปล่า” หมิงลู่มองถิงถิงด้วยใจที่หวาดหวั่น เขาพึ่งคิดได้ว่าทำรุนแรงเกินไป

“ตายก็ดีสิคะ เราแค่เอาเธอไปโยนในป่าลึกก็จบแล้ว”

หลังจากที่เสิ่นถิงถิงได้รับรู้ทุกอย่างน้ำตาแห่งความเจ็บปวดและรู้สึกผิดก็ไหลออกมาไม่ขาดสาย เธอคิดไปถึงสามีที่หวังดีกับตนแต่ต้องมาพิการเพราะเธอ คิดไปถึงทุกสิ่งอย่างที่เขาทำให้ และความโง่เขลาของเธอเอง ไม่นานเธอก็ไม่สามารถทนความเจ็บปวดได้แหละสิ้นใจตาย

“หล่อนตายแล้ว เอาไงดี เราฆ่าคนตาย น้องเฟยเมี่ยว เราจะโดนจับหรือเปล่า เอาไงดี ทำยังไงดี” หมิงลู่แสนใจเสาะ

“ก็แค่เอาเธอไปโยนทิ้ง เร็วสิคะ เราช่วยกันก่อนที่จะมีใครมาเห็นเข้า”

“ได้ๆ”

ทั้งสองคนหามร่างไร้ลมหายใจของถิงถิงไปทิ้งในป่าลึก

หลายวันต่อมาชาวบ้านไปเจอร่างของถิงถิงที่มีรอยกัดแทะจนชิ้นส่วนขาดหายอยู่ในป่า พวกเขาต่างก็เล่าลือกันไปต่างๆ นานา แต่ก็ไม่มีใครคิดว่าเฟยเมี่ยวกับหมิงลู่จะเป็นฆาตกรเลยสักนิด เพราะที่ผ่านมาพวกเขาต่างทำดีกับถิงถิงมาตลอด มีบางคนที่บอกว่าสมควรแล้วที่เธอตายไปบางคนก็สงสารในชะตากรรมของเธอ

หยางอี้ที่ได้รับรู้เรื่องราวจากลุงข้างบ้าน เขาก็น้ำตาไหลร้องไห้ไม่นานก็สิ้นใจตายไปอีกคน

อึก! แคก! แคก!

“นี่เธออยู่ที่ไหนกัน” เธอตายไปแล้วไม่ใช่หรือไง แล้วตอนนี้ ถิงถิงมองชายหนุ่มที่กำลังประคองเธออยู่ เป็นเขา สามีของเธอ อึก! ดวงตาของเธอเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา ฮึก!

“ไม่เป็นอะไรแล้วนะ” น้ำเสียงอบอุ่นพูดปลอบเธอ

ถิงถิงมองเขาด้วยสายตารู้สึกผิด เธอมองไปยังชาวบ้านที่ยืนมุงอยู่ไม่ไกล พร้อมกับลูบคลำร่างกายอวบอ้วนของตนด้วยความตื่นตระหนก

นี่เธอยังไม่ตายหรอ ไม่ใช่สิ นี่มันเป็นตอนที่เธอโดนผลักตกน้ำก่อนจะได้แต่งงานกับหยางอี้นี่ หรือว่าเธอย้อนเวลากลับมา

“เดียวฉันจะพาเธอกลับบ้าน” หยางอี้อุ้มร่างอ้วนที่หนักเกือบแปดสิบกิโลของถิงถิง พาเธอกลับไปส่งบ้าน ถิงถิงมองเขาพร้อมกับน้ำตาไหล มันทำให้หยางอี้คิดไปไกลว่าเธออาจจะบาดเจ็บ เขาเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นด้วยความร้อนใจ

สุดท้ายก็คงมีแต่เขาที่หวังดีกับเธอ ทำไมกัน ฮึก!

