ยุทธศาสตร์สร้างหนี้! ปล่อยกู้ให้คนละ5 หมื่นซื้อใจปชช. ด้วยภาษีปชช.!
เงินกู้ฉุกเฉินสำหรับรายย่อย
ตามที่ ครม. อนุมัติเงินกู้ฉุกเฉินสำหรับรายย่อย รายละ 50,000 บาท ในระยะเวลาการผ่อนชำระ 5 ปี เพื่อแก้ไขปัญหาเงินกู้นอกระบบ ซึ่งผู้มีรายได้น้อยสามารถยื่นคำขอได้ถึง 31 มีนาคม 2563 เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่หลายฝ่ายต่างให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง
โดยโครงการนี้ เป็นโครงการสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉิน ระยะที่ 2 ของธนาคารออมสิน วงเงิน 10,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่มีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินฉุกเฉิน ทั้งค่ารักษาพยาบาล และค่าเล่าเรียนของบุตรหลาน รวมทั้งสามารถนำไปใช้หนี้นอกระบบได้ คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำเพียง 0.85% ต่อเดือน คาดว่าโครงการนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้มีรายได้น้อยให้ดีขึ้นประมาณ 200,000 ราย
รัฐอาจสูญ 4,000 ล้านบาท
สินเชื่อลักษณะดังกล่าวมีความเสี่ยงที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นรัฐบาลจึงกำหนดเงื่อนไขในการชดเชยสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-performing Loan : NPL) ที่เกิดขึ้นภายใต้โครงการนี้ให้ธนาคารออมสินไว้ไม่เกินร้อยละ 40 คิดเป็นวงเงินประมาณไม่เกิน 4,000 ล้านบาท หรือตามที่เกิดขึ้นจริง นั่นหมายความว่ารัฐบาลอาจต้องสูญเสียเงินไปถึง 4,000 ล้านบาท เพื่อชดเชยให้กับทางธนาคาร ในกรณีที่มีการผิดการชำระจากลูกหนี้ แต่ก็ใจชื้นขึ้นได้บ้าง เนื่องจากในโครงการแรกนั้นพบว่ามีหนี้เสียเพียงร้อยละ 0.14 เท่านั้น
ผลลัพธ์สวนทางหนี้สินครัวเรือน
ท่ามกลางการโหมกระแสข่าวจากฝั่งรัฐบาลถึงความสำเร็จในการปล่อยกู้ในเฟสแรก ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานว่า ปี 2561 ยอดคงค้างหนี้ครัวเรือนคาดยังเติบโตได้ใกล้เคียง หรือสูงขึ้นกว่าในปี 2561 โดยพุ่งขึ้นเป็น 12 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นที่น่ากังขาว่า การปล่อยเงินกู้นี้ แท้ที่จริงแล้วจะช่วยเยียวยาปัญหาทางเศรษฐกิจของผู้มีรายได้น้อยจริงๆ หรือไม่ หรือเพียงเปลี่ยนผ่านจากหนี้นอกระบบมาสู่หนี้ในระบบ แต่ที่แน่นอนที่สุดเห็นจะเป็นการเพิ่มภาระหนี้สินให้แก่รายย่อยให้มากขึ้นไปอีก
ระเบิดเวลาของประชานิยม
หรือนี่จะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์จากรัฐบาล ที่เอาการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบมา ‘เคลือบ’ นโยบายประชานิยมอย่างแนบเนียนมานับปี ซึ่งแท้ที่จริงแล้วไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ ทว่ากลับซ่อนเร้นศักยภาพอันต่ำต้อยของรัฐบาลในการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน และก็เป็นที่น่าคิดว่าจากการอนุมัติ ครม. ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2561 ทำไมข่าวนี้จึงกลับมาเป็นกระแสในช่วงปลายปี ซึ่งใกล้กับการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น
หรือนี่เป็นสัญญาณของการสืบทอดอำนาจ?
https://www.posttoday.com/finance/news/556260
https://www.thairath.co.th/content/1315126
ความเห็น 251
โกมินทร์
ผมทำงาน20ปี ปัจจุบันธนาคารให้วงเงินบัตรเครดิตผม66,000 ผมก้อมีวินัยการใช้เงิน จ่ายมากน้อยตามความจำเป็นต้องรักษาเครดิตให้ดีเผื่อไว้ยามฉุกเฉิน แต่รัฐบาลนี้ใจดี คนถือบัตรผู้มีรายได้น้อย มีวงเงินให้กู้ยืมคนละ50,0000 ไม่เห็นต้องยุ่งยากสร้างวินัย สร้างเครดิตอะไรก้อกู้ได้แล้ว ใจดีมากครับรัฐบาลนี้
08 พ.ย. 2561 เวลา 14.17 น.
ปล่อยน้อยไปทั่น ซื้อใจ ประชาชน ใจกล้าๆหน่อย จัดไปเลย คนละแสน👍
06 พ.ย. 2561 เวลา 05.43 น.
แมวม่วง 🤫😇
ถ้าจะไห้คนจนกู้ก็ไม่ต้องเรื่องมากนะพวกมึงอย่าเลวไห้เยอะคนจนจะกู้5หมื่นมีนไม่ฉิบหายหรอกนะเงินภาษีประชาขนประชาชนเสียดอกเบี้ยเองนี้พวกมึงำครมาขัดขวางงานนี้มีเรื่องแน่ขอไห้รัฐบาลปล่อยเงินกู้มาเลยนะ
05 พ.ย. 2561 เวลา 11.34 น.
กูเบื่อ มีแต่คนกู้เงินมาขอให้กูค้ำประกันให้
สงสัยตายแบบค้ำประกัน กยศ.
05 พ.ย. 2561 เวลา 09.35 น.
⚡Saravut⚽💯🌟
แจกเข้าไปกู้เข้าไปไทยทั้งชาติ....น่าอนาถเหลือแสนแผนทหาร....หลงมัวเมายึดติดคิดต้องการ...สืบอำนาจให้ยาวนานชั้นต้องเป็น
04 พ.ย. 2561 เวลา 14.12 น.
ดูทั้งหมด