โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ความลับ สู่ความสำเร็จของ Nike ที่สาวกตัวจริงห้ามพลาด!

YengoBuzz

เผยแพร่ 17 ก.ย 2560 เวลา 00.00 น. • YengoBuzz
ความลับ สู่ความสำเร็จของ Nike ที่สาวกตัวจริงห้ามพลาด!
ผู้ประกอบธุรกิจ รองเท้า เสื้อผ้า ที่มีความต้องให้แบรนด์ของตัวเอง ประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก อย่างแบรนด์ดังระดับโลก ลองอ่านเรื่องราวความสำเร็จของ Nike ที่ Yengobuzz นำมาฝากในวันนี้ เพื่อศึกษาและสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเองกันครับ

แบรนด์แรกๆ เมื่อเราพูดถึงเครื่องกีฬา รองเท้าสตรีทแวร์ และแฟชั่นสนีคเกอร์ แน่นอนว่าทุกคนจะต้องนึกถึง และมีชื่อแบรนด์ Nike เจ้าของสโลแกน Just do it ติดอยู่ในใจอย่างแน่นอน เพราะด้วยชื่อเสียงอันโด่งดังทั่วโลก รวมถึงคุณภาพสินค้า และดีไซน์ที่มีความเฉพาะตัว ทำให้ Nike ประสบความสำเร็จมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งกว่า Nike จะประสบความสำเร็จเช่นทุกวันนี้ได้ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายแต่อย่างใด วันนี้! Yengobuzz จึงหยิบเรื่องเล่าความสำเร็จของแบรนด์เครื่องกีฬา แฟชั่นระดับโลกสัญชาติอเมริกา มาให้ศึกษากันครับ

ความเป็นมา

Nike เคยเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Blue Ribbon Sports (RBS) ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2507 โดยสองบุคคลสำคัญอย่าง Phil Knight และ Bill Bowerman โดย Phil Knight เคยเป็นนักวิ่งจาก Portland มาก่อน ซึ่งได้รับการฝึกฝนจากโค้ชชื่อดัง Bill Bowerman หรือผู้ร่วมก่อตั้งธุรกิจร่วมกับเขานั่นเอง

จุดเริ่มต้นของแบรนด์เครื่องกีฬาที่ว่านี้ เกิดขึ้นจากการที่ Bill Bowerman กำลังมองหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพให้กับรองเท้าวิ่ง เพื่อช่วยให้นักวิ่งของเขาวิ่งได้เร็วขึ้น โดยในยามว่าง เขาได้ทำการพัฒนารองเท้า ด้วยการทดลองเลือกวัตดุดิบหลายๆ ชนิด มาผสมเข้าด้วยกัน แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

Phil Knight ผู้ร่วมก่อตั้ง Nike
Phil Knight ผู้ร่วมก่อตั้ง Nike

ในขณะที่ Phil Knight เอง หลังจากเรียนจบหลักสูตร MBA ด้าน Finance ที่ Stanford University เขาได้ค้นพบว่าที่ประเทศญี่ปุ่น มีรองเท้าที่มีคุณภาพในราคาที่ถูกกว่าผู้ผลิตในประเทศเยอรมันนี Phil จึงได้แนะนำรองเท้าจากแดนปลาดิบที่ว่า ให้แก่ Bill โค้ชที่เคยฝึกสอนร่วมกันมาดู

ก่อนที่ทั้งคู่จะตกลงปลงใจร่วมธุรกิจกัน ในปี 2508 แม้ว่าจะสถานการณ์ธุรกิจจะชะลอตัว แต่มูลค่ายอดขายที่พวกเขาขายได้นั้น ถือว่าไม่เลวร้ายซะทีเดียว พวกเขาสามารถทำเงินได้ถึง 20,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ

ความสำเร็จ

ในขณะที่ Bill และ Phil กำลังดำเนินธุรกิจ เขาทั้งสองก็ได้ตัดสินใจที่จะผลิตรองเท้าของพวกเขาขึ้นเอง โดยปี 2514 พวกเขาก็ผลิตรองเท้าที่มีน้ำหนักเบา และมีพื้นยางรูปทรงคล้ายเครื่องอบขนมวาฟเฟิล ที่มีน้ำหนักเบา ทีขึ้นมา  และได้ทำการทดสอบใช้งานที่ภาคสนามในสหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ.2525 ในเวลาต่อไป จึงถือเป็นความสำเร็จแรกที่เกิดขึ้น หลังจากการพยายามคิดค้นรองเท้าเป็นของตัวเอง

