โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

“แฮปปี้เฟรช” รีแบรนด์ดึงดูด Millennial ทุ่ม 636 ล้านจากปิด Series C ขยายพื้นที่บริการพัฒนาฟีเจอร์

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 31 มี.ค. 2565 เวลา 10.53 น. • เผยแพร่ 04 ก.ค. 2562 เวลา 14.05 น.

“แฮปปี้เฟรช” สตาร์ตอัพ grocery delivery แดนอิเหนา โชว์ยอด 636 ล้านบาทปิด Series C ลุยขยายพื้นที่บริการเร่งพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ พร้อมปรับโฉมทั้งโลโก้และมาสคอต ดึงดูด Millennial ย้ำจุดแข็ง “คัดสรรความสด ส่งตรงถึงมือ”

นายเดวิด ลิม รองประธานกรรมการฝ่ายการตลาด  บริษัท แฮปปี้เฟรช จำกัด ผู้ให้บริการส่งอาหารสด-ของใช้ประจำวัน (grocery delivery) ภายใต้แบรนด์ HappyFresh เปิดเผยว่า  ได้ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่เพื่อช่วยให้ร้านค้าปลีกเจาะตลาดลูกค้ากลุ่ม Millennial ให้ดียิ่งขึ้นอีก หลังจาก HappyFresh ได้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ  สู่การเป็นผู้นำแพลตฟอร์มส่งของสดของใช้ออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

“กลุ่ม Millennial เป็นเจเนอเรชั่นนี้ที่มีความต้องการในด้านคุณภาพและบริการสูง โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับสุขภาพ การรีแบรนด์ครั้งนี้ บริษัทฯ ได้วิเคราะห์เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่รักความสะดวกสบาย จากแนวคิด “จัดส่งถึงมือ ให้ชีวิตง่ายขึ้น” ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุดอีกด้วย”

และนอกจากการจัดแคมเปญตลาดรวมถึงการพัฒนาระบบการจัดส่งให้รวดเร็วแม่นยำขึ้นไปอีกนั้น  นายโรนัลด์ ชาน กรรมการผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัทแฮปปี้เฟรช กล่าวว่า ได้มีการพัฒนาฟังก์ชันแชทที่มีระบบแปลภาษาให้อัตโนมัติภายในแอปพลิเคชันสำหรับลูกค้า เพื่อเป็นช่องทางติดต่อกับพนักงานเลือกสินค้าในกรณีสินค้าที่เลือกหมด ซึ่งเป็นประโยชน์มากกับลูกค้าชาวต่างชาติ

ทั้งยังยกระดับประสิทธิภาพของอุปกรณ์ที่ใช้ในการขนส่ง เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพความสดใหม่ของสินค้า นอกเหนือจากการใช้กล่องรักษาอุณหภูมิบนรถมอเตอร์ไซค์ เพื่อป้องกันสินค้าจากอากาศร้อนหรือฝน เช่น  การใช้ถุงรักษาอุณหภูมิกับสินค้าประเภทแช่แข็งและอาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงแช่เย็น  รวมถึงใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่างกล่องกระดาษลูกฟูกและถุงพลาสติกย่อยสลายได้ 100% ในกระบวนการจัดส่งสินค้า โดยจะเริ่มต้นที่อินโดนีเซีย มาเลเซียและไทย ภายในสิ้นปีนี้

ขณะเดียวกันยังนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในระดับ Series C ด้วยเงินสนับสนุนการลงทุนกว่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 636 ล้านบาทนี้ จาก Mirae Asset-Naver Growth Fund และพันธมิตรเชิงกลยุทธ์อื่นๆ อย่าง LINE Ventures Singha Ventures และ Grab Ventures เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ใช้สำหรับการขยายพื้นที่ให้บริการทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อสนับสนุนฟังก์ชันเฉพาะทางต่างๆ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก การรวมช่องทางสื่อสารต่างๆ รวมกันเพื่อเข้าถึงผู้บริโภค (Omnichannel) อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

 

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...