ถึงเวลาแล้วที่เธอจะเลือกมัน(ฝรั่ง)!? แบรนด์ DUG โดย Veg of Lund จากประเทศสวีเดนริเริ่มวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมที่ทำจากมันฝรั่งเพื่อเป็นทางเลือกทดแทนใหม่ให้กับสาวกบริโภคนมทั้งหลาย โดยนมทางเลือกถือว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าเนื่องจากก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศน้อยกว่ากระบวนการการผลิตนมวัวทั่วไป
#นมทางเลือก ในปัจจุบันมีให้เห็นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นถั่วเหลือง อัลมอนด์ ข้าวโอ๊ต ควินัว มะพร้าว ข้าวบาร์เลย์ เฮเซลนัท แมคคาเดเมีย หรือกัญชง ซึ่งมันฝรั่งก็ได้ก้าวเข้ามาเป็นนมทางเลือกจากพืชอีกชนิดหนึ่งที่ช่วยเรื่องความยั่งยืนต่อธรรมชาติ จากข้อมูลสถิติตามเว็บไซต์ของ DUG นั้นพบว่านมมันฝรั่งนั้นเป็นมิตรต่อธรรมชาติมากกว่าชนิดอื่น เนื่องจากมันฝรั่งนั้นเป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อย ต่างจากพืชอื่น ๆ อย่างอัลมอนด์ที่ต้องการน้ำมากกว่ากันถึง 56 เท่า รวมถึงด้านคุณประโยชน์ที่มันฝรั่งนั้นมีประโยชน์กว่าข้าวโอ๊ตถึง 2 เท่า ทำใ้ห้นมมันฝรั่งอาจกลายเป็นนมทางเลือกที่มาแรงแซงทางโค้งด้านความเป็นมิตรต่อธรรมชาติ ซึ่งในเว็บไซต์เองก็ยังได้ระบุว่านมมันฝรั่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ลดผลกระทบต่อสภาพอากาศได้ถึง 75%
นมมันฝรั่งแบรนด์ DUG กำลังเป็นที่สนใจอย่างมาก มีวางจำหน่าย 3 รสชาติได้แก่ รสดั้งเดิม รสไม่หวาน และบาริสต้า (ที่เหมาะสำหรับเครื่องดื่มร้อน) ซึ่งในตอนนี้มีวางจำหน่ายอยู่ในร้านค้ากว่า 400 แห่งทั่วประเทศแคนาดาและบางพื้นที่ในสหรัฐฯ โดยก่อนหน้านี้ได้มีแบรนด์นมทางเลือกอื่น ๆ ที่วางขายอยู่ทั่วไปเช่นกันอย่าง ‘Veggemo’ ผลิตภัณฑ์นมจากมันฝรั่ง ถั่ว และมันสำปะหลังเข้าด้วยกัน
#คุณประโยชน์จากนมมันฝรั่ง มันฝรั่งมีไฟเบอร์และโพแทสเซียมจำนวนมาก รวมทั้งวิตามินซี วิตามินบี 6 แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โฟเลต และไนอาซิน แต่! ถ้ากำลังคิดว่าอยากจะบริโภคนมมันฝรั่งเพื่อให้ได้คุณประโยชน์เหล่านี้ทั้งหมดก็แนะนำซื้อมันฝรั่งแทนโดยตรงเลยดีกว่า เพราะอย่าลืมว่านมก็คือน้ำ และมีส่วนผสมของมันฝรั่งเพียงแค่ 6% เท่านั้น และที่เหลือก็จะเป็นส่วนผสมอื่น ๆ เช่น มอลโทเดกซ์ทริน (คาร์โบไฮเดต) โปรตีนถั่ว เส้นใยชิโครี น้ำมันเรพซีด สารควบคุมความเป็นกรด สารให้ความหวาน และสารปรุงแต่งกลิ่นและรส ซึ่งส่วนผสมอย่างน้ำมันเรพซีดก็มีจะส่วนช่วยให้ร่างกายได้รับไขมันโอเมก้า-3 และใช้ทดแทนอาหารเสริมเพื่อสุขภาพได้
#ว่าที่อาหารอินเทรนด์ปี2022 Waitrose บริษัทซูเปอร์มาร์เก็ตของอังกฤษที่ทำการวิจัยเกี่ยวกับแนวโน้มของอาหารในปี 2022 ว่าจะเกิดการระบุกลุ่มอาหารชนิดใหม่ที่เรียกว่า “Climatarianism” หรือ การเลือกบริโภคอาหารที่มีเป้าหมายหลักเพื่อลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคจำนวนสองพันราย Waitrose ได้ข้อสรุปว่า 70% ของผู้ซื้อมีการคำนึงถึง “คาร์บอนฟุตพริ้นท์” ในอาหารของพวกเขาที่พวกเขาซื้อและบริโภคว่ามีอยู่มากน้อยเพียงใด เช่น บางคนใช้สูตรบริโภค 5:2 ซึ่งหมายความว่าสัดส่วนกินอาหารมังสวิรัติห้าวันจากเจ็ดวันต่อสัปดาห์
ซึ่งโซเชียลมีเดียยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยเพิ่มยอดขายโดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ จากการสำรวจของบริษัท Waitrose พบว่าประมาณ 75% ของผู้ตอบแบบสำรวจใช้โซเชียลมีเดียเพื่อหาแนวทางเรื่องการบริโภคในช่วงล็อกดาวน์ โดย 1 จากจำนวน 12 คนในทุกกลุ่มอายุมีพฤติกรรมแชร์ภาพอาหารให้เพื่อนหรือโพสต์บนโซเชียลมีเดีย ดังนั้น แบรนด์ DUG เองก็เตรียมตัวที่จะเจาะความต้องการของผู้คนมากขึ้นและอาจขึ้นแท่นเป็นอาหารอินเทรนด์ในปี 2022 ก็เป็นได้