โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ภาพยนตร์

13 สุดยอดหนังซอมบี้ที่ต้องดู! วิ่งกระจุย เลือดกระจาย

BT Beartai

อัพเดต 26 พ.ค. 2564 เวลา 11.42 น. • เผยแพร่ 26 พ.ค. 2564 เวลา 08.42 น.
13 สุดยอดหนังซอมบี้ที่ต้องดู! วิ่งกระจุย เลือดกระจาย

ด้วยความสำเร็จและความต่อเนื่องในการสร้างงาน ทำให้จากที่เคยเป็นแค่ตัวละครในหนังสยองขวัญ เป็นซากศพเดินได้ไล่กัดฉีกทึ้งเนื้อคนเป็น ‘ซอมบี้’ กลายเป็นอีกแนวย่อยของหนังที่มีบทบาทไม่น้อยในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ มีงานที่ได้รับความนิยมเป็นระยะ ๆ รวมถึงงานที่ยกระดับแนวทางตัวเองไปอีกขั้น ทั้งเรื่องราวและรายละเอียดปลีกย่อยของตัวละคร

เหล่านี้คือหนังซอมบี้ที่ ‘ห้ามพลาด’ เพราะนอกจากความบันเทิงแล้ว ยังได้พบวิวัฒนาการของหนังแนวนี้ ที่นอกจากยังไม่ตายแต่ยังปรับเปลี่ยนตัวเองไปตามยุคสมัย อยู่ตลอดเวลา

มีเรื่องอะไรบ้าง จัดไป!

  • THE DEAD TRILOGY 
  • 28 DAYS LATER (2002)
  • DAWN OF THE DEAD (2004)
  • SHAUN OF THE DEAD (2004)
  • [REC] (2008)
  • ZOMBIELAND (2009)
  • DEAD SNOW (2009)
  • PARANORMAN (2012)
  • WORLD WAR Z (2013)
  • WARM BODIES (2013)
  • THE GIRL WITH ALL THE GIFTS (2016)
  • TRAIN TO BUSAN (2016)
  • ONE CUT OF THE DEAD (2019)

THE DEAD TRILOGY 

เครดิตภาพ: Night of the Living Dead LLC

ผู้กำกับ: จอร์จ เอ. โรเมโร (George A. Romero) 

ไตรภาคของบิดาแห่งหนังซอมบี้ที่เริ่มด้วย ‘Night Of The Living Dead’ (1968), ‘Dawn of the Dead’ (1978) และ ‘Day of the Dead’ (1985) ถึงไม่ใช่หนังซอมบี้เรื่องแรก แต่หนังของโรเมโรคืองานที่พาซอมบี้หลุดพ้นมนตร์ดำแห่งวูดู และวางระบบกฏเกณฑ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับซอมบี้ ไปถึงรูปแบบในการเล่าเรื่องที่เผยด้านมืดของมนุษย์ การใส่ประเด็นทางสังคม-การเมือง ‘Dawn’ เยี่ยมยอดที่สุดไม่ว่าจะกับหนังชุดนี้หรือในโลกของหนังซอมบี้ แต่ ‘Night’ ก็คือรากฐานของทั้งหนังชุดนี้และหนังซอมบี้ที่ตามมา ส่วน ‘Day’ เป็นการปิดท้ายได้อย่างน่าสนใจ คมในเรื่องมุมมองทางสังคม วิวัฒนาการของซอมบี้ที่เผยขอบเขตที่กว้างไกลของหนังแนวนี้ 

ห้ามพลาดเพราะ: ทุกอย่างในหนังซอมบี้ทุกวันนี้ เริ่มต้นที่หนังชุดนี้ ที่เป็นทั้งคัมภีร์และตำนาน

เครดิตภาพ: Fox Searchlight Pictures

28 DAYS LATER (2002)

ผู้กำกับ: แดนนี บอยล์ (Danny Boyle)