Nike Waffle Green
Nike Waffle Green

รองเท้า Nike คู่แรก

Steve Prefontaine คือ Brand ambassador ของ Nike คนแรก เขาเป็นนักวิ่งดาวรุ่งที่สร้างสถิติ 7 รายการแข่งขันวิ่งในสหรัฐอเมริกา ถือเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ Nike ที่ได้โลดแล่นสู่สาธารณะชนอย่างเป็นทางการ

Steve Prefontaine อดีตนั่งวิ่งชื่อดัง
Steve Prefontaine อดีตนั่งวิ่งชื่อดัง
Bill Bowerman ผู้ร่วมก่อตั้ง Nike
Bill Bowerman ผู้ร่วมก่อตั้ง Nike

ว่าด้วยเรื่องโลโก้และสโลแกน

นอกจาก Nike จะมีผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพแล้ว Nike ยังเป็นแบรนด์ที่มีโลโก้ (Swoosh หรือสัญลักษณ์เครื่องหมายถูก) ลักษณ์เฉพาะตัว ที่ใครเห็นก็สามารถจดจำ และรู้ได้ทันทีว่าเป็นแบรนด์ Nike ถึงแม้จะไม่มีชื่อแบรนด์ปรากฎอยู่ด้วยก็ตาม บวกกับสโลแกน “Just Do It” ที่นอกจากจะติดหูและคุ้นเคยกันดีแล้ว ยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่กำลังเริ่มต้นทำอะไรบางอย่าง ให้ประสบความสำเร็จ

NIKE FLYKNIT RACER
NIKE FLYKNIT RACER

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ Nike

Nike ยังคงสร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยในปี พ.ศ.2543 พวกเขาได้ออกผลิตภัณฑ์รุ่น Nike Shox ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั่วโลก และ Nike เอง ก็ยังเป็นแบรนด์ที่รวบรวมเหล่าบรรดานักกีฬาชื่อดังในทุกๆ วงการ มาเป็นพรีเซนต์เตอร์ให้กับแบรนด์ รวมถึงการเป็นสปอนเซอร์หลักให้กับวงการกีฬาอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬาจากวงการ เทนนิส เบสบอล ฟุตบอล กอล์ฟ หรือกรีฑาก็ตาม

ความสำเร็จทั้งหมดนี้ ล้วนมาจากความสามารถของ Bill Bowerman ที่เป็นหัวเรือใหญ่ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์สินค้าใหม่ๆ ออกมาเพื่อการแข่งขันทางธุรกิจ และ Phil Knight ที่เป็นผู้พลักดันแบรนด์ Nike ให้มีกำไรและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลกในธุรกิจเครื่องกีฬา

Nike Store
Nike Store

ด้วยการที่ Nike เป็นแบรนด์ที่ไม่หยุดนิ่ง และคอยที่จะขับเคลื่อนธุรกิจของตัวเองอยู่ตลอดเวลา นอกจากแบรนด์หลักของพวกเขาแล้ว Nike ยังมีบริษัทซับย่อย ที่ได้จากการ Take over คู่แข่งใน Market Segment เดียวกับพวกเขาอย่าง Umbro Converse และ Hurley มาครอบครองอีกด้วย

โดยสรุปแล้ว ความสำเร็จของ Nike นั้น เป็นผลพวงมาจากการที่พวกเขา ผลิตสินค้าที่เป็นนวัตกรรมมากกว่าเครื่องกีฬา และของแฟชั่นทั่วๆ ไป และพวกเขารู้จักเลือกลงทุนได้ถูกจังหวะ ส่งผลให้ Nike เป็นแบรนด์ที่สามารถทำกำไรได้หลายร้อยล้านดอลลาร์ต่อปีนั่นเอง ซึ่งหากผู้ประกอบการท่านใดอยากประสบความสำเร็จเช่นนี้บ้าง อย่าลืมที่จะนำความสำเร็จของ Nike ไปเป็นข้อคิดเพื่อปรับใช้ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับธุรกิจของตัวเองกันนะครับ

Source successstory wikipedia nike businessinsider nikeblog

---

YengoBuzz

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0