แข้งสมุทรสงคราม 10 คน เฉือนเจ้าถิ่นลิ่วชิง “เจียงฮายเกมส์” (ผลอื่นๆ)
ขุนพล พิษณุโลก โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ดวลจุดโทษเอาชนะ ราชบุรี 2-0 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ กับ สมุทรสงคราม ที่เหลือผู้เล่น 10 คน แต่ยังเฉือนชนะเจ้าภาพ “เจียงฮายเกมส์”
การแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 46 “เจียงฮายเกมส์” ที่จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา ไฮไลต์การแข่งขันไปที่ฟุตบอล รอบรองชนะเลิศ ทีมชาย พิษณุโลก เหรียญทองแดง กีฬาแห่งชาติครั้งที่ แล้ว ลงสนามพบ ราชบุรี ผลปรากฎว่า พิษณุโลก เอาชนะจุดโทษ ราชบุรี 2-0 หลังเสมอในเวลา 0-0
หลังจบเกมนายประพันธ์ ชัยจิตติประเสริฐ นายกเทศมนตรีตำบลบางระกำ จ.พิษณุโลก ในฐานะผู้จัดการทีม เผยว่า ครั้งที่แล้ว เราพลาดแพ้จุดโทษในรอบรองชนะเลิศ ทำให้ได้เพียงเหรียญทองแดง ครั้งนี้เป้าหมายคือผลงานต้องดีกว่าเดิม และก็สามารถทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ ต้องขอบคุณทุกๆฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่มีส่วนทำให้ทีมมีผลงานยอดเยี่ยม ถึงตรงนี้เรามองไปถึงแชมป์
“เรื่องอัดฉีดส่วนตัวไม่มีอะไรพิเศษ เพียงแต่ทุกแมชต์ที่ลูกทีมลงสนามไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ ผมจะให้โบนัส คนละ 1,000 บาท รวมเป็นเงินต่อแมตช์ 18,000 บาท ซึ่งถือเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้ลูกทีมได้เป็นอย่างดี และเมื่อขวัญกำลังใจมา ผลการแข่งขันก็จะดีตามไปด้วย”
ส่วนอีกคู่ เจ้าภาพ เชียงราย พบ สมุทรสงคราม เกมนี้แข้งเจ้าภาพสุดช้ำ เมื่อได้จุดโทษนาทีที่ 53 แต่ จารุเวศ ทิตต์กาล ยิงพลาดบอลข้ามคาน แถมยังได้เปรียบผู้เล่นร่วมครึ่งชั่วโมง เมื่อ สามารถ อยู่ศิริ ของสมุทรสงคราม โดนใบแดงนาทีที่ 60 ในจังหวะตัดฟาวล์ผู้เล่นเจ้าถิ่นบริเวณกรอบเขตโทษ ขณะที่สมุทรสงคราม แม้จะเป็นรอง แต่ยังได้ เทอดศักดิ์ เจริญพงษ์ เป็นทีเด็ดของทีม ยิงประตูชัยท้ายเกมในนาทีที่ 88 ให้สมุทรสงคราม ทีมที่โดนหัวขโมยยกเค้าในห้องแต่งตัวไปกว่า 2 แสนบาท เอาชนะไปได้ 1-0 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศได้เป็นครั้งแรก พบ พิษณุโลก ในวันที่ 27 พ.ย. ที่สนามกีฬากลาง อบจ.เชียงราย เวลา 15.00 น.