เธออ้วนและไม่สวยเลยสักนิด ทำไมเขาถึงดีกับเธอขนาดนี้ หรือเป็นเพราะเขาแค่แสนดีเท่านั้น

********

<ฝากนิยายเรื่องใหม่ด้วยจ้า>

เรื่อง แม่ลูกสองคนนี้เลิกร้ายกาจนานแล้ว [1988]

จิ้ม…..

https://writer.dek-d.com/arphaphorn15/writer/view.php?id=2531169

ขอแก้ตัวอีกครั้ง

หลังจากที่หยางอี้พาเธอมาส่งที่บ้าน เขาก็กลับไปทันที ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ที่บ้านเลยสักคน แต่หลังจากนี้ไม่นาน แม่เลี้ยงของเธอก็จะกลับมาแล้วโวยวายยกใหญ่ บอกว่าเธอเสื่อมเสียชื่อเสียง เป่าหูพ่อของเธอให้ไปเรียกร้องให้หยางอี้แต่งงานกับเธอ

“เธอจะทำยังไงดี จะปล่อยให้ยังแม่เลี้ยงร้ายกาจดีต่อหน้าแต่ลับหลังเลวทำร้ายเธอต่อไปไม่ได้แล้ว”

ถิงถิงจิกมือแน่นด้วยความโกรธ ชาติที่แล้วเธอโง่เองที่เห็นว่าพวกเขาหวังดีต่อเธอ และคิดว่าหมิงลู่รักเธอ หึ คอยดูเถอะ ใครที่ทำอะไรกับเธอไว้ ต่อไปอย่าหวังว่าเธอจะยอมอีก

เสิ่นถิงถิง เป็นหญิงสาวอายุสิบเจ็ดปี แม่ของเธอตายจากตั้งแต่เธออายุเก้าขวบในเหตุการณ์น้ำท้วมใหญ่ครั้งนั้น ส่วนพ่อของเธอ เสิ่นลี่กวาง เขาก็ไม่ค่อยใส่ใจเธอเลยหลังจากที่แม่ตายไป เธออายุสิบขวบพ่อก็แต่งงานใหม่กับแม่ม่ายลูกติด หวังเฟยฮุ่ย

ลูกติดของเธอชื่อจูเฟยเมี่ยว ตอนนี้อายุสิบแปดปี เป็นเด็กสาวหน้าตาดีคนหนึ่ง

ไม่นานหลังจากที่พ่อแต่งงานใหม่แม่เลี้ยงก็มีลูกชายซึ่งก็มีศักดิ์เป็นน้องชายต่างแม่ของเธอด้วยหนึ่งคน ชื่อเสิ่นลู่คง เด็กชายอายุหกขวบแล้ว เขาเป็นคนที่พ่อของเธอรักมากที่สุด เพราะพ่อเองก็หวังอยากได้ลูกชายมานาน

พอหวังเฟยฮุ่ยมีลูกชายให้เขาสมใจ ถิงถิงก็ยิ่งถูกลืมมากขึ้น เธอกลายเป็นคนที่ต้องทำงานหนักที่สุดในบ้าน แต่คนอื่นมองกลับบอกว่าเธอเป็นคนที่สบายที่สุด ด้วยร่างกายที่อ้วนท้วนของเธอ

คนอื่นต่างพูดว่าเธอต้องได้กินอาหารที่ดีแน่ๆ ถึงทำให้อ้วนขนาดนี้ ในตอนนั้นเธอก็คิดแบบนั้นเช่นกัน คิดว่าตัวเองกินเยอะถึงอ้วนขนาดนี้ จนก่อนตายเธอถึงได้รู้ว่ายาสมุนไพรที่แม่เลี้ยงให้กินตั้งแต่เธอสิบเอ็ดขวบนั้นมันคือยาที่ทำให้เธอบวม และอ้วนมากขนาดนี้

