ตรุษจีนหรือวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนเป็นเทศกาลที่ชาวจีนทั่วโลกให้ความสำคัญอย่างมาก ไม่เว้นแม้กระทั่งชาวไทยเชื้อสายจีนที่ยังคงสืบทอดประเพณีตรุษจีนนี้มาจนถึงปัจจุบัน
สำหรับคนจีน วันตรุษจีนถือเป็นวันรวมญาติที่ให้ทุกคนมาพบปะกัน ทั้งไหว้เจ้าเพื่อความเป็นสิริมงคล และไหว้บรรพบุรุษเพื่อรำลึกถึง เนื่องจากคนจีนเชื่อว่าบรรพบุรุษคือรากฐานที่สำคัญของลูกหลาน ความกตัญญูคือหัวใจหลักของวัฒนธรรมจีน ดังนั้นคนจีนจึงให้ความสำคัญกับการไหว้เจ้าและไหว้บรรพบุรุษเป็นอย่างมาก ของที่นำมาไหว้จะต้องเป็นของมงคล มีความหมายที่ดีเพื่อเพิ่มความสิริมงคลให้กับลูกหลานต่อไป
ของไหว้ต่าง ๆ ที่นำมาไหว้นั้น มีทั้งที่เป็นของคาว เป็ด ไก่ ข้าวและกับข้าว ของหวาน ขนม น้ำชา เหล้า และที่ขาดไม่ได้ก็คือกระดาษเงิน กระดาษทอง ทั้งหมดนี้ก็เพื่อรำลึกถึงและส่งต่อไปให้บุคคลอันเป็นที่รักนั่นเอง ส่วนของไหว้จะมากหรือน้อย ไม่มีกำหนดกฎเกณฑ์ตายตัว ขึ้นอยู่กับปัจจัยของแต่ละครอบครัว แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ของที่นำมาไหว้จะต้องเป็นของมงคลตามความเชื่อของความจีน ซึ่งของไหว้แต่ละอย่างก็มีความหมายและความสิริมงคลแตกต่างกันไป
① ของคาว ซึ่งก็คือเนื้อสัตว์ ได้แก่ ชุดซาแซ ของไหว้ 3 อย่าง ประกอบด้วย เป็ด (พร้อมเครื่องในครบชุด) ไก่ (พร้อมเครื่องในครบชุด) หมู หรือชุดโหงวแซ ของไหว้ 5 อย่าง ประกอบด้วย เป็ด (พร้อมเครื่องในครบชุด) ไก่ (พร้อมเครื่องในครบชุด) หมู ปลาทั้งตัวหรือปลาหมึก กุ้งหรือปูหรือหอย โดยชุดไหว้ทั้งหมดต้องอยู่ในถาดเดียวกัน และต้องไม่ประกอบเป็นอาหาร ทำได้แค่การต้มสุกเท่านั้น
เหตุที่คนจีนไหว้เจ้าด้วยซาแซหรือโหงวแซก็เพราะสัตว์เหล่านี้เป็นตัวแทนของสัตว์ทั่วโลก ดังนั้นคนจีนจึงสรรหาสัตว์ที่เป็นตัวแทนของสัตว์ปีก สัตว์บกที่มีกีบเท้า สัตว์ที่มีเกล็ดมาเซ่นไหว้เทพเจ้า ซึ่งตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ปรากฎว่าเป็นสัตว์ที่ใช้เซ่นไหว้เป็นสัตว์ใหญ่ เช่น วัว ม้า แพะแบบทั้งตัว แต่ต่อมาถูกลดขนาดสัตว์ลงเพื่อให้เข้ากับยุคสมัย จึงกลายเป็นสัตว์ต่าง ๆ ตามที่กล่าวมา
- เป็ด สื่อถึงความสามารถอันหลากหลายและความสำเร็จ
- ไก่ หมายความถึงความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
- หมู หมายถึงความอุดมสมบูรณ์
