โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

หนุ่มต่างชาติ เหยียดกาแฟไทย ล่าสุดรู้แล้วเป็นใคร

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

อัพเดต 22 ม.ค. 2566 เวลา 13.29 น. • เผยแพร่ 22 ม.ค. 2566 เวลา 12.58 น.

จากกรณีที่ก่อนหน้านี้มีคลิปหนุ่มต่างชาติ เหยียดกาแฟไทยเหมือนกินน้ำตาล ล่าสุดรู้แล้วเป็นใคร และทำเพื่ออะไร

กลายเป็นคลิปไวรัลใน TikTok จากกรณีที่คลิปหนุ่มต่างชาติรายหนึ่ง พูดถึงเรื่องที่ตนเองนั้นซื้อกาแฟจากร้านแห่งหนึ่ง และพูดจาเหยียดกาแฟที่ซื้อ ระบุว่า "เมื่อคนอิตาลีกินกาแฟไทยครั้งแรก พวกเพื่อนๆเอาแต่พูดว่าให้ผมมาเที่ยวไทยดูสิเป็นประเทศที่สนุกมากๆ ผมจะสนุกได้ไงวะ! สั่งกาแฟเย็นกินครั้งแรกได้แก้วนี่มา กาแฟไทยเป็นงี้หรอ? นี่แม่งน้ำตาลชัดๆ กินกันไปได้ยังไง

หนุ่มต่างชาติ เหยียดกาแฟไทย ล่าสุดรู้แล้วเป็นใคร

คือผมก็ไม่อยากหวังเยอะกับประเทศที่กินพิซซ่าหน้าทุเรียนกับสับปะรดหรอก ทำลงไปได้ยังไงวะ ทุกครั้งที่พวกนายทำเมนูพิซซ่าที่ต่ำช้าแบบนั้น พ่อครัวอิตาลีแม่งต้องอยากตายแน่ๆ เลิกแ_กพิซซ่าสับปะรด ผมว่าคนไทยกินอาหารไร้อารยธรรมเกินไป" ซึ่งหลังจากที่คลิปดังกล่างแชร์ออกไปก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันมากมาย

หนุ่มต่างชาติ เหยียดกาแฟไทย ล่าสุดรู้แล้วเป็นใคร

ล่าสุด ก็คนออกมาเฉลยว่า คลิปดังกล่าวคือคลิปโปรโมทการแข่งขันมวยปล้ำที่กำลังจะจัดขึ้น และชายในคลิปก็คือ กาเปรียล มาร์ตินี นักมวยปล้ำอาชีพและและนักแสดงชาวอิตาลี ซึ่งทางด้านผู้จัดจับเอาคาแรกเตอร์ที่เคร่งครัดเรื่องอาหารอิตาลีมากๆ ชนิดที่ผิดจากนี้ไม่ใช่เรา เรื่องกาแฟที่ดื่ม เรื่องสับปะรดในพิซซ่า มาทำเป็นคลิปบลัฟ ให้มาร์ตินี ที่จะมารับบทเป็นตัวร้ายในแมทซ์ดังกล่าว

หนุ่มต่างชาติ เหยียดกาแฟไทย ล่าสุดรู้แล้วเป็นใคร
หนุ่มต่างชาติ เหยียดกาแฟไทย ล่าสุดรู้แล้วเป็นใคร

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...