ถิงถิงเดินไปที่ลิ้นชัก เธอหยิบยาที่แม่เลี้ยงมักเอามาให้ทุกเดือน และบอกว่ามันช่วยบำรุงร่างกายแต่ความจริงกลับเป็นยาที่ทำให้เธอมีร่างกายเหมือนหมูแบบนี้ ถึงว่าตอนที่เธอเด็กๆ ไม่เห็นว่าจะมีวี่แววอ้วนขนาดนี้เลย ทั้งที่แต่ก่อนเธอได้กินอาหารที่ดีกว่านี้แท้ๆ เธอไม่เอะใจอะไรเลยสักนิดว่าตนเองโดนวางยา

ชาติก่อนสามีของเธอหรือก็คือหลงหยางอี้ เขาเป็นชายหนุ่มตัวคนเดียว ตอนที่เขาอายุแค่สิบสอง วันนั้นเป็นวันที่เขาเข้ามาของอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านหลวนซานแห่งนี้ ในตอนนั้นเขายังเป็นแค่เด็กหนุ่มตัวขาวหน้าตาดี แต่เขากลับมาอยู่ที่นี่คนเดียวไร้วี่แววพ่อแม่

คนอื่นต่างคิดว่าพ่อแม่ของเขาคงตายจากไปหมดแล้ว ในตอนนั้นเธอเองก็เคยไปเล่นกับเขาอยู่สองสามครั้ง ทั้งยังเคยแอบเอาแป้งไปให้เขาด้วย เพราะสงสารที่ไม่มีแม่เหมือนกัน

ในช่วงแรกๆ ที่เขาเริ่มลงแปลงนาทำงานเก็บแต้ม เธอเคยสอนหลายอย่างให้เขาทั้งสอนเก็บผักสอนเลี้ยงไก่ สอนเกี่ยวข้าว

แต่แล้วพอโตขึ้นเธอก็ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับเขาอีกเลย เพราะเธอเอาเวลาไปวิ่งไล่ตามหมิงลู่ ชายหนุ่มที่คิดว่าหล่อและแสนดี ทั้งที่ความจริงแล้วเขาก็แค่ชายหนุ่มที่โดนพ่อแม่ตามใจ ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง

ชาติที่แล้วเธอหลงกลเขาเพราะคำพูดที่แสนหวาน บอกว่าถ้าแต่งงานกับเธอไปคงเขาคงเป็นชายหนุ่มที่โชคดีที่สุด

แล้วพี่สาวเฟยเมี่ยวของเธอก็อีกคน ชาติที่แล้วเธอคิดว่าเฟยเมี่ยวหวังดีกับเธอมาตลอด จนมองข้ามการกระทำที่เธอคอยเอาเปรียบ ทั้งใช้เธอสักผ้าเพราะบอกว่าแพ้น้ำยาซักผ้า ทั้งใช้เธอทำงานบ้านเพราะอ้างว่าไม่ว่างเธอปักผ้าขายอยู่ ทั้งยังไม่ลงไปทำงานแปลงนา เพราะบอกว่าร่างกายอ่อนแอ เธอที่เชื่อฟังทำตามเฟยเมี่ยวทุกอย่างเหมือนคนโง่

หึ ครั้งนี้เธอตาสว่างแล้ว ยัยแม่เลี้ยงและพี่สาวที่แสนน่ารังเกียจ พ่อที่ไม่เคยพูดอะไรเลย เขาเอาแต่บอกให้เธอเชื่อฟังแม่เลี้ยง เข้าข้างเฟยเมี่ยวที่ไม่ใช่ลูกสาวตนเอง

ยังดีที่น้องชายอย่างลู่คงไม่ได้ร้ายกาจอะไร เขาเป็นแค่เด็กน้อยเท่านั้น ยังไม่รับรู้เรื่องราวร้ายกาจ อีกอย่างเฟยฮุ่ยก็รักลูกชายคนนี้มาก เธอประคบประหงมเขา ไม่เคยพูดคำหยาบกับเขาเลยสักคำ ขนาดกับเฟยเมี่ยวยังมีหลุดออกมาบ้าง แต่กับลู่คงเรียกได้ว่าเขาเป็นแค่เด็กน้อยที่เอาแต่ใจบ้างเท่านั้น แต่เขาก็ไม่เคยทำร้ายเธอ

