โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

กกร.ประกาศความสำเร็จก้าวแรกของ NDTP แพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลระหว่างประเทศ

MATICHON ONLINE

อัพเดต 16 พ.ย. 2565 เวลา 09.25 น. • เผยแพร่ 16 พ.ย. 2565 เวลา 09.25 น.
728

กกร.ประกาศความสำเร็จก้าวแรกของ NDTP แพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลระหว่างประเทศ

เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธานร่วมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กล่าวว่า NDTP (National Digital Trade Platform) แพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลระหว่างประเทศของไทย เป็นโครงการที่ขับเคลื่อนโดยคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) คือ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ สมาคมธนาคารไทย ซึ่งในเฟสแรก พัฒนาและดำเนินการโดย บริษัทเนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด (NITMX) และบริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ จำกัด เป็นผู้ดูแลจัดการเกี่ยวกับเอกสารสัญญาที่เกี่ยวข้อง

โดยแพลตฟอร์ม NDTP ถูกพัฒนาด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้พัฒนาและให้บริการโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินของไทย รวมทั้งพร้อมเพย์ (Promptpay) และได้ขยายบริการไปยังโครงสร้างพื้นฐานการค้าและการให้สินเชื่อ ทั้งพร้อมบิส (PromptBiz) และ Trade Document Registry (TDR) สำหรับธนาคาร เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงบริการทางการเงินในรูปแบบใหม่ๆ และสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน NDTP เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีการค้าโลกต่อไป

นายผยง กล่าวว่า แพลตฟอร์มดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของผู้ส่งออก ผู้นำเข้า และผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อให้การส่งออกนำเข้า ง่าย สะดวก รวดเร็ว ขึ้น ช่วยป้องกันการทำธุรกรรมในเชิงมิชอบหรือการทำธุรกรรมซ้ำซ้อน และช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อการทำการค้าแก่กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยหรือ SMEs ในประเทศ ซึ่งภาครัฐให้การสนับสนุนโดยจัดตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเกี่ยวกับการศึกษาและการกำหนดแนวทางการพัฒนาแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลระหว่างประเทศของไทย เพื่อขับเคลื่อนหน่วยงานภาครัฐในการสนับสนุนการพัฒนา NDTP ภายใต้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ

ซึ่ง NDTP ประสบความสำเร็จในพัฒนาแพลตฟอร์ม และการทดสอบรายการ Proof-of-Concept (POC)/Pilot Live ในเฟสที่ 1 ร่วมกับ แพลตฟอร์ม TradeWaltz ของญี่ปุ่น และแพลตฟอร์ม NTP (Networked Trade Platform) ของประเทศสิงคโปร์ เรียบร้อยแล้วในเดือนตุลาคม 2565 โดยมีขอบเขตรวมถึงการใช้เอกสารการค้าอิเล็กทรอนิกส์ตามมาตรฐาน UNCEFACT สำหรับใบสั่งซื้ออิเล็กทรอนิกส์ ใบแจ้งหนี้อิเล็กทรอนิกส์ และ ใบกำกับหีบห่ออิเล็กทรอนิกส์ และเอกสารอื่นๆ ที่ยังเป็นรูปภาพ สำหรับผู้ส่งออกนำเข้าที่ร่วมทำรายการ POC กับคู่ค้าในญี่ปุ่น คือ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) บริษัท โตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์) จำกัด และบริษัท ยูนิคอร์ด จำกัด (มหาชน)

ทั้งนี้ ผู้ส่งออกนำเข้าที่ร่วมทำรายการ Pilot Live กับคู่ค้าในสิงคโปร์ คือ บริษัท บี.ฟู้ดส์ โปรดักส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในเครือกลุ่มริษัทเบทาโกร และบริษัท แปซิฟิก ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในเครือกลุ่มบริษัทน้ำตาลมิตรผล ในเฟสที่ 1 POC นี้ ได้รวมถึงการตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารที่ธนาคารได้รับเพื่อปล่อยสินเชื่อด้วย โดยเป็นการเชื่อมต่อระหว่าง NDTP และ TDR (Trade Document Registry) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เริ่มใช้ตั้งแต่ต้นปี 2565 สำหรับธนาคารที่ให้สินเชื่อแก่ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศในการตรวจสอบการขอสินเชื่อซ้ำซ้อน (double financing)

โดยมีธนาคารที่ร่วมโครงการระหว่าง NDTP เฟสที่ 1 และTDR ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทยจำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) การทำงานเฟสต่อไป จะเป็นการก่อตั้ง สรรหา องค์กรและหน่วยงานที่จะพัฒนาและดำเนินการ NDTP ต่อไปเพื่อนำไปสู่การใช้งานจริง ให้ได้ผล บรรลุตามจุดมุ่งหมายอย่างเป็นรูปธรรม

“ความสำเร็จของ NDTP ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการยกระดับการค้าระหว่างประเทศสู่ระบบดิจิทัลที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร เสริมขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะธุรกิจ SMEs สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ด้วยต้นทุนที่เหมาะสม ขณะที่สถาบันการเงินสามารถตรวจสอบการขอสินเชื่อซ้ำซ้อน เพื่อพิจารณาสินเชื่อตามศักยภาพของผู้ประกอบการแต่ละรายได้แม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันธนาคารมีการตรวจสอบผ่านระบบ Trade Document Registry (TDR) อยู่แล้ว”นายผยง กล่าว

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0