- ปลา สื่อถึงความเหลือกินเหลือใช้ เพราะปลาในภาษาจีนพ้องเสียงกับคำว่าเหลือเฟือ คนจีนจึงมีความเชื่อว่ากินแล้วจะมีเงินเหลือกินเหลือใช้ และต้องเป็นปลาทั้งตัวด้วย เพราะปลาทั้งตัวจะยิ่งทำให้ชีวิตสมบูรณ์ขึ้น
- ปลาหมึก เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ เหลือกิน เหลือใช้ เหมือนกับปลา
- กุ้ง ตามความเชื่อของชาวจีน กุ้งหมายถึงชีวิตที่รุ่งเรือง และในภาษาจีนออกเสียงใกล้เคียงกับคำว่าหัวเราะ ดังนั้นการกินกุ้งจึงมีความหมายเปรียบเปรยว่าการมีชีวิตที่ยืนยาวเปี่ยมไปด้วยความสุขตลอดทั้งปี ยิ่งเมื่อนำไปต้มจะมีสีแดงที่ถือว่ามงคลมากยิ่งขึ้น
- ปู เป็นสัตว์มงคลตามความเชื่อของจีน เชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของการรับทรัพย์ เรียกโชลาภ วาสนา เพื่อนำพาความร่ำรวยมาให้
- หอยที่นำไหว้ส่วนใหญ่เป็นหอยเป๋าฮื้อ มีความหมายมงคลว่าจะช่วยห่อความมั่งคั่ง เงินทอง ให้เหลือกิน เหลือใช้
② ขนมหรือของหวาน ที่ใช้ไหว้ตอนตรุษจีนมีค่อนข้างหลากหลาย แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือขนมที่มีความหมายดี
ขนมเข่ง คือ ความหวานชื่น ราบรื่นในชีวิต ขนมเข่งที่ใส่ในชะลอม หมายถึง ความหวานชื่นอันสมบูรณ์
ขนมเทียน คือ ขนมที่ปรับปรุงขึ้นจากชาวจีนโพ้นแผ่นดินดัดแปลงมาจากขนมท้องถิ่นของไทย จากขนมใส่ไส้เปลี่ยนจากแป้งข้าวเจ้าผสมกะทิมาเป็นแป้งข้าวเหนียวแทน มีความหมายว่า หวานชื่น ราบรื่น รูปลักษณ์เป็นกรวยแหลมมีลักษณะเป็นมงคลเหมือนเจดีย์
- ขนมไข่ คือ ความเจริญเติบโต
- ขนมถ้วยฟู คือ ความเพิ่มพูนรุ่งเรือง เฟื่องฟู
- ขนมสาลี่ คือ รุ่งเรือง เฟื่องฟู
- ซาลาเปา หรือ หมั่นโถว คือ ไหว้เพื่อให้เปาไช้ แปลว่า ห่อโชค
- ขนมเปี๊ยะ มักมีตัวอักษรมงคลสีแดงประทับอยู่กลางขนม ขนมเปี๊ยะเป็นสัญลักษณ์ของความพรั่งพร้อม สมบูรณ์ สมหวัง ความเป็นศิริมงคล และความสามัคคี
- ขนมโก๋ หมายถึงความร่ำรวยและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
- จันอับ ประกอบด้วยขนม 4 อย่าง ได้แก่ ถั่วตัด งาตัด ถั่วเคลือบ ฟักเชื่อม และข้าวพอง ทำจากธัญพืชและน้ำตาล จึงสื่อถึงความหอมหวานและเจริญงอกงามรุ่งเรืองในชีวิต
- ขนมอี๊ (ขนมบัวลอย) อี๊ แปลว่ากลม คือแป้งข้าวเหนียว ใส่สีชมพู ปั้นเป็นก้อน กลมๆ ต้มกับน้ำตาล เพื่อชีวิตกลมเกลียว ง่ายราบรื่น
