ขุดตำนาน Sport Idol โค้ชอ๊อต-เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร
Sport Idol ในวันนี้ขอตบเท้าเข้าสู่แคมป์วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยอีกครั้ง โดยจะพาย้อนอดีตถึง โค้ชอ๊อต-เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร อดีตนักกีฬาวอลเลย์บอลชายทีมชาติไทยระหว่างปี พ.ศ.2526-2541และอดีตผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ตั้งแต่ พ.ศ. 2541-2559
โค้ชอ๊อต ได้เป็น 1 ใน 12 ขุนพลลุยศึกซีเกมส์ 1985 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ และทีมวอลเลย์บอลชายไทยสามารถคว้าเหรียญทองได้เป็นครั้งแรกในรอบ 26 ปี และเป็นครั้งแรกที่โค้ชอ๊อต ได้รับรางวัลสูงสุดในฐานะผู้เล่นทีมชาติ
จากนั้น โค้ชอ๊อต ได้พาธงชาติไทยโบกสะบัดอีกครั้งเมื่อคว้าเหรียญทองซีเกมส์ อีก 1 สมัยในปี 1995, เหรียญเงิน 3 สมัย ในปี 1991, 1993 และ 1997 และเหรียญทองแดง 2 สมัย ในปี 1987, 1989
นอกจากนี้ โค้ชอ๊อดยังได้แข่งขันในรายการอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากซีเกมส์อีกด้วย อาทิ เอเชียนเกมส์ 1990, 1994 และ 1998 และการปิดฉากชีวิตนักวอลเลย์บอลด้วยการนำทีมชายไปแข่งขันชิงแชมป์โลก ปี 1998 ได้สำเร็จ ในฐานะตัวแทนทวีปเอเชีย
จากนักตบหนุ่มทีมชาติ ก้าวสู่ ผู้ฝึกสอน
โค้ชอ๊อต เคยคุมทีมวอลเลย์บอลชายมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในช่วงที่เป็นนิสิต หลังจากนั้นก็ทำทีมวอลเลย์บอลชายอีกหลายทีม ก่อนที่จะมาเริ่มต้นเปิดตำนานทีมวอลเลย์บอลหญิงยุคดรีมทีม 2001 โดยมีจุดมุ่งหมายสร้างทีมวอลเลย์บอลหญิงชุดเล็ก เพื่อดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ ทดแทนรุ่นพี่ตัวสำคัญ เช่น ปริม อินทวงศ์, มาลินี คงทัน, บุษบรรณ พระแสงแก้ว, แอนณา ไภยจินดา ฯลฯ ที่เตรียมตัวจะปลดระวางไปตามวัยในอีกไม่นานนัก
โค้ชอ๊อต ทีมนักตบสาวยุวชนไทยดรีมทีมชุดนี้ นำโดยนราพร ผงทอง, ปิยมาศ ค่อยจะโป๊ะ ประเดิมคว้าอันดับ 4 ของเอเชียได้ในปี 2540 ต่อมาไปคว้ารองแชมป์ถางลอง คัพที่เวียดนาม และกลับมาคว้าอันดับ 5 ศึกยุวชนหญิงชิงแชมป์โลก ซึ่งถือว่าเป็นอันดับที่ดีที่สุดเท่าที่เคยร่วมการแข่งขันมา
หลังจากนั้น โค้ชอ๊อตก็ได้รับงานผู้ฝึกสอนทีมวอลเลย์บอลหญิงชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 2541 พร้อมกับสร้างประวัติศาสตร์พาทีมเข้าไปเล่นรายการเวิลด์แชมเปียนชิพสำเร็จ ก่อนที่จะจบอันดับที่ 15 ต่อมาในปี 2543 โค้ชอ๊อดก็พาทีมไทยไปลุยศึกเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ได้เป็นครั้งแรก และหลังจากนั้นไทยก็เป็นทีมขาประจำที่ได้ลุยศึกเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ มาโดยตลอด ยกเว้นปี 2007 (พ.ศ. 2550) เนื่องจากไทยเป็นเจ้าภาพกีฬามหาวิทยาลัยโลก
หลังจากโค้ชอ๊อตได้รับงานคุมทีมชุดใหญ่ ทีมวอลเลย์บอลหญิงไทยก็พัฒนาขึ้นจนประสบความสำเร็จภายในระยะเวลาไม่นาน เพราะหลังจากโค้ชอ๊อดรับงานเพียงแค่ 3 ปี ก็สามารถพาทีมคว้าเหรียญทองแดงรายการชิงแชมป์เอเชียได้ในปี 2001 (พ.ศ. 2544) ต่อด้วยเหรียญทองแดงในปี 2007 ส่วนความสำเร็จระดับสูงสุด โค้ชอ๊อดต้องใช้เวลาถึง 11 ปีในการสานฝันที่เป็นจริง ด้วยการล้มทีมชาติจีนได้ 3-1 เซต ในศึกชิงแชมป์เอเชียเมื่อปี 2009 (พ.ศ. 2552) ที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพ คว้าแชมป์เอเชียมาครองได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย
ในปี พ.ศ. 2555 สามารถพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์รายการเอเชียน คัพ 2012 ที่ประเทศคาซัคสถานได้ ด้วยการชนะทีมชาติจีน 3-1 เซต และในปีเดียวกันนี้ ทีมวอลเลย์บอลสาวไทยก็สามารถคว้าแชมป์เอเชีย ได้เป็นสมัยที่สอง ในรอบ 4 ปี โดยชนะทีมชาติญี่ปุ่นในรอบชิง 3-0 เซต
เรื่องสุดพีคของ โค้ชอ๊อต-เกียรติพงษ์
- หลังจบทัวร์นาเมนต์ เวิลด์กรังปรีซ์ 2016 รอบสุดท้าย โค้ชอ๊อด ประกาศอำลาทีมชาติไทยและไปรับงานคุมทีมสโมสรที่ประเทศจีน
- ปี 2557 โค้ชอ๊อต ได้ออกมาประกาศว่าตนจะสมรสกับ เฝิง คุน อดีตนักวอลเลย์บอล ตำแหน่งมือเซ็ตทีมชาติจีนชุดโอลิมปิกปี 2004 หลังจากคบหากัน 4 ปี
- พ.ศ. 2556 - Order of the White Elephant - 3rd Class (Thailand) ribbon.png เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือก
- พ.ศ. 2553 - Order of the Direkgunabhorn 4th class (Thailand) ribbon.png เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นจตุตถดิเรกคุณาภรณ์ (จ.ภ.)
- พ.ศ. 2541 เป็นผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติชุดใหญ่ และสร้างประวัติศาสตร์พาทีมเข้าไปเล่นรายการเวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพ ที่ญี่ปุ่น และได้อันดับที่ 15
- พ.ศ. 2540 ได้รับงานโค้ชเป็นครั้งแรก โดยคุมทีมยุวชนหญิง ซึ่งปีนั้นไทยได้เป็นเจ้าภาพ และคว้าอันดับที่ 5 มาครอง