ทางเทคนิคนี่ไม่ใช่หนังซอมบี้ เพราะผู้คนเพียงติดเชื้อจนคลั่ง แต่ท้ายที่สุดมันก็กลายเป็นการสร้างนิยามใหม่ให้กับซอมบี้และหนังแนวนี้ ทั้งการเคลื่อนไหวที่แคล่วคล่องว่องไว และประเด็นที่เปรียบเทียบพวกติดเชื้อกับเหล่าผู้รอดชีวิต ว่าที่สุดแล้วใครเลวร้ายกว่ากัน หนังเอาคนดูอยู่ตั้งแต่ฉากแรกที่ทำให้ลอนดอนกลายเป็นเมืองร้าง แสนพรั่นพรึง การใช้กล้องดิจิทัลที่คนทั่วไปใช้ บวกการแสดงที่เป็นธรรมชาติ ทำให้หนังดูดิบ และสมจริง ต่อให้เป็นช่วงเวลาที่เรื่องราวเกินจริงก็ตาม 

ห้ามพลาดเพราะ: นอกจากสร้างนิยามใหม่ให้หนังซอมบี้ หนังยังเล่าเรื่องได้น่าติดตาม เล่นกับอารมณ์ผู้ชมอย่างมีชั้นเชิง มีความนุ่มนวลในความน่าหวาดหวั่น และเผยความน่ากลัวของมนุษย์ได้อย่างน่าขนลุก

เครดิตภาพ: Universal Pictures

DAWN OF THE DEAD (2004)

ผู้กำกับ: แซ็ก สไนเดอร์ (Zack Snyder)

การรีเมกงานคลาสสิกไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ผู้กำกับหน้าใหม่คนนี้ทำได้ โดยอาศัยความช่วยเหลือจากบทของเจมส์ กันน์ ผู้กำกับ ‘Guardians of the Galaxy‘ ที่มากไปด้วยลูกล่อลูกชนกับอารมณ์คนดูและตัวละคร โดยกล้าที่จะเมินประเด็นทางสังคมแบบต้นฉบับ และเลี่ยงไปเป็นหนังซอมบี้แอ็กชัน จนกลายเป็นเรื่องเล่าซอมบี้ยุคใหม่ แม้หลาย ๆ อย่างทำให้นึกถึง ‘28 Days Later’ ทั้งซอมบี้ที่เร็วอย่างกับนักวิ่งร้อยเมตร ทั้งฉากเปิดเรื่องที่น่าจดจำไม่แพ้กัน แต่ยังมีความน่าตระหนกที่แตกต่าง เมื่อผู้หญิงท้องแก่ใกล้คลอดโดนกัด ตัวละครก็มีพัฒนาการตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป

ห้ามพลาดเพราะ: แม้จะแทนที่หนังต้นฉบับไม่ได้ แต่ก็เป็นงานที่รับช่วง แล้วส่งต่อได้อย่างสวยงาม 

เครดิตภาพ: Universal Pictures

SHAUN OF THE DEAD (2004)

ผู้กำกับ: เอ็ดการ์ ไรท์ (Edgar Wright)

หนังซอมบี้ไม่จำเป็นต้องหม่นมืดหรือน่ากลัว และหนังก็มากไปด้วยอารมณ์ขันแบบอังกฤษจ๋า ถึงไม่มีฉากโหด ๆ สยดสยอง แต่มีสถานการณ์ระทึกปนขำ ทำให้หัวเราะ ยิ้ม และลุ้นกับตัวละครอยู่เพียบ แล้วก็เสียดสีชีวิตผู้คน ความเป็นไปในสังคมได้สนุก หนังถูกนิยามว่าเป็นงานรอม-ซอม-คอม หรือเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของโรเมโรและริชาร์ด เคอร์ติส (Richard Curtis – ผู้เขียนบท ‘Notting Hill’ และผู้กำกับ ‘Love Actually’)

ห้ามพลาดเพราะ: เป็นงานล้อเลียนที่นำโครงสร้างของหนังซอมบี้มาเล่น โดยบรรยากาศและลักษณะเฉพาะอยู่ครบ เป็นอีกครั้งที่พบว่า หนังซอมบี้แตกหน่อต่อยอดไปได้ไกลขนาดไหน 

เครดิตภาพ: Filmax

[REC] (2008)

ผู้กำกับ: ฆัวเม บาลากูเอโร (Jaume Balaguero) และ พาโค พลาซา (Paco Plaza)

