โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เรือน้ำมันเถื่อน 3 ลำ เข้าน่านน้ำไทยแล้ว

The Bangkok Insight

อัพเดต 17 มิ.ย. 2567 เวลา 05.51 น. • เผยแพร่ 17 มิ.ย. 2567 เวลา 05.50 น. • The Bangkok Insight

เรือน้ำมันเถื่อน 3 ลำ เข้าน่านน้ำไทยแล้ว เบื้องต้นพบว่า น้ำมันบางส่วนหายไป ลูกเรือเหลือเพียง 8 คน

ความคืบหน้ากรณีเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน 3 ลำที่หายไปจากท่าเรือสถานีตำรวจน้ำสัตหีบ ล่าสุดตำรวจน้ำได้คุมเรือทั้ง 3 ลำกลับเข้าน่านน้ำไทยและเตรียมแถลงข่าววันนี้ (17 มิ.ย.) แล้ว ที่สถานีตำรวจน้ำ กองกำกับการ 7 จังหวัดสงขลา

โดยขณะนี้ทางตำรวจน้ำสงขลา ได้เตรียมสถานที่โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายเรือประมงเวียดนามของกลางที่จอดอยู่ท่าเรือตำรวจน้ำสงขลาออกทั้งหมดเพื่อเคลียร์สถานที่เตรียมรับเรือขนน้ำมันเถื่อนที่กำลังเดินทางมายังถ้าเทียบเรือตำรวจน้ำสงขลา เนื่องจากเรือทั้ง 3 ลำมีขนาดใหญ่ต้องใช้ท่าเทียบเรือทั้งหมดของตำรวจน้ำ และยังมีการเกางเต็นท์ เตรียมแถลงข่าว ซึ่งคาดว่าเรือทั้ง 3 ลำจะเดินทางมาถึงประมาณช่วงบ่ายของวันนี้เนื่องจากมีความล่าช้าจากเรือเสีย 1 ลำจะต้องใช้เรือของตำรวจน้ำลากจูงเข้าฝั่ง ซึ่งในช่วงบ่าย ทางรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางจะเดินทางลงมาแถลงข่าวด้วยตัวเอง

ขณะที่ พลตำรวจตรี พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ เปิดเผยว่า ตำรวจน้ำได้ประสานกับประเทศเพื่อนบ้าน จนล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ พบเรือน้ำมันเถื่อนของกลางทั้ง 3 ลำแล้ว ที่บริเวณพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษจำเพาะสามประเทศ คือ ไทย กัมพูชา และเวียดนาม

จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า น้ำมันบางส่วนหายไป อยู่ไม่เต็มจำนวน และลูกเรือจากจำนวน16 คน ตอนนี้เหลือเพียง8 คนเท่านั้น และที่บริเวณตัวเรือ พบว่ามีความพยายามที่จะอำพรางเปลี่ยนแปลงสีเรือของกลางด้วย จากการสืบสวนเบื้องต้นเชื่อว่า เรือทั้ง3 ลำ เข้าเทียบท่าที่ประเทศกัมพูชามาก่อนหน้านี้แล้ว และมีลูกเรือบางส่วนลงจากเรือไป พร้อมทั้งน้ำมันบางส่วนก็หายไปด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...