ฮาวทูทิ้ง……
คำถามข้อหนึ่งซึ่งมักได้รับหลังบรรยายเสร็จ
อะไรคือเคล็ดลับความสำเร็จ?
เคล็ดลับไม่ใช่ความลับ
ความลับถ้าขืนบอกไปแล้วก็คงไม่ใช่ความลับ
แต่อะไรเล่าคือเคล็ดลับ
มีคำสอนมากมายเกี่ยวกับความสำเร็จ
ที่สำคัญและแม่นยำก็เช่นฉันทะ วิริยะ จิตตะ และวิมังสา
เท่าที่คุยๆ กันมา วิมังสานี่ยากที่สุด
การจะไตร่ตรองว่าเราทำดีไม่ดีนี่ หน่วยวัดมันมีความลำเอียง ไม่เที่ยงไม่แท้
จะมีสักกี่ครั้งกี่หนกี่คนที่ยอมรับได้ว่า ตัวเองยังไม่ดีพอและอยากแก้ไข
ส่วนใหญ่ เมื่อบอกไปก็มักจะมีกลไกในการปกป้องตัวเอง
ครูสลานักแต่งเพลง ผู้สร้างผลงานไว้มากมายเคยแนะนำ
ว่าหากอยากแต่งเพลงให้ได้ดี
สิ่งอันควรจะต้องฝึก นอกจากฝึกภาษา หามุมมองแล้ว
ยังต้องฝึกโดนติด้วย
ตอนได้ยินครั้งแรก ผมยังแปลกใจ เราต้องฝึกด้วยหรือโดนติ
เพราะใครๆ ก็ต้องโดนติ ทั้งนั้น
ครูว่า หากเราไม่สามารถฝึกจิตฝึกใจรับคำติได้
คำติจะกลายเป็นของแสลงทิ่มตำใจ
แต่หากเราค่อยๆ ฝึกไป คำติจะกลายเป็นคุณ
โดนติแล้วจิตต้องไม่ตก แต่กลับนำเอาคำตินั้นมาพัฒนาผลงานของตนได้
นั่นคือการฝึกวิมังสา อันเป็นเคล็ดลับที่ครูสลาเคยแนะนำ
ส่วนฉันทะ ซึ่งหมายความว่าต้องทำอะไรด้วยความรัก หรือทำด้วยใจนั้นก็จริงอยู่
แต่ก็ต้องกำกับตามหลังว่า ทำด้วยใจคงไม่พอ
เขียนหนังสือด้วยใจ ร้องเพลงด้วยใจ ขับเครื่องบินด้วยใจ
รักอย่างไรก็คงไม่พอจำต้อง มีวิริยะ จิตตะ มาเติมต่อ
แต่ก็นั่นแหละแม้จะมีความเพียรความพยายามแล้วก็ตาม
ความพยายามอยู่ที่ไหน ใครจะบอกว่าความสำเร็จอยู่ที่นั่น
ผมก็ต้องยืนยันว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน บางครั้งความสำเร็จก็ไม่ได้อยู่ที่นั่นเสมอไป
นอกจากความสำเร็จอาจจะอยู่ไกล บางครายิ่งพยายามยิ่งล้มเหลวก็มีบ่อยไป
ถ้าพยายามผิดทิศผิดทาง
.
เคยมีหนังสือของวรกมล เขียนไว้
ทางไปสู่ความสบายไปลำบาก ทางไปสู่ความลำบากไปสบาย
ความสำเร็จบางทีก็อาจจะไม่ได้มาโดยง่าย จำต้องจดจ่อ อดทน และที่สำคัญยิ่งคือฝึกฝน
การจะฝึกฝนนั้นย่อมต้องใช้เวลา
เมื่อต้องใช้เวลา ก็เลยทำให้ต้องเสียเวลา และไม่สามารถจะเอาเวลาซึ่งมีอยู่จำกัดไปทำในหลายสิ่งจนเกินไปได้
จิตตะ จึงหมายถึงการจดจ่อหรือโฟกัสกับการงานที่เราเลือกแล้ว
เคล็ดลับของความสำเร็จประการหนึ่ง ซึ่งเพิ่งนึกออกและอยากบอกไว้
ก็คือการ ทิ้ง
อาจจะเรียกได้ว่าเราต้องเรียนรู้ฮาวทูทิ้ง
สิ่งใดที่ไม่ใช่…..เราจำต้องทิ้งให้ได้
คนเราล้วนแล้วแต่ผลัดวันประกันพรุ่งกันทั้งนั้นแหละ
จะมีสักกี่คนที่ทำตามกฎหรือสิ่งที่คิด ทำสิ่งซึ่งควรทำได้ทุกวี่วัน
ดังนั้นจึงสำคัญว่า เราจะผลัดวันประกันพรุ่งด้วยเรื่องอะไรต่างหาก
ถ้าเราผลัดวันสิ่งไม่สำคัญไปก่อน
แล้วทำสิ่งสำคัญของแต่ละวันได้ มันก็ย่อมดี
เนื่องจากมนุษย์มีเวลาจำกัด
แต่ความต้องการของเรานั้นมากมาย
เราก็เลยต้องเลือกทิ้งบางสิ่งบางอย่างที่มันไม่ใช่ออกไปบ้าง
.