หนังเจอฟุตเตจจากสเปน ที่ถูกรีเมกเป็นหนังอเมริกัน ’Quarantine’ กับเรื่องของนักข่าวสาวและตากล้องที่เกาะติดพนักงานดับเพลิง และติดอยู่ในตึกที่ผู้คนกลายเป็นพวกกระหายเลือด นี่คืองานที่พาหนังซอมบี้ไปสู่อีกรูปแบบหนึ่งของการเล่าเรื่อง ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในงานเจอฟุตเตจที่ ‘ดี’ เมื่อนำเสนอได้อย่างมีพลัง โดยเฉพาะการปราศจากดนตรีประกอบ ทำให้รู้สึกราวกับกำลังชมคลิปจากเหตุการณ์จริง ที่สถานการณ์น่าตระหนกไม่รู้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ตรงไหน  

ห้ามพลาดเพราะ: ไม่ใช่แค่พาผู้ชมไปพบกับฝันร้าย จนยากจะปิดไฟชม ยังทำให้เห็นว่า หนังซอมบี้กับการเล่าเรื่องแบบงานเจอฟุตเตจนั้น มันลงตัวและเข้ากันได้ดีขนาดไหน  

เครดิตภาพ: Columbia Pictures

ZOMBIELAND (2009)

ผู้กำกับ: รูเบน ไฟลสเชอร์ (Rueben Fleischer)

หนังซอมบี้รวมดาวที่เหมือนเป็นคำตอบของฮอลลีวูดต่อหนังอังกฤษอย่าง ‘Shaun of the Dead’ ที่สามารถผสมผสานอารมณ์ขันและความสยองขวัญได้ดีไม่แพ้กัน แต่เล่นใหญ่กว่า เมื่อหนังจะพาไปกับกลุ่มคนที่ใคร ๆ ก็ไม่คบ ต้องรวมตัวกัน เพื่อเดินทางข้ามประเทศที่เต็มไปด้วยซอมบี้ หนังเล่นกับเรื่องการยอมรับความจริงในชีวิต และเล่นมุกกับกฏเกณฑ์ต่าง ๆ ที่หากเป็นคอหนังซอมบี้ก็จะสนุกไปอีกระดับ นอกจากอารมณ์ขันแสบ ๆ หนังยังมีดีพอจะทำให้ต้องแอบปาดน้ำตาได้ด้วยซ้ำ

ห้ามพลาดเพราะ: หนังเต็มไปด้วยมุกที่ซุกซ่อนเอาไว้มากมาย มีนักแสดงที่ปรากฏตัวแบบคามีโอเป็นเซอร์ไพรส์ ส่วนเคมีที่เข้ากันของเหล่านักแสดงหลัก ก็คืออีกเสน่ห์สำคัญของหนัง  

เครดิตภาพ: IFC Films

DEAD SNOW (2009)

ผู้กำกับ: ทอมมี เวอร์โคลา (Tommy Wirkola)

จากซอมบี้ที่เป็นคนธรรมดา ๆ หนังสยอง-เบาสมองเรื่องนี้ยกระดับไปอีกขั้น เมื่อเป็นซอมบี้นาซี ซึ่งเป็นอีกความพยายามที่จะฉีกจากกรอบเดิม ๆ ของหนังแนวนี้ และสามารถสร้างลักษณะเฉพาะให้กับตัวเองได้ โดยเฉพาะการไล่ล่าท่ามกลางหิมะสีขาวโพลน ที่ช่วยให้หนังดูแปลกตา รวมถึงมีความสดในตัว ภายใต้บรรยากาศคุ้นชินเดิม ๆ ของหนังซอมบี้ 

ห้ามพลาดเพราะ: ทั้งสนุก เลือดท่วมจอ เมื่อความรุนแรงถูกจับคู่กับอารมณ์ขันแปลก ๆ แบบเดียวกับที่เห็นใน ‘Evil Dead’ ที่ปรากฏทั่วทั้งเรื่อง จนเป็นความบันเทิงแบบสุดขั้ว ไม่ต้องสนเหตุผลไปจนถึงฉากสุดท้าย   

เครดิตภาพ: Laika/ Focus Features

PARANORMAN (2012)

ผู้กำกับ: แซม เฟลล์ (Sam Fell) และ คริว บัตเลอร์ (Chris Butler)

