โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

พาหะธาลัสซีเมีย กับการตั้งครรภ์

Motherhood.co.th

เผยแพร่ 10 มิ.ย. 2563 เวลา 08.15 น. • Motherhood.co.th Blog

พาหะธาลัสซีเมีย กับการตั้งครรภ์

โรคโลหิตจางที่มีเม็ดเลือแดงผิดปกติหรือที่เรียกว่าธาลัสซีเมียนั้นสามารถถ่ายทอดได้ทางพันธุกรรม หากคู่แต่งงานมีใครที่เป็น "พาหะธาลัสซีเมีย" ก็ย่อมส่งต่อถึงลูกที่จะเกิดมาได้ ดังนั้น ควรลดอัตราการเกิดผู้ป่วยรายใหม่ด้วยการตรวจเลือดก่อนที่จะวางแผนแต่งงานหรือวางแผนมีลูก เมื่อทราบผลว่าคู่เรามีความเสี่ยงต่อการเป็นธาลัสซีเมีย จะได้ปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการและทำการป้องกันต่อไป ซึ่งวันนี้ Motherhood จะพาคุณมาทำความรู้จักโรคนี้ให้มากขึ้นค่ะ

โรคธาลัสซีเมียคืออะไร ?

โรคเลือดจางธาลัสซีเมียเกิดจากความผิดปกติของหน่วยพันธุกรรมหรือยีน ในส่วนของการสร้างเม็ดเลือดแดง ทำให้เม็ดเลือดแดงนั้นเปราะและแตกง่าย โรคนี้เกิดได้กับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย โรคนี้แบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ อัลฟาธาลัสซีเมีย และเบต้าธาลัสซีเมีย โดยผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีอาการต่างกันออกไป ขึ้นความรุนแรงของโรค แต่โดยทั่วไปจะมีอาการซีดเล็กน้อยไปจนถึงเลือดจากอย่างมาก และตับหรือม้ามโต

เป็นความผิดปกติที่ส่งต่อทางพันธุกรรมได้

เมื่อพ่อแม่เป็นพาหะธาลัสซีเมีย

ผู้ที่มียีนแฝงของโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย จะมีร่างกายที่แข็งแรง มีสุขภาพดีตามปกติ มองจากภายนอกจะไม่ทราบเลยว่าบุคคลนั้นมียีนแฝงหรือไม่ ทางเดียวที่จะทราบว่ามียีนแฝงก็คือการตรวจเลือด เพราะผู้ป่วยที่เป็นโรคธาลัสซีเมียนั้น ได้รับยีนธาลัสซีเมียมาจากทั้งพ่อและแม่ ซึ่งแปลว่าทั้งคู่เป็นพาหะของโรคธาลัสซีเมีย ดังนั้น การตรวจธาลัสซีเมียก่อนแต่งงานจึงเป็นสิ่งที่เหมาะสม เพราะจะทำให้แพทย์ทราบว่าคู่ของคุณมีความเสี่ยงที่จะมีลูกเป็นโรคธาลัสซีเมียหรือไม่ และจะมีทางเลือกในการตัดสินใจอย่างไรบ้าง ซึ่งในบางกรณี แพทย์จะแนะนำให้ตรวจเลือดอย่างละเอียดเพิ่มเติมเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องตรวจดีเอ็นเอที่มีความซับซ้อน และต้องใช้เวลามากพอสมควร แต่ก็เป็นการดีเพราะจะทำให้มีเวลาตรวจหาอย่างละเอียด จึงสามารถบอกได้ชัดเจนว่าเป็นธาลัสซีเมียชนิดใด มีโอกาสความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน บางครั้งสามารถทำนายความรุนแรงของโรคธาลัสซีมียที่จะเกิดขึ้นได้อีกด้วย

โอกาสความเสี่ยงของลูก

  • พ่อและแม่ป่วยเป็นโรคธาลัสซีเมียทั้งคู่ ลูกจะป่วยด้วย 100%
  • พ่อและแม่มียืนแฝง (เป็นพาหะ) โอกาสที่ลูกจะเป็นปกติ 25% โอกาสที่ลูกจะเป็นพาหะ 50% และโอกาสที่ลูกจะป่วย 25%
  • มียีนแฝง (เป็นพาหะ) แค่คนเดียว โอกาสที่ลูกจะเป็นปกติ 50% โอกาสที่ลูกจะเป็นพาหะ 50%
  • พ่อหรือแม่ คนใดคนหนึ่งเป็นโรคธาลัยซีเมีย อีกคนปกติ โอกาสที่ลูกจะเป็นพาหะ 100%
  • พ่อและแม่ คนใดคนหนึ่งเป็นโรคธาลัยซีเมีย อีกคนมียีนแฝง (เป็นพาหะ) โอกาสที่ลูกจะป่วย 50% โอกาสที่ลูกจะเป็นพาหะ 50%

เตรียมตัวอย่างไรเมื่อไปตรวจ ?