ตอนวัยเยาว์ผมชอบกีฬา ต่อมาเริ่มชอบดนตรี
ทั้งสองสิ่งล้วนมีคุณค่า แต่ทว่า คงยากที่เราจะสามารถเป็นได้ทั้งนักกีฬาและนักดนตรี
ยิ่งเราอยากจะเป็นนักเขียนด้วย อยากจะเป็นนักร้องด้วย อยากเป็นนักปิงปอง นักเทนนิสด้วย มันก็ไม่ง่ายหากจะทำให้สำเร็จได้ในทุกสิ่ง
จำต้องลดระดับความสำคัญ และมีบางสิ่งที่เลือกทิ้งไป
เมื่อปรารถนาจะเป็นนักเขียน จำต้องเลือกทิ้งการใช้เวลาร่วมวงเล่นไพ่กับเพื่อนๆ
เพราะการพนัน นอกจากใช้เงินแล้ว ยังต้องใช้เวลา
.
เมื่อปรารถนาจะเป็นนักเขียนนอกจากใช้เวลากับการเขียนแล้ว สิ่งซึ่งต้องใช้เวลามากกว่าคือการอ่านหนังสือ
ก็เลยต้องทิ้ง การดูฟุตบอลกีฬาโปรด ไปเสียบ้าง
เลือกไว้แต่แมท สำคัญๆเท่านั้นพอ
ไม่สามารถเป็นแฟนติดตาม ฟุตบอลสโมสรใดๆ ได้
เพราะการดูฟุตบอลแต่ละคู่นั้นใช้เวลาค่อนข้างนาน ทั้งมีแข่งขันกันมากเทศกาล
หรือบางครั้งเราจำเป็นต้องทิ้งธุรกิจบางอย่าง ทิ้งเพื่อนบางคนที่ใช้เวลากับเราแล้วไม่คุ้มค่า คุยกับเราแล้วเอาแต่พูดเรื่องของตัวเอง ยอมเลิกความสัมพันธ์อันไม่คืบหน้าแม้ว่าจะเสียดาย
.
เมื่อมีมืออยู่แค่สองมือ เราอาจจะต้องปล่อยวาง สิ่งซึ่งยึดเกาะอยู่
เหมือนที่เคยทิ้งบุหรี่ ทิ้งไพ่ แล้วหันมาจับหนังสือ จับกีต้าร์
การทิ้งบางสิ่ง จะทำให้เราหยิบฉวยสิ่งใหม่ๆง่ายขึ้น
มือที่กำไว้ ย่อมยากจะรับอะไรใส่เพิ่มเข้ามาได้
กระทั่งมือที่กุมถ้วยรางวัลหากเราไม่ปล่อยวาง ก็คงจะสร้างสรรค์อะไรต่อไปได้ยากเย็น
เคล็ดลับไม่ใช่ความลับ บอกไปแล้วก็ยังคงเป็นเคล็ดลับอยู่นั่นเอง
ดังนั้นหากคุณชอบก็สามารถนำไปบอกต่อแบ่งปันได้เช่นกัน
_
ติดตามบทความใหม่ ๆ จากศุ บุญเลี้ยง ได้ทุกวันพุธ บน LINE TODAY และหากสามารถอ่านบทความอื่นได้ที่เพจศุ บุญเลี้ยง
ความเห็น 11
Yongyuth
ยินดีกับคุณศุบุญเลี้ยง ที่มีจิต สนใจใฝ่ธรรม หลังจากหลงทางอยู่นาน ก็ได้ค้นพบด้วยตนเอง ถึงสิ่งที่สูงสุด ของการได้เกิดมาเป็นมนุษย์ นั่นคือปัญญาที่เรียกว่าวิมังสาการใคร่ครวญพิจารณาถ้าขาดซึ่งปัญญาแล้วทางพ้นทุกข์ย่อมไม่บังเกิด เพราะเห็นธรรมะเป็นสาระ ชีวิตจึงมีสาระ ผู้ใด ชอบธรรมะ แสดงว่าเข้าถึงสาระ แห่งชีวิต เพราะใจนี้คือธรรมะ เป็นแก่นแห่งชีวิต แสงสว่าง ของดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์ ก็ยังไม่สว่างเท่าแสงแห่งปัญญา มันไม่ขึ้นกับกาลเวลา ไม่สว่างอยู่ตลอดเวลา ทั้งกลางวันและกลางคืน จริงๆ
15 ม.ค. 2563 เวลา 13.14 น.
ผมคิดว่าในการคิดพิจารณาถึงในหลักของความเป็นจริงต่อในการดำเนินชีวิตให้อย่างดีและรอบครอบแล้ว ก็ย่อมสามารถที่จะช่วยทำให้ตัดสินใจทำกับในสิ่งที่สมควรที่จะทำได้อย่างถูกต้องเสมอครับ.
15 ม.ค. 2563 เวลา 07.04 น.
ทุกชีวิตก็เปรียบเสมือนแม่น้ำ
แม่น้ำแต่ละสายมีวิถึต่างกัน
ที่จะพาสายน้ำนั้นไปสู่ทางออก
ที่เรียกว่า ทะเล
เป็นปรัชญาการสอนเปรียยเทียบ
กับศาสนา
สายน้ำหรือแม่น้ำ คือสติปัญญา
ส่วนทะเล คือ วัฏตะ
การไปสู่วัฏตะของแต่ละคนย่อมต่างกันแต่สามารถไปถึงวัฏตะได้ช้าหรือเร็วขึ้นกับ
สติปัญญาของแต่ละคน🙏🧡
🙏ขอบคุณบทความดีๆที่เตือนสติในเช้านี้🧡🌻
15 ม.ค. 2563 เวลา 22.59 น.
sianyang
มัวแต่กำและกุมอำนาจ ไม่เหลือมือทำผลงาน
15 ม.ค. 2563 เวลา 12.36 น.
สุดยอดครับ
16 ม.ค. 2563 เวลา 02.12 น.
ดูทั้งหมด