หนังซอมบี้เรื่องเดียวในลิสต์ที่เด็ก ๆ ดูได้ โดยเป็นงานสต็อปโมชันชั้นดีจากสตูดิโอ Laika เจ้าของงานอย่าง ‘Coraline’ และ ‘Kubo and the Two Strings’ กับเรื่องราวที่มีพลิกด้าน เมื่อนอร์แมน (Norman) เด็กที่เข้ากับคนไม่ได้แต่สื่อสารกับซอมบี้ได้ กลายเป็นคนสำคัญเมื่อคำสาปแม่มด ปลุกซากศพในสุสานของเมืองขึ้นมาจนชาวเมืองแตกตื่น แต่ซอมบี้ ปีศาจ ไม่   

ห้ามพลาดเพราะ: ซอมบี้ในหนังเป็นมากกว่าองค์ประกอบของความหลอน ดูน่าเห็นใจ และเป็นตัวแทนในการนำเสนอปัญหาทางสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่ในหนังของโรเมโรมาตลอด รวมถึงประเด็นเรื่องการให้อภัยและการทำความเข้าใจที่แก้ไขปัญหาได้ทุกอย่าง   

เครดิตภาพ: Paramount Pictures

WORLD WAR Z (2013)

ผู้กำกับ: มาร์ก ฟอสเทอร์ (Marc Foster) 

หนังบล็อกบัสเตอร์เรื่องเดียวในลิสต์ที่ใช้ทุนสร้าง 270 ล้านเหรียญ มีแบรด พิตต์ (Brad Pitt) แสดงนำ และเป็นหนังซอมบี้ที่ทำเงินสูงสุด 550 ล้านเหรียญ การเดินทางไปทั่วโลกของเจอร์รี เลน (Gerry Lane – พิตต์) เจ้าหน้าที่สหประชาชาติ เพื่อหาสาเหตุของไวรัสที่ทำให้คนเป็นซอมบี้ในหนัง ทำให้เขาเป็นเหมือนสายลับ อย่าง อีธาน ฮันต์ (Ethan Hunt) ใน ‘Mission: Impossible’ หรือ เจมส์ บอนด์ (James Bond) หนังไม่ได้เล่าเรื่องตามหนังสือ หากทำได้สนุกและเข้าถึงง่ายกว่า เป็นทั้งงานสืบสวน แอ็กชัน แล้วปิดท้ายด้วยความตื่นเต้นแบบงานสยองขวัญ

ห้ามพลาดเพราะ: นอกจากเป็นงานทุนสูง หนังยังเป็นความบันเทิงแท้ ๆ มีฉากจำที่แสนเร้าใจมากมาย ตั้งแต่ฉากเปิดไปจนถึงฉากซอมบี้บุกเยรูซาเล็ม และไคลแม็กซ์ในตอนท้าย  

เครดิตภาพ: Summit Entertainment

WARM BODIES (2013)

ผู้กำกับ: โจนาธาน เลอวีน (Jonathan Levine)

ใครที่มองว่าหนังซอมบี้ไม่มีทางเป็นงานรอม-คอมได้ ต้องดูหนังเรื่องนี้ที่สร้างจากนิยายชื่อเดียวกัน ซึ่งจะพาไปพบอาร์ (R) ซอมบี้หนุ่ม (นิโคลาส โฮลท์ – Nicholas Hoult) ที่พบรักกับสาวเทเรซา พาล์มเมอร์ (Teresa Palmer) ที่รับบทโดย จูลี กริกิโอ (Julie Grigio) ในโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้ครองเมือง ซึ่งช่วยให้ฝ่ายชายค่อย ๆ มีวิวัฒนาการ มีชีวิตชีวามากขึ้นเรื่อย ๆ 

ห้ามพลาดเพราะ: นอกจากจะเป็นแนวทางที่ไม่น่าข้องเกี่ยวกับซอมบี้ได้ หนังยังผสมผสานเรื่องหวาน ๆ, ความน่าตื่นเต้น และสถานการณ์น่าพรั่นพรึง เข้าเป็นหนึ่งเดียวกันได้ดี 

เครดิตภาพ: Warner Bros

THE GIRL WITH ALL THE GIFTS (2016)