“ถิงถิงลูก เป็นอะไรมากหรือเปล่า แม่ได้ข่าวว่าลูกตกน้ำงั้นหรอ” เฟยฮุ่ยวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในห้องของเธอ

เป็นห้องเก็บของและมีฟูกเก่าขาวผืนบางเป็นที่นอนเท่านั้น ไม่ใช่ห้องดีเด่อะไรเลย ไม่เหมือนเฟยเมี่ยวที่มีห้องส่วนตัวถึงจะไม่ใหญ่มากแต่ก็ถือว่าดีกว่าเธออยู่หลายขุม

ถิงถิงมองเฟยฮุ่ยที่ดูเป็นห่วงเธอ แต่กลับยืนอยู่หน้าประตูไม่ก้าวเข้ามาในห้องของเธอแม้สักก้าวเดียว สงสัยคงรังเกียจละสิ

“ไม่เป็นอะไร ยังไม่ตายหรอกค่ะ” เธอคิดว่ามือปริศนาที่ผลักเธอตกน้ำ ไม่ใช่เฟยฮุ่ยก็คงเป็นเฟยเมี่ยวแน่

“นี่ เอ่อ ลูกไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว แต่ลูกเสียหายขนาดนี้ แม่ปล่อยเอาไว้ไม่ได้แล้ว แม่จะไปพูดกับหลงหยางอี้ให้แต่งงานเพื่อรับผิดชอบ ลูกไม่รู้อะไรว่าตอนนี้ชาวบ้านมากมายต่างพูดกันอย่างสนุกปากเรื่องของลูกกับหยางอี้ ตอนนี้เสื่อมเสียไปถึงไหนต่อไหนแล้ว”

เฟยฮุ่ยที่พูดเหมือนหวังดีกับเธอ แต่ความจริงแล้วแค่อยากตัดตัวปัญหาเท่านั้น คงคิดว่าเธออยู่ไปก็เปลืองอาหารเปล่าๆ สินะ แล้วที่อยากให้เธอแต่งงานกับหยางอี้ คงเห็นว่าเขาตัวคนเดียวและยากจน เธอแต่งงานกับเขาคงลำบาก

“ค่ะ จะทำอะไรก็แล้วแต่เถอะ ตอนนี้ฉันอยากพักผ่อน” ถิงถิงพูดจาแข็งกระด้างอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ถ้าเป็นชาติก่อนเธอคงพูดจาหวานหูเชื่อฟังกว่านี้

“นี่ลูกเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมถึง” เฟยฮุ่ยที่เห็นว่าถิงถิงหลับตาไปแล้วก็ได้แต่จิกมือแน่นด้วยความโมโห เธอเกลียดนังเด็กคนนี้มาก ทำไมมันไม่ตายๆ ไปตั้งแต่ตกน้ำครั้งนั้น ยังดวงแข็งรอดมาได้อีก

หึ แต่เอาเถอะ เธอจะถือว่าทำความดีก็แล้วกัน ให้เธอได้แต่งงานออกไป เพราะดูจากรูปร่างนี้แล้วคงหาสามีแต่งงานด้วยยาก

แต่ว่าครั้งนี้ทำไมนังเด็กนี่ถึงดูห่างเหินกับเธอแปลกๆ ล่ะ คำพูดคำจาก็ดูไม่เคารพเธอเลยสักนิด

เฟยฮุ่ยเดินปึงปังออกจากบ้านไป คิดว่าคงไปเป่าหูเสิ่นลี่กวางพ่อของเธอเรื่องแต่งงานสินะ หึ คงอยากได้สินสอดจนตัวสั่นล่ะสิไม่ว่า

ถิงถิงนอนหลับตาพร้อมกับมีน้ำตาไหลอาบแก้ม เธอยังคงจมกับความรู้สึกผิดและโกรธแค้นจากชาติที่แล้ว เธอไม่ปฏิเสธที่จะต้องแต่งงานกับหยางอี้ ครั้งนี้เธอจะขอทำหน้าที่ภรรยาที่ดีของเขาสักครั้ง

ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการเห็นแก่ตัวที่คนเลวอย่างเธอจะขอดูแลเขา

ไม่เหมาะสม

หวังเฟยฮุ่ยเดินฉับๆ ไปหาสามีหรือก็คือเสิ่นลี่กวาง เพื่อที่จะให้เขาไปคุยกับหยางอี้ให้รับผิดชอบ

“ลี่กวางคะ คุณรู้เรื่องถิงถิงหรือยังคะ คือฉันคิดว่าเรื่องนี้เราควรที่จะทำอะไรสักอย่างเพราะตอนนี้ชื่อเสียงของถิงถิงก็เสียหายไปแล้ว” เธอตีหน้าเหมือนเศร้าใจ ทั้งที่ความจริงมันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย

“เรื่องอะไรครับ ถิงถิงทำอะไรอีกล่ะ” เสิ่นลี่กวางที่กำลังตัดไม้อยู่วางมีดในมือทิ้งอย่างไม่ไยดี

“คือว่าตอนนี้ชาวบ้านต่างเล่าลือเรื่องที่ถิงถิงแนบชิดกับเจ้าหนุ่มหยางอี้ไปทั่วแล้วค่ะ…” หวังเฟยฮุ่ยเล่าเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ถิงถิงพลัดตกน้ำจนหยางอี้ไปช่วยขึ้นมา ทั้งคู่แนบชิดอิงกายกันด้วยสภาพเสื้อผ้าเปียกไปทั้งตัว หล่อนเล่าไปจริงบ้างไม่จริงบ้าง

“หึ งามหน้าจริงๆ” เสิ่นลี่กวางได้ฟังก็โมโหมาก ชายหนุ่มเชื่อคำพูดของภรรยาทุกอย่าง ไม่มีแม้เสี้ยวความรู้สึกห่วงถิงถิงที่ตกน้ำเลยสักนิด

“ใจเย็นๆ ก่อนนะคะ ถิงถิงคงไม่ได้คิดอะไร แต่ตอนนี้ชื่อเสียงของเธอก็เสียหายไปหมดแล้ว รวมถึงหยางอี้ก็เป็นชายหนุ่มที่ดี ถ้าถิงถิงได้แต่งงานกับเขาคงดีไม่น้อยเลย อีกอย่างการที่จะหาชายหนุ่มมาแต่งงานกับเธอมันก็อาจจะยากอยู่นะคะ เราใช้โอกาสนี้ให้หยางอี้มารับผิดชอบถิงถิง ฉันคิดว่าถิงถิงคงเห็นด้วยแน่ค่ะ”

เสิ่นลี่กวางคิดตามคำพูดของภรรยา เขาเองก็เห็นด้วย เพราะลูกสาวเขาคนนี้มีรูปร่างอ้วนท้วน การจะหาชายหนุ่มดีๆ สักคนมาแต่งงานด้วยคงเป็นไปไม่ได้ แต่งกับหยางอี้ที่ไม่มีพ่อแม่ก็ดีเหมือนกัน

“ได้ ฉันจะไปพูดกับหลงหยางอี้ให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้” เสื้นลี่กวางพูดจบก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว เขาตรงไปที่บ้านของหยางอี้ที่อยู่ท้ายหมู่บ้านติดกับเชิงเขา เป็นบ้านที่อยู่ห่างไกลผู้คนเล็กน้อย

“หลงหยางอี้”

ในขณะที่หยางอี้กำลังผ่าฟืนอยู่นั้น เขาก็ได้ยินเสียงคนร้องเรียกตนอยู่หน้าบ้าน ชายหนุ่มจึงวางขวานในมือลงแล้วเดินไปที่หน้าบ้าน เขาเห็นเสิ่นลี่กวางที่มีท่าทางไม่สบอารมณ์

“มีอะไรหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามออกไปอย่างสงสัย เขาไม่เคยคุยกับเสิ่นลี่กวางเลยสักครั้ง ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรกันแน่

“นายใช่ไหมที่ช่วยลูกสาวฉันขึ้นจากน้ำ” เสิ่นลี่กวางเอ่ยถามเพื่อให้แน่ใจอีกครั้ง

“ใช่ครับ ผมผ่านไปเห็นพอดีก็เลยเข้าไปช่วยน่ะครับ มีอะไรหรือเปล่า” คิ้วทั้งสองข้างของเขาเริ่มขมวดเข้าหากัน หรือว่าจะมาขอบคุณงั้นหรอ

หยางอี้มองเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังเดินตรงมา เขาจำได้ว่าหล่อนคือแม้เลี้ยงของถิงถิง

“มีอะไรงั้นหรอก็ตอนนี้ชื่อเสียงของลูกสาวฉันเสียหายหมดแล้ว นายต้องรับผิดชอบ แต่งงานกับลูกสาวของฉันซะ เข้าใจหรือเปล่า” เสิ่นลี่กวางเอ่ยออกไปตรงๆ

“หยางอี้จ๊ะ ถิงถิงตอนนี้อับอายจนไม่กล้าออกจากบ้าน ถึงแม้รูปร่างของเธอจะอวบอ้วนไปบ้าง แต่ฉันรับรองว่าเธอขยันมากนะ” เฟยฮุ่ยมาถึงก็พูดเสริมอีก

“เอ่อ แต่ว่าผมกับเธอเราไม่เคยพูดคุยกันเลยนะครับ” เขาไม่คิดว่าการแค่ช่วยคน เรื่องราวจะบานปลายขนาดต้องแต่งงานเพื่อรับผิดชอบ

“นายจะปัดความรับผิดชอบงั้นหรอ พูดมาตรงๆ เลยว่านายจะเอายังไง ไม่งั้นวันนี้ฉันไม่ไปไหนแน่” เสิ่นลี่กวางมีท่าทางดุร้าย

“ถ้าเธอเสียหายจริง ผมก็จะรับผิดชอบครับ แต่ผมขอคุยกับเธอให้รู้เรื่องก่อนว่าเธออยากแต่งงานกับผมหรือเปล่า” หลงหยางอี้ตอบกลับหน้านิ่ง

“งั้นก็ได้จ่ะ ตอนนี้ถิงถิงอยู่ที่บ้าน เธอไปพร้อมกับเราตอนนี้เลยก็ได้นะ” เฟยฮุ่ยร้อนรน

“เอาไว้เป็นวันพรุ่งนี้ดีกว่าครับ”

“ได้ วันพรุ่งนี้ฉันหวังว่าจะได้รับคำตอบแล้วกัน” เสิ่นลี่กวางเดินกลับไป เฟยฮุ่ยยิ้มเล็กน้อยก็เดินตามสามีไปติดๆ

หลงหยางอี้มองตามทั้งสองคนจนลับสายตา เขาไม่รู้ว่าเรื่องราวมันมาถึงขนาดนี้ได้ยังไง

พูดถึงเสิ่นถิงถิงแล้วเขาก็ไม่ได้รังเกียจเธอเลยสักนิด ชายหนุ่มยิ้มมุมปากเล็กน้อย เขาคิดย้อนกลับไปถึงวันวานในตอนที่เขายังเป็นแค่เด็กหนุ่มคนตัวคนเดียว การใช้ชีวิตลำพังมันไม่ง่ายเลยจริงๆ

ถิงถิงเป็นคนเดียวที่เสียเวลามาสอนเขาทำหลายๆ อย่าง

ตอนนั้นเขาหนีออกจากบ้าน มาขออาศัยอยู่ที่หมู่บ้านนี้เป็นครั้งแรก ถิงถิงเป็นคนแรกที่เข้ามาคุยกับเขา ในเวลานั้นเธอยังเป็นเด็กน้อยน่ารัก พูดไม่หยุดเลย เธอบอกเขาว่าต้องทำยังไง สอนเขาเก็บผักแล้วยังแอบเอาแป้งมาให้เขาด้วย

