ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตกันแบบเร่งรีบ และเร่งร้อนเสียจนหลายคนสงสัยว่าเราจำเป็นต้องรีบร้อนไปกับทุกเรื่อง ทุกอย่างจริง ๆ หรือ และเพราะคำถามนี้ทำให้เกิดเทรนด์การใช้ชีวิตสไตล์ใหม่ที่เรียกกันว่า สโลว์ไลฟ์ (Slow life) ขึ้นมา
สโลวไลฟ์ คือการใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ไม่เร่งรีบ ไม่ยึดติดกับใครหรืออะไรทั้งนั้น เน้นการสร้างสมดุลให้กับการใช้ชีวิตไปตามความต้องการของแต่ละคน
ที่สำคัญอย่าเข้าใจผิดว่าการใช้ชีวิตแบบสโลวไลฟ์คือความไม่มีสาระ ไม่มีแก่นสาร หรือไม่มีเป้าหมายในชีวิตอย่างเด็ดขาด เพราะสโลวไลฟ์ก็แค่ไม่รีบร้อน และให้ความสำคัญกับสิ่งต่าง ๆ ละเมียดละไมกับทุกรายละเอียดที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเท่านั้นเอง เรียกว่าทำทุกอย่างช้าลงและใช้สติให้มากขึ้นนั่นเอง
การใช้ชีวิตให้ช้าลงบ้างก็ดี..แต่เรื่องบางเรื่อง “ช้า” ไม่ได้เด็ดขาด อย่าง 3 เรื่องต่อไปนี้ ถ้าขืนชักช้าก็อาจหมดโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ
1. การเดินไปสู่เป้าหมายในชีวิต
ความฝันหรือเป้าหมายเป็นเรื่องที่สโลวไม่ได้เด็ดขาด เพราะของแบบนี้ไม่พยายามก็ไม่มีวันสำเร็จ ไม่ฝ่าฟันก็ไม่มีวันเป็นจริง แม้จะไม่ต้องเร่งรีบให้มากเกินไป แต่ก็ต้องไม่ชักช้าจนกลายเป็นหลักลอย อย่าลืมว่าเป้าหมายมีไว้พุ่งชน ถ้าไม่หมั่นกระตุ้นตัวเองบ่อย ๆ เป้าหมายก็ยิ่งห่างออกไปทุกที
หลายคนบอกว่าการค่อยเป็นค่อยไป หรือช้าแต่ชัวร์น่าจะดีกว่า แต่ก็ไม่ใช่กับทุกอย่าง เพราะบางครั้งการพยายามอย่างสุดความสามารถแบบเร่งด่วน ก็กระตุ้นตัวเองได้ดีไม่แพ้กัน
2. การทำงาน/ การเรียน และการทำมาหากิน
ชีวิตคือการแข่งขัน คือการต่อสู้ที่ไม่จบง่าย ๆ การใช้ชีวิตแบบช้า ๆ ไม่ได้แปลว่าดีเสมอไป โดยเฉพาะเรื่องการทำงาน การเรียน หรือการประกอบอาชีพต่าง ๆ เพราะท่ามกลางการแข่งขันที่ทุกคนต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งโอกาสหรือความสำเร็จ ถ้าคุณมัวแต่ช้า มัวแต่สโลวไลฟ์ แล้วเมื่อไหร่ความสำเร็จนั้นจะเป็นของคุณ
การทำงาน การเรียนเป็นสิ่งที่คุณต้องพยายาม ต้องฝึกฝน ต้องพัฒนาอย่างเร่งด่วน ไม่ใช่เรื่องที่จะมาชักช้ากันได้ ใครที่ยังมัวช้าอยู่แปลว่าคุณได้ตัดโอกาสของตัวเองไปเสียแล้ว ถ้าไม่อยากเสียโอกาสดี ๆ ที่เข้ามาในชีวิต ก็อย่าเรียนหรือทำงานให้ช้า
3. การพัฒนาตนเอง
เรื่องสุดท้ายที่ห้ามสโลวอย่างเด็ดขาด เพราะการพัฒนาตนเองคือการพาตัวเองไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น เพราะฉะนั้นถ้ามัวแต่ช้าก็มีโอกาสที่จะหยุดพัฒนา และการหยุดก็ไม่ใช่แค่หยุดอยู่กับที่ แต่เป็นก้าวถอยหลัง เพราะเราจะไม่มีวันตามโลกที่เดินหน้าตลอดเวลาไปได้ทันอีกเลย
ตำราเกี่ยวกับการประสบความสำเร็จทุกเล่มบอกไว้เสมอว่าถ้าอยากสำเร็จต้องไม่หยุดพัฒนา โอกาสหรือสิ่งดี ๆ ที่เข้ามาในชีวิตไม่ใช่ของฟรี ทุกอย่างต้องลงทุน ไม่ว่าด้วยเงิน ด้วยแรงหรือมันสมองก็ตาม ถ้ารีบพัฒนาตัวเองอย่างเร่งด่วน พอโอกาสมาและคุณพร้อม ความสำเร็จก็ตามมาเอง
