“การประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของโลก วิทยาศาสตร์ได้ชี้ให้เราได้เห็นแล้วว่า เรายังต้องพยายามให้มากขึ้นเพื่ออนาคตที่ปลอดภัย และยั่งยืน โลกของเราตอนนี้กำลังอยู่ในขีดแดงซึ่งแสดงถึงภาวะวิกฤต อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เรายังพอมีเวลาที่จะเร่งแก้ไข และฟื้นฟูธรรมชาติ ในปี 2020 นี้ จะเป็นปีที่โลกได้แสดงพลัง และความร่วมมือที่จะผลักดันให้เกิดอนาคตที่ยั่งยืน รวมถึงสร้างความสมดุลแก่สภาพอากาศ , ธรรมชาติ และมวลมนุษยชาติ”
มาร์โค แลมเบอร์ตินี่ ผู้อำนวยการทั่วไปขององค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล สำนักงานใหญ่ (WWF) กล่าวถ้อยแถลงระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ว่าด้วยการแก้ไขปัญหาสภาพอากาศ (UN Secretary General’s Climate Action Summit) เมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา โดยได้ชี้ถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่ทั่วโลกควรยกเป็นวาระเร่งด่วนระดับนานาชาติ
จากข้อเท็จจริงของวิทยาศาสตร์ ได้เผยข้อมูลให้ทั่วโลกกระจ่างว่า “โลกของเรากำลังอยู่ในภาวะวิกฤต” ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ได้แผ่กระจายไปทั่วโลก ยิ่งไปกว่านั้น การที่มนุษย์ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลืองทำให้ธรรมชาติผลิตกลับคืนมาไม่ทัน และค่อย ๆ หายไปในที่สุด โดยตั้งแต่ปี 1970 ประชากรสัตว์ป่าทั่วโลกได้ลดลงไปกว่า 60%
WWF และอีกหลายองค์กรได้ผลักดันให้ทั่วโลก ให้ความร่วมมือในการสร้างความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม โดยปี 2020 ที่จะถึงนี้ จะถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทั่วโลกจะให้ความสำคัญ และผลักดันนโยบายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้นกว่าเดิม
“การที่เราจะแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และภัยพิบัติจากธรรมชาติได้นั้น จำเป็นที่จะต้องใช้ความร่วมมือจากภาครัฐ ภาคธุรกิจ และพลังของมวลชน ในงานประชุมของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN General Assembly) เกี่ยวกับวาระเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมครั้งนี้ ถือเป็นก้าวที่สำคัญในการผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลงสู่อนาคตที่ยั่งยืน ความมุ่งมั่นของทุกคนที่มาร่วมงานในวันนี้ ถือว่าเป็นสัญญาณสำคัญที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่จะทำให้เกิดความยั่งยืน ทั้งกับสังคม สิ่งแวดล้อม และโลกของเราในชั่วโมงนี้” มาร์โค แลมเบอร์ตินี่กล่าวเพิ่ม
เป็นเรื่องน่ายินดีที่เราได้เห็นผู้นำจากทั่วทุกมุมโลกมารวมกันในการประชุมครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม เราไม่อาจหยุดได้แค่ “คำมั่นสัญญา” แต่เป็นการผลักดันเชิงนโยบาย รวมถึงความร่วมมือของทุกคนทั่วโลก จึงจะสามารถเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้ยั่งยืน และฟื้นฟูระบบนิเวศของเราให้กลับมาสมบูรณ์ได้
WWF-ประเทศไทย ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ทุกคนมาพยายามกันมากขึ้นเพื่อฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมของเรา เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของเด็ก ๆ รุ่นถัดไปค่ะ
#WWFThailand #TogetherPossible