โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

รู้ยัง?? แอร์เกิดขึ้นมาบนโลกตอนไหน แล้วเปิดยังไงให้เย็นฉ่ำ แต่ยังประหยัด

LINE TODAY

เผยแพร่ 09 พ.ค. 2562 เวลา 08.29 น.
ขอบคุณรูปจาก AirCheck24
ขอบคุณรูปจาก AirCheck24

 

ช่วงนี้ประเทศไทยจัดว่าร้อนสุดๆเหมือนอยู่ในทะเลทรายเลยทีเดียว แค่ออกมาข้างนอกตอนเช้าก็เหงื่อแตกแล้ว หลายคนคงแทบไม่อยากจะเดินออกนอกอาคาร อยากอยู่แต่ในห้องแล้วเปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำ ทำให้เรารู้สึกอยากจะขอบคุณคนที่คิดค้น เจ้าสิ่งประดิษฐ์นี้ขึ้นมา ไม่อย่างนั้นเราคงใช้ชีวิตกันยากกว่านี้แน่

มาถึงตรงนี้เราก็ลองมาดูกันซะหน่อยสิว่า เจ้าสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า "เครื่องปรับอากาศ" หรือ "แอร์" เนี่ย เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ใครเป็นคนคิดค้น และ เราจะมีวิธียังไงที่จะเปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำ แต่เงินค่าไฟไม่ปลิวออกจากกระเป๋าสตางค์เรามากนัก

เครื่องปรับอากาศ หรือ แอร์ เนี่ยถูกคิดค้นขึ้นโดย Willis Haviland Carrier  (วิลลิส แคเรียร์) วิศวกรชาวอเมริกัน ตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1902 ซึ่ง เครื่องปรับอากาศในตอนแรกไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ความเย็นสบายในห้องเหมือนทุกวันนี้ แต่วิลลิสมีไอเดียที่จะลดความชื้นที่มีมากในโรงพิมพ์ซึ่งมีกระดาษและสีอยู่ เพราะความชื้นจะไปกระทบต่อกระบวนการผลิตของโรงพิมพ์

แล้ววันหนึ่งในขณะที่วิลลิสยืนรอรถไฟในคืนที่หมอกลงจัด เขาก็คิดขึ้นมาได้ว่า หากจะกำจัดความชื่นในอากาศก็ต้องให้อากาศจับตัวกันแล้วกลั่นออกมาเป็นน้ำ เขาจึงเริ่มคิดค้นเครื่องมือที่ดูดอากาศภายในโรงงานให้มารวมกันแล้วควบแน่นกลายเป็นไอน้ำ แล้วส่งอากาศเย็น (อากาศที่ลดความชื้นเข้าไปแทนที่)

หลังจากนั้นเจ้าเครื่องลดความชื้นของเขาก็ประสบความสำเร็จและไปได้สวย เขาจึงเริ่มต่อยอดจากเครื่องดูดความชื้นและพัฒนามาเป็น เครื่องปรับอากาศที่ ต้องควบคุมความชื้น ควบคุมอุณหภูมิ และการไหลเวียนของอากาศ และทำให้อากาศสะอาดได้ จนเกิดเป็น เครื่องปรับอากาศ Carrier เครื่องแรกของโลก!!

รู้ที่มาที่ไปของ เครื่องปรับอากาศแล้วว่าเกิดขึ้นมาได้อย่างไร คราวนี้เรามาลองดูกันว่า เราจะเปิดแอร์อย่างไร ให้อยู่ในห้องเย็นๆ ฉ่ำๆ แล้วเงินไม่ปลิวออกจากกระเป๋าสตางค์เรามากนัก

1.ล้างแอร์ 

ควรล้างแอร์อย่างน้อย ปีละ 2 ครั้ง เพื่อให้แอร์สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยประหยัดค่าไฟ และยืดอายุการใช้งาน

2.หาที่กันความรัอนให้ คอมเพรสเซอร์

โดยส่วนใหญ่เวลาติดตั้งแอร์ คอมเพรสเซอร์มักจะเป็นส่วนที่เรานำไปวางไว้บนดาดฟ้า พื้นซีเมนต์ ที่กลางแดด และมีอากาศถ่ายเทน้อย แต่รู้ไหมว่ามันจะทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้นและเปลืองพลังงาน เราจึงควรนำไปวางไว้ในที่ร่ม มีต้นไม้ช่วยบังแดด หรือ อากาศถ่ายเทสะดวกเพื่อทำให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้นและยังช่วยประหยัดค่าไฟ

