"ชลบุรี บลูเวฟ" ฟอร์มเจ๋งเข่นปาซานด์ขึ้นแท่นเจ้าสโมสรเอเชีย
พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ตัวแทนจากเมืองไทย สร้างผลงานสุดยอด เมื่อคว้าแชมป์ฟุตซอลสโมสรเอเชียได้สำเร็จ ด้วยการโค่น กิติ ปาซานด์ ยอดทีมจากอิหร่านไป 3-2 ในนัดชิงชนะเลิศที่ พูโถ อินดอร์ สเตเดี้ยม ประเทศเวียดนาม เมื่อวันอาทิตย์ 30 ก.ค. 60 บลูเวฟทำผลงานยอดเยี่ยมมาตลอดรายการ โดยในรอบแรก เข้ารอบมาแบบชนะรวด ยิงได้ 14 เสีย 0 จากนั้นรอบ 8 ทีมชนะตัวแทนจากญี่ปุ่น ก่อนที่จะมาถล่มไท ซอง นัม จากเวียดนาม 6-0 ขณะที่ กิติ ปาซานด์ จากอิหร่าน ก็เข้าชิงด้วยสถิติชนะรวดทั้ง 4 เกมเช่นเดียวกัน ดังนั้นนี่จึงเป็นการปะทะกันของสองสโมสรที่ดีที่สุดในเอเชีย เกมของคู่นี้ แลกกันอย่างสูสี ถึงนาทีที่ 13 บลูเวฟทะยานนำ 1-0 จากจังหวะที่บอลลอยอยู่กลางอากาศ "เจ้าอาร์ม" ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง กระโดดวอลเลย์เต็มๆ จากระยะแค่ 1 หลาหน้าปากประตู บอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างเต็มเหนี่ยว ในนาทีเดียวกัน กิติปาซานด์ ทำฟาวล์ครบ ทำให้เสียจุดโทษให้บลูเวฟ ก่อนจะเป็น ศุภวุฒิ ที่รับหน้าที่ยิง เลือกกดเต็มแรงไปทางซ้ายของตัวเอง ผ่านมือนายทวารเข้าไป บลูเวฟนำ 2-0 จบครึ่งแรก บลูเวฟนำไปก่อนสบายๆ 2-0 ครึ่งหลัง เริ่มได้แค่ 8 วินาที กิติปาซานด์ ทวงคืนเป็น 2-1 จากอาห์เหม็ด อิสมาเอลปู คีย์แมนเบอร์ 10 ของทีม ที่เพรสซิ่งกดดัน นายทวาร คฑาวุธ หาญคำภา และแย่งไปยิงจากเท้าดื้อๆ และเป็นการเสียประตูที่ 3 ของบลูเวฟในรายการนี้ ตอนนี้กลายเป็นบอลได้ใจ นาทีที่ 22 กิติปาซานด์ ตีเสมอ 2-2 จากจังหวะโต้กลับ อาลี อัสการ์ นาฟลี่ ซัดเต็มๆด้วยขวา ผ่านนายทวารคฑาวุธ เข้าไป แต่ทว่า ถัดจากนั้นไม่ถึงนาที ทีมไทย มาขึ้นนำอีกครั้งเป็น 3-2 จากความสามารถเฉพาะตัวของศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ที่ปั่นบอลโค้ง อ้อมตัวโกล์กิติปาซานด์เสียบมุมแบบสวยงามสุดๆ และเป็นแฮตทริกของ "เจ้าอาร์ม" ในเกมนี้อีกด้วย นาที 25 กิติปาซานด์เกือบตีเสมอได้ จากจังหวะหลุดเดี่ยวของจาเบรี่ แต่ติดเซฟคฑาวุธที่ปัดไว้ได้ปลายมือ ด้วยสกอร์ที่ตามแค่ลูกเดียว ทำให้กิติปาซานด์ ยังเซ็ตเกมรุกปกติ ยังไม่เล่นพาวเวอร์เพลย์ ซึ่งพวกเขาก็มีโอกาสอีก 2-3 ครั้ง แต่ยิงไม่เข้ากรอบ นาทีที่ 36 กิติ ปาซานด์ เจาะบลูเวฟไม่ได้ จึงต้องหันมาเล่นพาวเวอร์เพลย์ ปรากฎว่า อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ ตัดบอลได้ ยิงไกลจากแดนตัวเองทันที แต่บอลไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย กิติปาซานด์โหมบุกอย่างหนัก แต่สุดท้าย เจาะไทยไม่ได้ หมดเวลาการแข่งขัน บลูเวฟทำได้ เอาชนะไป 3-2 คว้าแชมป์เอเชียไปครอง ด้วยสถิติชนะ 100% และเป็นการคว้าแชมป์เอเชียสมัยที่ 2 ของบลูเวฟ หลังจากทำได้มาก่อนแล้วในปี 2013 ด้วย