เหตุผลที่แท้จริง ‘ไมค์ พิรัชต์’ ตัดสินใจไปเป็นนักแสดงที่จีน เพราะอะไร? เจ้าตัวบอกว่าด้วยเหตุการณ์ข่าวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้รู้สึกว่าไม่มีที่ยืนแล้ว และคิดว่าถ้าข้างหน้ามันตัน ก็แค่เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา แค่นั้นเอง แล้วตอนนั้นมีโอกาสจากจีนพอดี
กลับมาลุยงานที่ประเทศไทยแล้ว สำหรับ ไมค์-พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล หลังจากที่บินลัดฟ้าไปทำงานที่ประเทศจีนนานหลายปี จนแฟน ๆ หลายคนบ่นคิดถึงหนักมาก เพราะอยากเห็นพระเอกหนุ่มของเรากลับมาทำงานในไทยบ้าง ช่วงนี้ ไมค์ ก็มีคิวงานมาให้แฟน ๆ หายคิดถึงกันเรื่อย ๆ รวมถึงคอนเสิร์ตกับพี่ชาย กอล์ฟ พิชญะ ที่จะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ในช่วงเดือนธันวาคม
- เฌอปราง จัดคอนฯ จบการศึกษา บัตร VVIP ราคา 1.5 แสน ล่าสุด FC ช่วยแจงแล้ว
- นางเอกสายฮา เผยความรู้สึก รับใจหาย หมดสัญญาช่อง 3 หลังอยู่มานาน 14 ปี
- เบียร์ เดอะวอยซ์ เคลื่อนไหวล่าสุด! แฟนเก่า Lazyloxy อยู่เคียงข้างในวันที่เศร้า
เหตุผลที่แท้จริง ‘ไมค์ พิรัชต์’ ตัดสินใจไปเป็นนักแสดงที่จีน เพราะอะไร?
ล่าสุด หนุ่มไมค์ ได้ควงแขนพี่ชายกอล์ฟ พิชญะ มาพูดคุยในรายการ The Driver EP.210 โดยช่วงหนึ่งเจ้าตัวได้ตอบคำถามถึงสาเหตุว่าทำไมไปอยู่ที่จีน "หลังจากแยกกอล์ฟไมค์ ผมจะไปสายนักแสดงสักพักหนึ่ง แล้วทีนี้อย่างที่เห็นกันเกิดเรื่องข่าวต่าง ๆ ขึ้น ก็เละเทะประมาณนึง แล้วเรารู้สึกว่าเหมือนกับเราไม่มีที่ยืน ไม่มีที่อยู่ในประเทศนี้แล้ว
เวลาไปข้างนอกเหมือนผวากังวลตลอดเวลา เขากำลังด่าอยู่ในใจแน่ ๆ แม้ในวงการผมก็ไม่สามารถออกไปได้ สมมติวันเกิด วันเกิดรุ่นพี่ในวงการอย่างนี้ผมไปแล้วผมจะอ้วก เพราะว่าคือผมก็คิดตลอดว่าแบบดาราคนนี้ต้องคิดกับเราแย่แน่เลย คนนี้เขามองด้วยสายตาแบบนี้แน่เลย ตอนนั้นก็เลยตัดสินใจว่าโอเค ถ้าข้างหน้ามันตัน ผมก็แค่เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา แค่นั้นเอง แล้วตอนนั้นมีโอกาสจากจีนพอดี
คือเขามาติดต่อครับ คืออันนี้แย่มากเลย คนแรกไปแล้วโดนโกงเลย เละเทะมาก แต่ว่าถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ประสบการณ์ได้อย่างเสียอย่าง ตอนที่ผมอยู่ไทยพวกนี้ มันหายไปหมดเลย มันเลยกลายเป็นคอนฟอร์ทโซนไปแล้ว กลับมารอบนี้เพราะคอนเสิร์ตกอล์ฟไมค์เนี่ยแหละ ตัดสินใจนานมาก พยายามก้าวข้ามผ่านความรู้สึกตัวเอง คือทุกคนจะสังเกตว่ากลับมาไทยแล้ว แต่ก็ยังไมค่อยรับงาน หรืออะไรเป็นจริงเป็นจังเลย คือมันยังมีความกลัว คอนเสิร์ตนี้จะพยายามก้าวข้ามผ่านความรู้สึก คงจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่เอาตัวเองกลับมาได้ดี ต้องหาทุกวิธี คนอื่นพูดไม่เหมือนกัน เรื่องพวกนี้ต้องก้าวข้ามได้ด้วยตัวเอง"
ขอบคุณ : The Driver EP.210
อ่านข่าวเพิ่มเติม