การตรวจเลือดเพื่อหาพาหะธาลัสซีเมียนั้นสะดวกมาก ไม่ว่าจะเป็นการตรวจคัดกรอง การตรวจชนิดของฮีโมโกลบิน และการตรวจดีเอ็นเอนั้น ไม่ต้องมีการตระเตรียมอะไรเป็นพิเศษ ผู้ที่จะไปตรวจไม่จำเป็นต้องงดน้ำหรืออาหาร สามารถเจาะเลือดตรวจได้ทันที โดยใช้เลือดปริมาณแค่ 2-3 ซีซี เท่านั้น

คู่สมรสควรตรวจก่อนการวางแผนมีบุตร

มีการตรวจแบบไหน และอย่างไรบ้าง ?

เราสามารถแบ่งการตรวจได้เป็น 3 วิธี เพื่อตรวจดูว่าเป็นพาหะของโรคธาลัสซีเมียหรือไม่ ซึ่งทำได้โดยเจาะเลือดไปตรวจตามวิธีการต่าง ๆ ดังนี้

  • การตรวจคัดกรอง (Screening Test) วิธีนี้นิยมใช้ในโรงพยาบาลทั่ว ๆ ไป เสียค่าใช้จ่ายไม่มาก มีความไวสูงในการตรวจภาวะที่เป็นพาหะของธาลัสซีเมีย แต่จะไม่สามารถแยกได้ว่าเป็นพาหะของธาลัสซีเมียชนิดใด ข้อดีของการตรวจแบบนี้คือมีขั้นตอนในการตรวจน้อย การแปลผลตรวจง่าย ราคาถูก ถ้าผู้รับการตรวจมีผลเป็นบวก ก็จะต้องตรวจยืนยันด้วยวิธีในข้อ 2 ต่อ ว่าเป็นพาหะชนิดใด
  • การตรวจชนิดของฮีโมโกลบิน (Hemoglobin Typing) เป็นการตรวจเพื่อหาชนิดต่าง ๆ ของฮีโมโกลบิน สามารถทำได้ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่และโรงเรียนแพทย์ วิธีนี้มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการตรวจคัดกรอง แต่ดีกว่าตรงที่ใช้แยกได้ว่าเป็นพาหะของธาลัสซีเมียชนิดใด ซึ่งยังต้องอาศัยผู้เชี่ยวชายในการแปลผล และมีข้อจำกัดในผู้รับการตรวจบางรายที่มียีนธาลัสซีเมียแฝงอยู่ 2 ชนิด
  • การตรวจดีเอ็นเอ (DNA Analysis) เป็นการตรวจเลือดที่ปัจจุบันนี้ทำได้เฉพาะในโรงเรียนแพทย์เท่านั้น เพราะต้องอาศัยห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ที่มีเครื่องมือและความชำนาญในการตรวจดีเอ็นเอ แต่ก็เป็นวิธีที่มีความแม่นยำมากที่สุด และมีค่าใช้จ่ายสูงที่สุดด้วยเช่นกัน
รีบไปตรวจหาพาหะแต่เนิ่น ๆ เพื่อการวางแผนครอบครัวอย่างปลอดภัย

หากตรวจพบ ต้องทำอย่างไรต่อไป ?

ทางเลือกของคู่สมรสที่พบความเสี่ยงสูงในการมีลูกเป็นโรคธาลัสซีเมีย คือ

  • ไม่มีลูกของตัวเอง โดยคุมกำเนิด
  • ยอมเสี่ยงที่จะมีลูกเป็นโรค
  • ตรวจทารกในครรภ์ว่าเป็นปกติ เป็นพาหะ หรือเป็นโรค ซึ่งมีตั้งแต่การตรวจชิ้นเนื้อรก การเจาะน้ำคร่ำ และการเจาะเลือดจากสายสะดือของทารก
  • การตรวจวินิฉัยโรคตัวอ่อนก่อนนำไปฝังในมดลูก ก่อนการตั้งครรภ์ (Preimplantation) จะทำให้สามารถเลือกทารกที่ไม่เป็นโรคได้ แต่ก็ยังเป็นโครงการในอนาคต ยังไม่สมารถทำได้อย่างสมบูรณ์ตอนนี้

การตัดสินใจเลือกวิธีใดนั้น ขึ้นอยู่กับคู่สมรสหลังจากได้รับคำอธิบายจากแพทย์อย่างละเอียด รวมไปถึงอายุครรภ์ในขณะนั้นด้วย แต่ที่ควรระวังก็คือ ไม่ควรไปซื้อยาบำรุงเลือดมารับประทานเอง เพราะอาจเป็นยาที่มีธาตุเหล็กผสมอยู่ ซึ่งนอกจากจะไม่ช่วยรักษาอาหารซีดให้ดีขึ้น ยังเป็นอันตรายต่อร่างกายอีกด้วย

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...