'โรนัลโด้-เมสซี่' ตำนานที่ไม่สมบูรณ์แบบ
ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยุติเส้นทางลุ้นแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ไปในวันเดียวกัน ทำให้ทั้งสองคนยังไม่เคยได้แชมป์โลกเลย ทั้งๆ ที่อยู่ในช่วงโค้งท้ายๆ ของการเล่นฟุตบอลแล้ว
อาร์เจนตินาแพ้ฝรั่งเศส 3-4 และโปรตุเกสแพ้อุรุกวัย 1-2 ในรอบ 16 ทีม อาจจะดูเร็วเกินไป สำหรับ 2 ทีมยักษ์ใหญ่ แต่ต้องไม่ลืมว่าคู่แข่งก็เป็นทีมที่เล่นได้แข็งแกร่งมาตั้งแต่รอบแรก
อย่างไรก็ตามน่าเสียดายว่า ถ้าอาร์เจนตินาและโปรตุเกสผ่านรอบ 16 ได้ จะได้มาเจอกันในรอบก่อนรองชนะเลิศ นั่นหมายความว่าโรนัลโด้กับเมสซี่จะได้เจอกันในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย เป็นครั้งแรก
แต่มันไม่น่าจะมีวันเกิดขึ้นอีกแล้ว! เพราะอีก 4 ปีข้างหน้า โรนัลโด้จะอายุเกือบ 38 ส่วนเมสซี่ 35 ปี
ทุกวันนี้ยังไม่มีใครบอกได้ว่าระหว่างโรนัลโด้กับเมสซี่ใครเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลกยุคนี้
เพราะความมหัศจรรย์ของทั้งคู่สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจให้กับวงการฟุตบอล ประสบความสำเร็จในระดับสโมสรมาแบบที่จะหาใครเทียบได้ ยิ่งในทีมชาติ ทั้งสองคนเป็นกัปตันทีมชาติของตัวเอง
เมสซี่เข้าใกล้แชมป์โลกมากกว่าโรนัลโด้ พาทีมฟ้า-ขาวเข้ารอบชิงชนะเลิศ เวิลด์คัพ 2014 แต่ไปแพ้เยอรมนี ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ขณะที่โรนัลโด้เคยได้แชมป์กับยูโรกับโปรตุเกสมาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
และเคยไปถึงรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก เมื่อปี 2006 ซึ่งเมสซี่ด้อยกว่าตรงนี้ เพราะเขาไม่เคยประสบความสำเร็จในนามทีมชาติมาก่อนเลย ทั้งๆ ที่มีโอกาสมากมาย
เปเล่ ตำนานทีมชาติบราซิล และ ดิเอโก้ มาราโดน่า วีรบุรุษฟุตบอลอาร์เจนตินา เป็นสมบัติของชาติตลอดกาล เพราะทั้งคู่สามารถพาทีมชาติคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้ เขาเป็นที่จดจำในฐานะแชมป์โลก มากกว่านักเตะที่พาสโมสรประสบความสำเร็จในการเล่นอาชีพ
แต่ต้องไม่ลืมว่า ฟุตบอลเป็นกีฬาประเภททีม ยิ่งฟุตบอลโลกด้วยแล้ว ความสำเร็จของแต่ละทีมย่อมมีปัจจัยมากกว่าการมีนักเตะเวิลด์คลาสเพียงอย่างเดียว การเล่นเป็นทีม ภายใต้การบัญชาเกมที่เยี่ยมยอดของกุนซือและกัปตันทีมเป็นเรื่องสำคัญ
อาร์เจนตินามีสตาร์ล้นทีมแต่เล่นไม่เป็นทีม โปรตุเกสพึ่งพาโรนัลโด้มาเกินไป นักเตะอาจจะมีของ แต่คลาสยังเทียบชั้นเขาไม่ได้ เปเล่, มาราโดน่า,ซีเนอดีน ซีดาน ไม่สามารถเป็นแชมป์โลกได้จากฝีเท้าของพวกเขาคนเดียว
มิเชล พลาตินี่ ตำนานกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส โยฮัน ครัฟฟ์ นักเตะเทวดาของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ยูเซบิโอ ยอดดาวยิงทีมชาติโปรตุเกสไม่เคยไม่ได้แชมป์โลกแม้จะยิงประตูเป็นกอบเป็นกำในฟุตบอลโลกขนาดไหน หรือแม้กระทั่ง จอร์จ เบสต์ โคตรปีกขวาทีมชาติเวลส์ที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งยวดกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, จอร์จ เวอาห์ กองหน้าไลบีเรีย นักเตะเแอฟริกันคนแรกที่ได้รางวัลบัลลงดอร์ รวมทั้ง อัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน่ ตำนานที่เล่นให้ทั้งทีมชาติสเปนและอาร์เจนตินา คนเหล่านี้ไม่เคยได้เล่นฟุตบอลโลกแม้แต่ครั้งเดียว
ฟุตบอลโลกครั้งนี้ยังมีสตาร์อีกมากมายที่กำลังกรุยทางไปลุ้นแชมป์ หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าอุรุกวัยที่ลงเล่นไปแล้ว 100 นัดให้ทีมชาติ ทั้งยิงและจ่ายพาทีมเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศไปแล้ว อองตวน กรีซมันน์ ดาวยิงฝรั่งเศสก็มีโอกาสจะเป็นแชมป์โลก
ถึงแม้ในระดับสโมสร เขาจะยังสะสมความสำเร็จไม่เท่าโรนัลโด้และเมสซี่ก็ตาม แต่ความสนใจก็ยังคงไปสาดส่องว่าเมสซี่หรือโรนัลโด้จะโดดเด่นกว่ากันในโลกฟุตบอลอยู่ดี
จบฟุตบอลโลกหนนี้ไปแล้ว ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะก้าวผ่านยุคของนักเตะ 2 คนนี้ เพราะผลงานที่รัสเซียและกาลเวลาจะทำให้ทั้งคู่โรยราและเงียบหายไปในที่สุด เว้นเสียแต่ว่า โรนัลโด้หรือเมสซี่จะสามารถต้านทานกฎของเวลาและผุพังของร่างกายได้
ซึ่งมันยากกว่าการได้แชมป์โลกเป็นไหนๆ
ผลงานในฟุตบอลโลก
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 4 ครั้ง (2006, 2010, 2014, 2018)
เล่น 16 นัด ยิง 7 ประตู แอสซิสต์ 2 ประตู
เข้ารอบลึกที่สุด รอบรองชนะเลิศ ปี 2006
ยิงประตูได้ทั้ง 4 ครั้งในฟุตบอลโลกลิโอเนล เมสซี่ 4 ครั้ง (2006, 2010, 2014, 2018)
เล่น 19 นัด ยิง 6 ประตู แอสซิสต์ 5 ประตู
เข้ารอบลึกที่สุด รอบชิงชนะเลิศ ปี 2014
ยิงประตูได้ 3 ครั้ง ยกเว้นปี 2010