- แปะก้วยเชื่อมน้ำตาล แทนความหมาย สุขภาพแข็งแรง
③ ผลไม้ ที่นำมาไหว้จะเป็นมงคล มีความหมายดี ซึ่งส่วนใหญ่นิยมไหว้ผลไม้ 5 อย่าง ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ส้ม กล้วย และแอปเปิล นอกเหนือจากนั้นก็เป็นความชอบของแต่ละบ้านที่จะจัดผลไม้มาไหว้ ส่วนจำนวนของผลไม้แต่ละอย่างก็ไม่ได้มีกำหนดกฎเกณฑ์ว่าต้องเป็นเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับเงินในกระเป๋าและความเหมาะสมของแต่ละบ้าน วิธีไหว้จะนำผลไม้มาวางรวมไว้ในถาดใหญ่ รวมกันหลาย ๆ อย่าง
สำหรับผลไม้ที่ไม่ควรนำมาไหว้ ได้แก่ ผลไม้ที่ดิบ และผลไม้ที่มีสีดำ เพราะสีดำสำหรับคนจีนถือว่าเป็นสีคลุมเครือ ไม่ชัดเจน ไม่แน่นอน เพราะเป็นสีที่หมายถึงน้ำ และลักษณะของน้ำก็มีทั้งพลังอำนาจและความอ่อนไหว ทำให้ลึกล้ำยากจะหยั่งถึง คนจีนจึงไม่นิยมนำสีดำมาใช้ในงานมงคลต่าง ๆ
- ส้ม เป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี ร่ำรวยเงินทอง นำความรวยมาสู่ผู้ไหว้
- องุ่น ในภาษาจีนแต้จิ๋ว ออกเสียง “ผู่ท้อ” แปลว่า “งอกงาม” หากนำมาไหว้จะทำให้ชีวิตรุ่งเรือง เติบโต โดยจะต้องไหว้เป็นพวง ส่วนเม็ดองุ่นที่ร่วงออกจากพวงไม่นิยมนำมาไหว้
- สับปะรด เป็นผลไม้แห่งความโชคดี ในภาษาจีนแต้จิ๋ว ออกเสียง “อั่งไล้” แปลว่าเรียกสีแดงเข้ามา ซึ่งสีแดงหมายถึงความโชคดีนั่นเอง
- แก้วมังกร เนื่องจากความเชื่อเรื่องมังกรของชาวจีนมีมานาน มังกรเป็นสัตว์เทพศักดิ์สิทธิ์ที่สื่อถึงโชคลาภและความรุ่งเรือง ดังนั้นแก้วมังกรจึงเป็นผลไม้แห่งอำนาจ ที่ให้ความหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ โชคลาภและความรุ่งเรือง
- กล้วยหอม จำเป็นต้องไหว้เป็นหวี สื่อถึงความงอกงาม มีลูกมีหลานสืบสกุล เพราะกล้วยเป็นพืชที่ทนทาน และแพร่ขยายแตกหน่อได้ง่าย ความหมายของกล้วยในการไหว้คือ ความมั่งมี กวักเงินทอง เรียกโชคลาภเข้าบ้าน ร่ำรวยเงินทองตลอดไป
- แอปเปิล นิยมไหว้ด้วยแอปเปิลสีแดง ซึ่งเป็นสีแห่งความมงคลของชาวจีน โดยความหมายของแอปเปิลเป็นเรื่องของสุขภาพ ทำให้ร่างกายแข็งแรง ปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ
- สาลี่ เพื่อความเป็นสิริมงคลนิยมไหว้สาลี่สีทอง ซึ่งสีทองสื่อถึงเงินทอง โชคลาภ อีกทั้งให้เจอแต่เรื่องดี ไม่ผิดหวังและสมปรารถนาในเรื่องการเงิน