แต่พอโตมาเธอเริ่มห่างจากเขาไปจนตอนนี้เราสองคนก็เหมือนคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

เขานึกไปถึงพ่อที่ไม่เคยมาหาเลยสักครั้งนอกจากส่งเงินมาบ้าง แต่เขาไม่เคยคิดจะเอาเงินนั้นมาใช้เลยสักหยวนเดียว

เช้าวันต่อมา

เสิ่นถิงถิงลืมตาตื่นขึ้น เธอมองไปรอบๆ ห้องที่ยังมืดมิด ไม่มีแสงสว่างเลย หญิงสาวเอื้อมไปจุดตะเกียงที่มุมห้อง ทำให้ห้องคับแคบมีแสงสว่างพอมองเห็นรางๆ

ตอนนี้ยังเช้าอยู่มาก ปกติเธอต้องตื่นแต่เช้าเพื่อลุกไปทำอาหารและให้อาหารไก่กับหมู่ที่บ้านเราเลี้ยงไว้ ในขณะที่พี่สาวต่างแม่ของเธอยังนอนหลับสนิท

“ตอนนี้น่าจะยังไม่มีใครตื่นสินะ” ถิงถิงแสยะยิ้ม เธอไม่คิดจะลุกไปทำอาหาร เพราะเธอจะใช้โอกาสนี้อ้างว่าไม่สบายตัวเนื่องจากจมน้ำ

พ่อตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นกับข้าวคงต้องโมโหมากแน่ แต่เธอไม่สนใจหรอกนะ เพราะอีกไม่นานเธอก็ต้องแต่งงานออกไปแล้ว

หญิงสาวดับไฟตะเกียงแล้วล้มตัวลงนอนต่อ

ปัง! ปัง!

เสียงประตูห้องที่ใกล้พังโดนเท้ากระแทกอย่างแรง จนถิงถิงที่นอนหลับอยู่สะดุ้งตื่น

“ถิงถิง ทำไมแกยังไม่ตื่นอีก ตอนนี้มันกี่โมงกี่ยามแล้ว แกยังไม่ลุกขึ้นมาทำอาหารอีก” เสิ่นลี่กวางพูดขึ้นเสียงดังอย่างโมโห เขาต้องออกไปทำงานแล้ว แต่ยังไม่ได้กินข้าว จึงรับรู้ว่าลูกสาวยังไม่ตื่น

“หนูพึ่งตื่นค่ะ แคกๆ หนูปวดตัวมากเลยลุกไม่ไหว ทำไมพ่อไม่ให้พี่สาวมาทำแทนล่ะคะ” ถิงถิงแสร้งไอเพื่อให้พ่อรู้ว่าเธอป่วยจริงๆ

“พี่สาวของแกต้องปักผ้าดึกดื่นถึงได้นอน แกป่วยแค่นี้ทำมาเป็นสำออย ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยนะ” เสิ่นลี่กวาง

“คุณคะ เดี๋ยวฉันไปทำเองค่ะ ถิงถิงคงไม่สบายจริงๆ ยังไงให้เธอพักผ่อนให้หายดี เพราะอีกไม่กี่วันเธอก็ต้องแต่งงานออกไปแล้ว” เฟยฮุ่ยนึกไปถึงสินสอดที่ตนจะได้รับ ก็ยอมทนตื่นเช้าทำอาหารสักสองสามวันคงไม่เป็นไร

“หึ แกอย่ามาทำตัวอ่อนแอหน่อยเลย วันนี้แกต้องไปคุยกับหยางอี้แล้วบอกเขาว่าแกต้องการแต่งงานเข้าใจไหม” เสิ่นลี่กวางไม่ลืมกำชับลูกสาว