3 ตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 26-27 องศา 

แต่หากคุณเป็นคนขี้ร้อน แนะนำให้เปิดพัดลมไปด้วยในช่วงแรกๆ เพื่อให้มีลมพัดผ่านตัวเราก็จะช่วยให้เย็นเร็วขึ้น 

4.ไม่นำความชื้นเข้าห้อง 

หลายคนอาจจะสงสัยว่า ไม่นำความชื้นเข้าห้องคืออะไร? โดยหลักการทำงานของเครื่องปรับอากาศเนี่ย แอร์จะใช้พลังงานเพียงส่วนน้อยไปกับการทำความเย็น แต่จะใช้พลังงานส่วนมากไปก้บการทำให้อากาศในห้องนั้นแห้งลง เราจึงไม่ควรวางประถางต้นไม้ หรือ ตากผ้าไว้ในห้องเพราะจะเป็นการเพิ่มความชื้นในห้องและทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น

5.คำนวน BTU (ค่าความสามารถในการสร้างความเย็นของแอร์)

ถ้าคุณกำลังจะซื้อแอร์ใหม่ เราะแนะนำให้คุณรู้จักกับ ค่า BTU ( British Thermal Unit) ซึ่งก็คือหน่วยความเย็นของแอร์ หรือ ค่าความสามารถในการสร้างความเย็นของแอร์ ดังนั้น ถ้าเลข BTU มาก ก็จะสามารถสร้างความเย็นได้มาก ในพื้นที่ขนาดใหญ่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ยิ่งมีเลข BTU สูงก็ยิ่งใช้ไฟมากขึ้นด้วย เราจึงควรเลือกซื้อแอร์ที่มีเลข BTU เหมาะสมกับขนาดห้องของเรา เพราะว่า

หากซื้อแอร์ที่มีBTU เยอะ แต่ห้องมีขนาดเล็ก ก็จะเสียเงินไปกับการซื้อแอร์แพงโดยใช้เหตุ

หากซื้อแอร์ที่มี BTU น้อย แต่ห้องมีขนาดใหญ่ก็จะทำให้ห้องไม่เย็น แอร์ต้องทำงานหนัก และเปลืองไฟอีกด้วย

ขอบคุณภาพจาก เว็ปไซต์ Kapook.com
ขอบคุณภาพจาก เว็ปไซต์ Kapook.com

แต่ถ้าใครไม่อยากมานั่งเทียบตัวเลขในตาราง เดี่ยวนี้เค้ามีเว็ปไซต์ให้เข้าไปคำนวน ค่า BTU ที่เหมาะสมกับขนาดของห้องจริงของเราได้แล้วที่ www.carrierthailand.com

หน้าร้อนนี้ถ้าไม่อยากออกไปข้างนอกแต่อยากตากแอร์เย็นฉ่ำทั้งวันอยู่ในห้อง แต่ยังประหยัดเงินค่าไฟในกระเป๋าก็ลองเอาวิธีเหล่านี้ไปลองทำกันดู  แต่!! ถ้าไม่มีแอร์หรือไม่อยากเปิดแอร์เราจะหาวิธีเอาตัวรอดในสภาพอากาศแบบนี้ได้อย่างไร ไปดูกัน

ทาแป้งเย็น 

หลังอาบน้ำเสร็จหมาดๆ ไม่ต้องเช็ดตัวให้แห้งมากนัก จะช่วยทำให้รู้สึกเย็นขึ้นได้ แต่ถ้าทาตอนที่ผิวแห้งสนิท ความเย็นก็จะลดลง

กินอาหารมีฤทธิ์เย็น 

พวกผักผลไม้ที่ให้พลังงานต่ำ และมีฤทธิ์เย็น อย่างเช่น ผักบุ้ง ตำลึง ฟัก แตงโม แคนตาลูป สัปปะรด

พกทิชชู่เปียก

ถ้าร้อนมากๆจนอยากอาบน้ำใหม่แต่ขี้เกียจ หรือ สถานที่ไม่เอื้ออำนวย ก็หาผ้าเย็นๆ หรือ ทิชชู่เปียก มาเช็ดหน้าก็น่าจะช่วยให้เราสดชื่นขึ้นบ้าง

ใครสะดวกคลายร้อนแบบไหนลองเอาวิธีต่างๆที่แนะนำไปลองทำกันดูนะจ๊ะ ขอให้ทุกคนผ่านหน้าร้อนนี้กันไปได้ อย่างไม่เจ็บปวดกับค่าไฟมากนัก

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0