- ทับทิม เชื่อกันว่าทับทิมเป็นผลไม้ที่จะทำให้ครอบครัวอบอุ่น ไม่มีขัดแย้งบาดหมางกัน ช่วยเหลือจุนเจือกันอย่างดี อีกทั้งสีแดงของทับทิมยังเป็นสีแห่งความเฮง โชคดี ร่ำรวยด้วย
- ลูกพลับ ในความหมายลูกพลับสื่อถึงจิตใจเข้มแข็ง ความหนักแน่นมั่นคง
- ลำไย มีความหมายในทางโชคลาภและความสมบูรณ์ทางการเงิน
ตรุษจีนก็คือการขึ้นปีใหม่ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่สำหรับชาวไทยเชื้อสายจีนแล้ว ถือว่าเป็นวันที่มีความหมาย เพราะชาวจีนเชื่อว่าการเริ่มต้นปีที่ดี ก็จะเป็นสิริมงคลไปตลอดทั้งปี
ความเห็น 25
BEST
ตรุษจีนคือวันปีใหม่ของคนเชื้อสายจีนทุกครอบครัว
เป็นประเพณีที่ดีงาม
แต่ถ้าเราขัดสนเรื่องทรัพย์
ให้ไหว้ตามฐานะ อาหารที่เราทำกินก็ไหว้ได้
ไม่มีข้อห้าม อยู่ที่ใจและความศรัทธา
แม่เราชอบกินน้ำพริก ผักต้มหรือสด ปลาทอง ไข่ต้ม
ถ้าเราไหว้หมูเห็ดเป็ดไก่ แม่เราผอมแย่
แต่ตอนนี้เราไม่ได้ไหว้ เพราะร่างกายไม่สะดวก
อีกอย่างเราไม่รู้ว่าแกยังอยู่หรือไปเกิดแล้ว
เราทำทานให้คนอื่นกินแทน
ไปวัดไหว้พระ ทำบุญสร้างทาน แล้วกรวดน้ำให้ผู้ล่วงลับทั้งหลาย จะถึงหรือไม่ แล้วแต่บุญกรรมเท่านั้น ที่รู้
23 ม.ค. 2563 เวลา 02.15 น.
ไหว้ตามงบ ตามฐานะ ก็พอ ไม่มีข้อห้าม
ขายของแพง ตามห้าง ตามsupermarket ตั้งซุ้มต่างๆ ล่อใจคนซื้อ ไม่ซื้อเลย
***ไก่ เป็ดตามห้าง เอาออกมาจากข่องแช่แข็ง มีแต่น้ำแข็ง เอาไปชั่ง น้ำหนักก็เพิ่มแน่นอน แบบนึ้โกงน้ำหนัก *** ไม่ซื้อ เดินผ่านเลย***
23 ม.ค. 2563 เวลา 03.50 น.
🌸M .. Np 11
เอาเป็นว่าอยากจะซื้ออะไรไหว้ก็ซื้อไปเลยไม่ต้องไปยึดติดกับที่เค้ากล่าวขึ้นมา เอาแบบพอสมควร ของแพงมาก
23 ม.ค. 2563 เวลา 15.06 น.
ไม่ขัดศรัทธา(ความเชื่อ)
คนไทยยังไหว้ผีปู่ผีย่า
กระดูกตา กระดูกยาย
คนจีนเขาจะไหว้เทพ ไหว้พ่อแม่บรรพบุรุษเขาบ้างก็ไม่เป็นไร
ขอให้จำเริญๆ
23 ม.ค. 2563 เวลา 15.41 น.
เม็ก (บุณย์พัชรี)
ควรประหยัดจะดีกว่า หลีกเลี่ยงตรุษจีนถ้าเป็นไปได้ น้ำก็แล้งแถมยังมีฝุ่นตลบ มรณะอาจมาถึงท่านได้ทั้งควันธูป และการเผากระดาษไหว้เจ้า การให้แต๊ะเอียแต่ละครั้งควรดูด้วยว่าเงินเหลือเก็บพอใช้ในชีวิตบั้นปลายรึเปล่า อย่าคิดเอาใจลูกหลานว่าจะมาเลี้ยงเลย ฝันหวานเปล่าๆ โลกสมัยใหม่เงินเฟ้อสูงนะจ้ะ จากสงครามนำ้มันเนี่ยแหละจ้ะ
23 ม.ค. 2563 เวลา 04.23 น.
ดูทั้งหมด