การอุจจาระเป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นเรื่องที่ใคร ๆ เค้าก็ทำกัน แต่รู้หรือไม่..พฤติกรรมที่ทำพร้อม ๆ กับการอุจจาระที่หลายคนทำอยู่ทุกวันนี้ ส่งผลกับสุขภาพร่างกายโดยรวมของเราได้แบบไม่รู้ตัว โดยเฉพาะ 5 สิ่งเหล่านี้ที่เป็นอันดับต้น ๆ ของการถ่ายหนักและบอกเลยว่าพลาดมากถ้าไม่รีบแก้ไขก่อนจะสายเกินไป
1. นั่งแช่นาน ๆ
ขณะทำธุระหนักหลายคนชอบทำอะไรเพลิน ๆ ไปด้วย ทั้งเล่นโทรศัพท์มือถือ อ่านหนังสือ ทำให้ใช้เวลาในการนั่งอึนานกว่าปกติ บางคนครึ่งชั่วโมง บางคนเป็นชั่วโมง ใครที่ชอบทำแบบนี้เป็นประจำ ต้องอ่านตรงนี้ให้ดี
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินอาหารบอกว่า เราไม่ควรใช้เวลาในการอุจจาระนานเกิน 15 นาทีต่อครั้ง ที่สำคัญการที่เราโฟกัสอยู่ที่มือถือหรือหนังสือมากกว่าการขับถ่ายที่อยู่ตรงหน้า อาจทำให้จังหวะเคลื่อนตัวของของเสียในลำไส้หยุดชะงักแล้วไหลกลับไปคั่งอยู่ในร่างกายเราเหมือนเดิม ยิ่งทำให้ถ่ายยากขึ้นและอาจส่งผลให้ท้องผูกได้ด้วย
2. อึไม่สุดหรืออุจจาระตกค้าง
เชื่อหรือไม่..มีบางคนที่ชอบอึไม่สุด ไม่ว่าจะด้วยเวลาที่เร่งรีบหรืออะไรก็ตาม แต่การปล่อยให้อุจจาระยักตกค้างอยู่ในลำไส้บ่อยครั้งส่งผลเสียให้ร่างกายได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ส่วนคนที่ปัญหาในการขับถ่ายหรือกลั้นอุจจาระจนกลายเป็นเรื่องปกติ ก็เสี่ยงอุจจาระตกค้างได้เหมือนกัน ซึ่งการมีอุจจาระตกค้างเป็นโรคชนิดหนึ่ง เกิดจากการที่เราขับถ่ายออกไปไม่หมดและตกค้างอยู่ตามผนังลำไส้ นานวันเข้าอุจจาระจะติดแน่นจนไม่สามารถถ่ายออกไปได้ ส่งผลให้ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ ปวดเมื่อยตามร่างกาย เวียนหัว อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ ฯลฯ
ดังนั้นอย่าคิดว่าเรื่องอุจจาระเป็นเรื่องขี้ ๆ เล็ก ๆ น้อย ๆ เด็ดขาด การอึไม่ออกหรืออึไม่สุด เป็นเรื่องทรมานไม่แพ้โรคอื่น ๆ เลย
3. ไม่เคยมองอุจจาระของตัวเองเลย
ใครไม่รู้ก็รู้ซะ..ว่าอึของเราสามารถบ่งบอกความแข็งแรงของสุขภาพร่างกายได้ ทั้งรูปทรงและสีสันของอุจจาระจะบอกได้ว่าร่างกายของเราเป็นอย่างไร มีปัญหาสุขภาพอะไรบ้าง
สำหรับอุจจาระที่ปกติและบ่งบอกถึงสุขภาพที่ดี จะต้องเป็นสีน้ำตาลที่มีรูปทรงยาว ผิวเรียบหรือขรุขระได้เล็กน้อยเท่านั้น และจะต้องอ่อนนุ่ม ไม่แข็งจนเกินไป ส่วนถ้าใครที่มีสีอุจจาระสีอื่นและรูปทรงอื่น ๆ ก็แปลว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับร่างกายคุณแล้วแหละ
ดังนั้นถ้าไม่เคยมองสีและรูปทรงของอุจจาระของตัวเองเลย ก็ถือว่าพลาดมาก อย่าลืมว่าการสังเกตตัวเองเบื้องต้นเป็นการดูและสุขภาพได้ดีทางหนึ่งด้วย
4. ไม่มีเก้าอี้ไปอึด้วย
ข้อนี้อาจจะงง ๆ หน่อย แต่เป็นเรื่องจริง โดยเฉพาะคนที่ขับถ่ายด้วยการชักโครกที่ถูกออกแบบมาให้เป็นท่านั่ง 90 องศา ซึ่งไม่ใช่ท่าทางที่เหมาะสมกับการขับถ่ายเลย และท่านั่งถ่ายที่ไม่ถูกต้องแบบนี้แหละ ทำให้เกิดปัญหาในการขับถ่ายตามมาอีกเพียบ
ท่าที่ถูกต้องที่สุดสำหรับการขับถ่ายก็คือท่านั่งที่ทำมุม 35 องศา ซึ่งก็คือท่านั่งยอง ๆ นั่นแหละ ท่านี้จะช่วยทำให้ลำไส้ใหญ่ที่มีหน้าที่ขับของเสียไม่ถูกกดทับ และทำงานได้สะดวกขึ้น เรียกว่าเป็นแนวดิ่งตรงมายังทวารหนักแบบสะดวกโยธินที่สุดเลยทีเดียว
5. อึทั้งที่ไม่ปวด
เหตุเกิดจากการนั่งนานไปหน่อย พอนานไปก็เลยต้องเบ่งให้อึออกมา ทั้งที่ไม่ได้ปวดอะไรเลย ความจริงแล้วเราควรไปอึก็ต่อเมื่อปวดมากจริง ๆ เท่านั้น ไม่งั้นอาจต้องใช้แรงและกำลังทั้งหมดในการเบ่งอุจจาระออกมา ซึ่งอาจทำให้เกิดริดสีดวงทวารหรือมีเลือดออกเวลาอุจจาระออกมาได้
ริดสีดวงทวารเกิดจากการไหลเวียนของเลือดบริเวณก้นที่ไม่ค่อยสะดวก ทำให้เมื่อเบ่งแต่ละครั้งทำให้เลือดไปค้างที่ก้น พอนานเข้าก็เลือดก็แข็งตัวทำให้เนื้อเยื่ออักเสบและบวมขึ้นมากลายเป็นริดสีดวงนั่นเอง
ดังนั้นอย่างที่บอกว่าจะถ่ายแต่ละครั้งต้องรอให้ปวดมาก ๆ แบบพรวดเดียวจบไม่ต้องเสียแรงเบ่งถึงจะดีต่อสุขภาพก้นของเรามากที่สุด การเบ่งแรง ๆ หรืออึทั้งที่ไม่ปวดมีแต่จะทำให้ก้นไม่ปลอดภัยเท่านั้นเอง
ทั้ง 5 สิ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวที่หลายคนทำกันบ่อย ๆ โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าส่งผลเสียต่อการขับถ่ายในแต่ละวันมากแค่ไหน เพราะฉะนั้นในเมื่อรู้แล้วว่ามันไม่ดีต่อระบบขับถ่ายก็จงหยุดทำซะ..