ผู้กำกับ: คอล์ม แม็กคาร์ธี (Colm McCarthy)

งานเล็ก ๆ ที่เรื่องราวถือเป็นการปฏิวัติหนังซอมบี้ ในอนาคตมนุษย์เผชิญเชื้อโรคร้ายที่เปลี่ยนคนเป็นพวก ‘ไอ้ตัวหิว’ ซึ่งมีเด็กกลุ่มนี้จำนวนหนึ่งถูกนำมาดูแลและทดลองในค่ายทหาร โดยเมลานี (Melanie) ที่มีความพิเศษกว่าคนอื่น ๆ ตกเป็นเป้าหมายสำคัญในการทดลอง หนังเล่าเรื่องได้อย่างจริงจังและน่าเชื่อถือ ก่อนจะปิดท้ายด้วยเหตุการณ์หักมุม ที่ทำให้สถานภาพของตัวละคร และเรื่องราวกลับตาลปัตรที่ทำให้โลกไม่เหมือนเดิมตลอดกาล  

ห้ามพลาดเพราะ: เป็นหนังซอมบี้ที่มาพร้อมมุมมองที่แตกต่าง ช่วยให้หนังมีความสดใหม่ โดยเฉพาะการให้เจเนอเรชันที่ 2 ของซอมบี้เป็นศูนย์กลาง เรียนรู้ได้และมีความคิดอ่าน  

เครดิตภาพ: Next Entertainment World

TRAIN TO BUSAN (2016)

ผู้กำกับ: ยอนซังโฮ (Yeon Sang Ho)

หนังซอมบี้บนรถไฟ ในงานโปรดักชั่นที่ประณีต และสอดแทรกประเด็นทางสังคมแบบงาน ซอมบี้ในห้างของโรเมโร รวมถึงปัญหาในสังคมตัวเอง การพาตัวละครไปอยู่ในพื้นที่ใหม่ ๆ และเงื่อนไขที่แตกต่าง ทำให้หนังแนวนี้มีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง โดยเฉพาะการสร้างสมดุลของฉากแอ็กชัน ความระทึกขวัญ และเหตุการณ์สะเทือนอารมณ์ ได้อย่างลงตัว รวมถึงทำให้ตัวละครสมทบขึ้นจอได้อย่างน่าจดจำ

ห้ามพลาดเพราะ: นอกจากจะทำให้หนังซอมบี กลับมาเป็นงานร่วมสมัย หนังยังเป็นงานที่ทำให้โลกรู้จักกับหนัง เค-ซอมบี (K-Zombie) อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก  

เครดิตภาพ: Third Window Films

ONE CUT OF THE DEAD (2019)

ผู้กำกับ: ชินอิชิโร อูเอดะ (Shin’ichiro Ueda) 

งานที่มองไปถึงการเป็นหนังคัลต์ คลาสสิก (Cult Classic)  ได้เลย เมื่อกองถ่ายหนังซอมบี้ทุนต่ำต้องเจอซอมบี้จริง ๆ จนทีมงานบางคนกลายเป็นซากศพเดินได้ หากคิดว่านั่นคือจุดหักมุม หรือพลิกผันของหนังแล้ว ยังมีอะไรแบบนั้นให้ได้เซอร์ไพรส์กันอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไปจนถึงเอนด์เครดิต (End Credit) ในขณะเดียวกันหนังก็ถ่ายทำแบบหนังคัตเดียว ว่ากันยาว ๆ ซึ่งเป็นเสน่ห์เฉพาะของหนัง ที่นอกจากความบันเทิงแล้ว ก็เป็นจดหมายรักถึงหนังสยองของผู้กำกับตัวจริงด้วยเช่นกัน

ห้ามพลาดเพราะ: เป็นหนังซอมบี้ที่เล่าเรื่องได้สนุก ทั้งสด แปลก และแตกต่าง รวมถึงตอกย้ำอีกครั้งว่า แม้จะมีกฏเกณฑ์มากมายสำหรับหนังซอมบี้ แต่วิธีเล่าเรื่องนั้น มันขยับขยายไปได้ไกลไม่รู้จบ

อ้างอิง 1 อ้างอิง 2 อ้างอิง 3 อ้างอิง 4

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...