“ค่ะพ่อ” ถิงถิงตอบรับเสียงเบา เธอพยายามกลั้นน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่อาจควบคุมได้

พ่อเคยรักเธอบ้างหรือเปล่า ตั้งแต่ที่แม่ตายไปเธอก็เหมือนจะเป็นคนนอก เหตุการณ์ครั้งนั้นพรากแม่ของเธอรวมถึงปู่กับย่าที่รักเธอจากไปด้วย

พ่อไม่เคยมองเธอเป็นลูกสาวของเขาเลยสักครั้ง จูเฟยเมี่ยวที่เป็นลูกคนอื่น พ่อยังรักมากกว่าเธออีก

ฮึก! ฮื้อ!

สองมือของถิงถิงยกขึ้นปิดปากเพื่อกลั้นเสียงร้องไห้จนตัวโยน เธอจะขอร้องไห้เป็นครั้งสุดท้าย

ฮื้อ! ฮึก!

ช่วงเวลาสายๆ แดดเริ่มร้อน หลงหยางอี้ก็ปิดประตูบ้านจากนั้นก็เดินตรงไปที่บ้านของถิงถิง เพื่อพูดคุยกับเธอให้รู้เรื่อง

หยางอี้เดินมาถึงหน้าบ้าน เขาหยุดยืนอย่างประหม่าไม่กล้าเข้าไป

“นายมาหาถิงถิงใช่ไหม เข้ามาสิ เธออยู่ในห้องยังไม่ออกมาเลย” จูเฟยเมี่ยวเอ่ยเชิญหยางอี้ เธอรู้สึกว่ายัยถิงถิงจะได้รับสิ่งที่ดีเกินตัวเธอไปบ้าง หยางอี้คนนี้ถึงแม้ว่าจะตัวคนเดียวก็จริง แต่เขาหน้าตาหล่อเหลา เธอรู้สึกยัยอ้วนนั่นเหมาะกับพ่อม่ายหลังเขามากกว่าอีก

“ไม่ดีกว่า รบกวนไปเรียกเธอให้หน่อยได้ไหมครับ” หลงหยางอี้รู้สึกว่าการเข้าไปในบ้านคนอื่น และยังมีแค่ผู้หญิงมันออกจะไม่เหมาะสม

“ก็ได้”

“ไม่ต้องค่ะ ฉันมาแล้ว เราไปคุยกันที่อื่นดีกว่านะคะ” ถิงถิงเดินออกมาก่อนที่เฟยเมี่ยวจะเดินไปเรียก

“ครับ”

ถิงถิงกับหยางอี้เดินออกไป พวกเขาสองคนดูไม่เข้ากันเลยสักนิด เพราะหนึ่งคนหล่อเหลาอีกคนเหมือนหมู

เฟยเมี่ยวมีท่าทางฮึดฮัดอย่างไม่พอใจ เธอรู้สึกว่ายัยอ้วนเริ่มเปลี่ยนไป เธอเริ่มมีท่าทางแข็งกร้าว ไม่เชื่อฟังเหมือนแต่ก่อน

"พี่ครับ พี่ถิงถิงจะแต่งงานจริงๆ หรอครับ" เสิ่นลู่คง เด็กชายรู้สึกไม่อยากให้พี่สาวอ้วนของเขาแต่งงานเลย เพราะพี่ถิงถิงทำอาหารอร่อย ต่อไปเขาจะกินอะไรล่ะ อาหารฝีมือแม่ก็ไม่น่ากินเลยสักนิด

"ใช่ อีกไม่กี่วันเธอก็จะต้องแต่งงานออกไปแล้วล่ะ" เฟยเมี่ยวเดินออกจากบ้านไป เธอไม่ต้องลงไปทำงานแปลงนา วันๆ ก็ดีแต่แต่งตัวสวยเดินรอบหมู่บ้าน หรือไม่ก็เอาผ้ามาปักเพื่อให้คนอื่นรับรู้ว่าตัวเองมีประโยชน์

อ่านต่อนิยายเรื่องนี้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0