นักเรียนหญิงอายุ 14 หึงแรง ยกแก๊งทำร้าย รุ่นน้องวัย 13 ปีโทษแย่งแฟนอายุ 50 ปีบังคับถอดกางเกง ถ่ายคลิปประจานในโซเชียล
จากกรณีที่ผู้สื่อข่าวรายงานเหตุเด็กนักเรียนสาวทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้นในพื้นที่ จ.อุดรธานี เมื่อนักเรียนวัย 13 ปี เข้าร้องทุกข์กับ นายวีระพล รักเสมอวงษ์รองประธานสภาเทศบาลเมืองบ้านดุงว่า ถูกรุ่นพี่นักเรียนหญิงรุ่นพี่วัย 14 ปี และแก๊งเพื่อนมากกว่า 4 คนมารุมทำร้ายที่โรงเรียน และยังบังคับให้ถอดกางเกงก่อนจะมีการถ่ายคลิปเอาไว้
โดยนักเรียนหญิงวัย 13 ปี เล่าถึงสาเหตุเบื้องต้นที่เธอรู้ ว่าเกิดจากความเข้าใจผิดคิดว่า เธอไปคบกันแฟนวัย 50 ปีของนักเรียนอายุ 14 ปีหนึ่งในคนที่รุมทำร้ายแถมยังได้นำคลิป ที่บังคับให้ถอดกางเกงเปลือยท่อนล่างไปประจานในเฟซบุ๊กด้วย ทำให้ตอนนี้เธออับอายมาก ไม่กล้าไปโรงเรียน แม้กระทั่งออกจากบ้านก็ไม่กล้า เพราะกลัวโดนทำร้ายอีก
สาว13โดนรุ่นพี่ทำร้าย เล่าต่อไปว่า คู่กรณีที่เข้ามาทำร้ายเธอนั้นบอกกับเธอว่า ไปแอบคบกับแฟนเขา จากนั้นเขาก็บังคับให้ตนเข้าไปในห้องน้ำ ที่ศาลหลักเมืองปู่ศรีสุทโธ ก่อนที่จะขู่และบังคับให้ถอดกางเกงและถ่ายคลิป ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นเหล่าคนที่มาทำร้ายก็นำคลิปดังกล่าวไปแชร์ในเฟซบุ๊ก ทำให้ได้รับความอับอาย อีกทั้งยังขู่จะทำร้ายตลอดเวลา
เพจดังเม้าท์สนั่น "นักร้องขี้เมา" โดยลบเพื่อน หลังโผล่เชียร์นักร้องสาว
สาวแต่งหน้าจัดเต็มวันฮาโลวีน หวังให้หลอน สุดท้ายงานเข้าเต็มๆ
ประกาศรายชื่อ นักเตะทีมชาติไทย เตรียมทีมลุยศึกชิงแชมป์อาเซียน 2022
ทั้งนี้ นักเรียนวัย 13 ปี ยืนยันว่า เธอไม่ได้ไปคบกับแฟนเขาแน่นอน ซึ่งตอนนี้ แฟนวัย 50 ของสาว 14 คนนี้เพิ่งจะถูกจับกุมคดีเกี่ยวกับสิ่งเสพติด แต่อย่างไรก็ดี เธอก็ยังไม่กล้าไปโรงเรียน แม้กระทั่งจะออกจากบ้านก็ยังไม่กล้า ซึ่งเธอได้ไปแจ้งความไว้แล้วในข้อหาทำร้ายร่างกาย แต่ก็อยากให้ช่วยเหลือเธอด้วย เพราะไม่อยากมีเรื่องกับกลุ่มนี้อีก และขอให้หยุดแชร์ภาพของเธอซะ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ในเบื้องต้น ประธานสภาเทศบาลเมืองบ้านดุง จะประสานคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย มาปรับความเข้าใจกัน และจะเรียกอีกฝ่ายมาพูดคุย เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องบาดหมางดังกล่าวกันอีกต่อไป และจะพา นักเรียนวัย 13 ไปแจ้งความไว้ก่อน จากนั้นจะโทรสอบถามญาติทั้ง 2 ฝ่ายก่อนว่าจะเอาอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นต่อไป เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้นั้นเกี่ยวกับเยาวชน
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Tnews
ความเห็น 0