หลังจบเกม นายภูวนาถ แสนสี หัวหน้าผู้ฝึกสอน เผยว่า เป้าหมายของเราคือการผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ถึงตรงนี้สามารถทำได้สำเร็จ ถือว่าเกินเป้าหมายแล้ว ส่วนนัดชิงชนะเลิศ จากการได้ดูฟอร์ม พิษณุโลกแล้ว ถือว่าไม่หนักใจ มั่นใจลูกทีมสามารถเอาชนะได้
ด้านฟุตบอลหญิง ขอนแก่น ชนะ ศรีสะเกษ 9-1 อีกคู่ ชลบุรี ชนะ กทม. 4-0 ทำให้ ขอนแก่น ได้ชิงชนะเลิศกับชลบุรี ในวันที่ 27 พ.ย. เวลา 13.00 น. ที่สนามกีฬากลาง อบจ.เชียงราย
ผลกีฬาอื่นๆ (เฉพาะทอง) เทเบิลเทนนิส รอบชิงชนะเลิศ 3 ทอง ชายเดี่ยว ภัทรธร ภัสระ (ชลบุรี), หญิงเดี่ยว รัตนาภรณ์ รัตนวงศา (เพชรบุรี) และ คู่ผสม ศตพร เจิมปลั่ง-ชุติกาญจน์ ชิราพฤกษ์ (พิจิตร)
คาราเต้ ประเภทต่อสู้ ชิง 4 ทอง รุ่นไม่เกิน 75 กก. ชาย ทอง ทรงวุฒิ หมุนแทน (กระบี่) ชนะ เฉลิมพล ผิวละเอียด (นครศรีธรรมราช) 3-2, รุ่นมากกว่า 84 กก. ชาย ทอง ศุภวุฒิ วอนเพียร (กาญจนบุรี) ชนะ ณัฐพล บุราณ (ขอนแก่น) 5-3 , รุ่นมากกว่า 68 กก. หญิง ทอง เกวลิน ทองกลิ่น (สุโขทัย) ชนะ วริศรา หนูบุตร (นครศรีธรรมราช) 10-4 และ รุ่นไม่เกิน 84 กก. ชาย ทอง ธีรวัฒน์ ลีลาบุตร (ร้อยเอ็ด) ชนะ กาสัย แก้วสม (นครสวรรค์) 10-3
ยิงปืน ประเภทปืนยาวอัดลมคู่ผสม “อัส” นภิศ ต่อตั้งพานิช นักแม่นปืนชุดโอลิมปิกเกมส์ ค.ศ.2016 ผนึกกำลัง นวินดา เกษมเกียรติไทย จาก กทม. คว้าเหรียญทอง 823.8 คะแนน นอกจากนี้ นวินดา ยังได้อีก 1 ทอง จากปืนยาว 3 ท่าทีมหญิง หลังจับมือกับ ภัทรานิษฐ์ สืบปรุ และหยดเทียน ประทุมทอง ทำ 3,386 คะแนน, ปืนสั้นมาตรฐาน บุคคลชาย ธรรศพงศ์ ศรียะพันธ์ (พังงา) 571 คะแนน, ปืนสั้นมาตรฐาน ทีมชาย นนทบุรี 1,639 คะแนน, ปืนยาว 3 ท่า บุคคลหญิง รัชฎาภรณ์ เปล่งแสงทอง (อยุธยา) 1,611 คะแนน
เทนนิส ชิง 2 ทอง หญิงคู่ ทอง เชียงราย (เพียงธาร ผลิพืช- วรัญญา วงค์เทียนชัย) ชนะ กทม.(ดลรวี ตุ้มทอง-ชนิกานต์ ศิลกุล) 2-1 เกม 5-7, 7-5, 10-5 ขณะที่ ชายคู่ ทอง สุพรรณบุรี (จิรัฏฐ์ นวสิริสมบูรณ์- อวิรุทธ์ ผาผุย) ชนะ เชียงราย (พัชรพล กาวิน-กิตติพงษ์ วชิรมโนวงศ์ ) 2-0 เกม 7-6, 6-3
กาบัดดี้ ชิง 2 ทอง ทีมหญิง นครศรีธรรมราช ขณะที่ทีมชาย นครศรีธรรมราช
วูดบอลนับจำนวนเกท (เฉพาะทอง) บุคคลหญิง มณทา พันพรม (ขอนแก่น) ขณะที่ บุคคลชาย ปิยะวุฒิ รัตนพันธ์ (สงขลา)
ฟังดาบสากล ชิง 2 ทอง ทีมชาย ทอง กทม. (สรรพ์พชร์ นวลพลับ-ฐาปนันท์ ฟักอังกูร-กฤติน รุจิแสงวิทยา-ศิษฎิพัฒน์ ดวงพัตรา) ทีมหญิง ทอง ปัตตานี (บัณฑิตา ศรีนวลนัด-ต้นป่าน โพธิ์แก้ว-ต้นข้าว โพธิ์แก้ว-ชนม์นิภา วิชชุเกรียงไกร)