โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

กินดักแด้อบกรอบ แล้วแพ้!! คาด เกิดจากสารฮีสตามีน อย.เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบ

สวพ.FM91

อัพเดต 06 ก.ค. 2560 เวลา 03.23 น. • เผยแพร่ 06 ก.ค. 2560 เวลา 03.23 น.

@กรณีแชร์เตือนภัยในโลกออนไลน์ เรื่องที่มีเด็กกินขนมดักแด้อบกรอบ แล้วมีอาการแพ้ถึงขนาดเข้าโรงพยาบาล โดยอาการดังกล่าวอาจเกิดขึ้นจากการที่ร่างกายได้รับสารฮีสตามีนเกินปริมาณที่กำหนด
อย.จะนำทีมไปตรวจสถานที่ผลิตและสุ่มเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ หากไม่ได้มาตรฐานตามที่กำหนดจะมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป นายแพทย์พูลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการแชร์เตือนภัยเรื่องราวของเด็กหญิงคนหนึ่งเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ด้วยอาการปวดท้อง มีผื่นคันตามร่างกาย แน่นหน้าอก หายใจติดขัดหลังจากรับประทานขนมดักแด้อบกรอบ รสบาร์บีคิว ยี่ห้อหนึ่ง นั้น อาการดังกล่าวอาจเป็นอาการตอบสนองที่มาจากสารฮีสตามีน (Histamine) ซึ่งเป็นสารสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน รวมถึงการทำงานทางสรีรวิทยาของร่างกาย เช่น การกระตุ้นให้กระเพาะอาหารหลั่งกรด การหดตัวของกล้ามเนื้อเรียบทั่วร่างกาย กระตุ้นการทำงานของหัวใจ หลอดเลือด เป็นต้น ซึ่งสารนี้พบทั่วไปในอาหาร และจะพบมากในอาหารที่มีโปรตีนฮีสติดีนสูง เช่น ปลา ชีส เนื้อสัตว์และแมลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอาหารมีการปนเปื้อนแบคทีเรียบางชนิดที่สามารถเปลี่ยน กรดอะมิโนฮีสติดีนไปเป็นฮีสตามีนได้ โดยปริมาณฮีสตามีนที่พบในอาหารทั่วไปคือ 100-200 มิลลิกรัม/กิโลกรัม แต่ในสัตว์บางประเภท เช่น หนอนตัวต่อและดักแด้หนอนไหมอาจพบมากถึง 875 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ซึ่งระดับที่ทำให้เกิดอาการต่อผู้บริโภคอยู่ที่มากกว่า 200 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของปลา เรียกว่า สคอมโบรทอกซิน (Scombrotoxin) ซึ่งพิษดังกล่าวเป็นสารพิษที่ทนต่อความร้อนและก่อให้เกิดการแพ้โดยพบอาการผื่นคัน คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย หรืออาการอื่น ๆ ในกรณีที่มีอาการรุนแรงอาจทำให้เสียชีวิตได้ ในผลิตภัณฑ์อาหารอาจพบได้จากวัตถุดิบที่มีปริมาณฮีสตามีนในธรรมชาติ หรือจากกระบวนการผลิตที่มีการคัดเลือกวัตถุดิบหรือเก็บรักษาไม่เหมาะสมทำให้แบคทีเรียบางชนิดเติบโตและสามารถเปลี่ยนกรดอะมิโนฮีสติดีนไปเป็นฮีสตามีนในปริมาณที่สูงขึ้น และก่อให้เกิดพิษขึ้นได้ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่ผลิตผลิตภัณฑ์ดัวกล่าว เพื่อตรวจสอบกระบวนการรับและเก็บรักษาวัตถุดิบ รวมทั้งสุ่มเก็บตัวอย่าง เพื่อตรวจหาการปนเปื้อนของสารฮีสตามีน หากไม่เป็นไปตามที่กำหนดจะมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ในส่วนของผู้บริโภคทั่วไปสามารถรับประทานผลิตภัณฑ์ดักแด้หนอนไหมได้ แต่หากผู้บริโภคเป็นโรคภูมิแพ้หรือมีประวัติภูมิแพ้หรือหอบหืด ควรหลีกเลี่ยงการรับประทาน เนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียงต่อร่างกายหากได้รับปริมาณ สารฮีสตามีนแม้เพียงเล็กน้อย และควรปรึกษาแพทย์ก่อนการรับประทานด้วย รองเลขาธิการ ฯ กล่าวในตอนท้ายว่า ผู้ผลิตควรคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค ทั้งในเรื่องของสถานที่ผลิต และผลิตภัณฑ์ ต้องมีคุณภาพและความปลอดภัยเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดและได้รับอนุญาตจาก อย. เท่านั้น หากตรวจพบสถานที่ผลิตไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ดีในการผลิตอาหาร มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และหากตรวจพบสารที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ถือเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ หากตรวจพบการแสดงฉลากไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด มีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท หากผู้ใดพบผลิตภัณฑ์ที่น่าสงสัยหรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่ได้รับความปลอดภัยจากการบริโภค สามารถร้องเรียนมาได้ที่สายด่วน อย. โทร 1556 หรือ Email: 1556fda.moph.go.th หรือ ตู้ ปณ. 1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11000 หรือผ่าน Oryor Smart Application หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อ อย. จะดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำผิดต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...