รู้กันหรือไม่ว่าผัก-ผลไม้บางชนิดที่เราเรียกกันด้วยชื่อทับศัพท์ภาษาอังกฤษนั้น อันที่จริงแล้วก็มีชื่อภาษาไทยด้วยเหมือนกัน ซึ่งแม้ชื่อที่เป็นภาษาไทยจะไม่ค่อยเป็นที่นิยมเรียกสักเท่าไหร่ แต่หากรู้ไว้ก็เป็นความรู้สนุกๆ เอาไว้เล่นสนุกกับการคิดเกมที่เกี่ยวกับการเข้าครัวก็ยังได้.. มาดูกันว่าวันนี้เรารวบรวมมาให้มีอะไรกันบ้าง
ผักคอส (ผักกาดหวาน)
ผักใบเขียวที่นิยมมาทำสลัด หรือใส่ในแซนวิชที่เราเห็นแปะป้ายขายเรียกชื่อ “ผักคอส” นั้น อีกหนึ่งชื่อนั้นก็คือ “ผักกาดหวาน” นั่นเอง ซึ่งในผักคอสจะมีวิตามินซีสูง และยังช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง บรรเทาอาการท้องผูก เหมาะสำหรับ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานอีกด้วย
--------------------------------------
มินต์ (สะระแหน่)
ออกเสียงให้ถูกกันนะจ๊ะสำหรับชื่อภาษาไทยของสมุนไพรชนิดนี้ สรรพคุณของมินต์นั้นจะช่วยบรรเทาอาการติดเชื้อในลำคอ แก้อาการเมารถ ช่วยให้ผ่อนคลายจากอาการเหนื่อยล้า ลองนำใบมินต์หรือสะระแหน่ 2-3ใบแช่ในน้ำร้อนชงเป็นชา จะช่วยเพิ่มความสดชื่นระหว่างวันได้
--------------------------------------
บีตรูต (ผักกาดฝรั่ง/ผักกาดแดง)
พืชหัวที่สะสมสารอาหารอยู่ในชั้นใต้ดิน มีวิตามินเอ วิตามินบีรวม และวิตามินซีสูง นอกจากนี้ในส่วนของยอดใบที่มีสีเขียวเข้มมีสารเบต้าแคโรทีน ในหัวสีแดงๆ ของบีตรูต มีสารเบตานินช่วยยับยั้งการเกิดมะเร็ง ลดการเติบโตของเนื้องอก ทำให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น
--------------------------------------
อะโวคาโด (ลูกเนย)
ด้วยเนื้อที่มีความมันคล้ายเนย มีต้นกำเนิดมาจากประเทศเม็กซิโก เข้ามายังประเทศไทยได้ในสมัยที่มิชชันนารีจากอเมริกานำมาปลุกเพาะพันธุ์ในประเทศไทยและก็ได้รับความสนใจและขยายพันธุ์มากยิ่งขึ้น ในอะโวคาโดหนึ่งผลนั้นประกอบด้วยวิตามินอี วิตามินเอ มีวิตามินบี โปรตีน สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย
--------------------------------------
แพสชั่นฟรุต (เสาวรส)
น่าจะเป็นชื่อที่คุ้นเคยทั้งทับศัพท์ภาษาอังกฤษและภาษาไทยแต่อาจหลงลืมกันไป ซึ่งในผลแพสชั่นฟรุตนั้นนอกจากจะมีรสเปรี้ยวอมหวานทานอร่อยแล้ว ยังมีวิตามินซีและวิตามินเอสูงอีกด้วย
--------------------------------------
พีช (ลูกท้อ)
ผลไม้ลูกกลมๆ เนื้อเนียนๆ กลิ่นหอมหวานนี้ มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน จัดเป็นพืชตระกูลเดียวกับซากุระ และบ๊วย มีคุณสมบัติช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด บำรุงสายตา และเลือดออกตามไรฟัน
นอกจากนี้ พีช ยังมีสรรพคุณด้านความงาม ช่วยให้ผิวขาวเนียน ชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน จึงถูกนำมาผสมในเครื่องสำอางและสกินแคร์อยู่เสมอๆ
--------------------------------------
เคพกูสเบอร์รี่ (โทงเทงฝรั่ง/ระฆังทอง)
ผลเบอร์รี่สีส้มในกลีบดอกไม้สีเหลืองบางๆ น่ารักน่ารับประทานนี้มีชื่อเรียกภาษาไทยว่า “โทงเทงฝรั่ง” หรือ “ระฆังทอง” เมื่อสุกงอมแล้วจะมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว อุดมด้วยวิตามินซีที่ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน เสริมสร้างภูมิต้านทาน ป้องกันโรคหวัด และภูมิแพ้ และยังมีมีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา กับสารต้านอนุมูลอิสระป้องกันแก่ได้อีกด้วย
--------------------------------------
มัลเบอร์รี่ (ลูกหม่อน)
ผลเบอร์รี่สีม่วงเม็ดเล็กเป็นพุ่มๆ รสชาติเมื่อสุกทานได้จะออกหวานนำ มีสรรพคุณช่วยปรับปรุงกระบวนการเผาผลาญของไขมันในร่างกาย เหมาะกับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก หรือเป็นผู้ป่วยเบาหวาน บำรุงสายตา และยังแก้อาการท้องผูก
--------------------------------------
แบล็คเบอร์รี่ (ไข่กุ้ง/ไข่ปู/บ่าฮู้)
ผลเบอร์รี่ที่ไม่ได้มีรสชาติหวานฉ่ำ หรือกลิ่นที่หอมหวาน จึงไม่ค่อยพบเบอร์รี่ชนิดนี้ในการทำขนมสักเท่าไหร่ แต่แบล็คเบอร์รี่ หรือชื่อภาษาไทยที่เรียกว่า ไข่กุ้ง/ไข่ปู/บ่าฮู้ นั้นอุดมด้วยคุณประโยชน์มากมายเทียบชั้นสมุนไพรเลยก็ว่าได้ และด้วยความอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจึงช่วยชะลอวัยและชะลอความเสื่อมของเซลล์ อีกทั้งยังช่วยต้านมะเร็ง และป้องกันโรคอัลไซเมอร์
--------------------------------------
ราสป์เบอรรี่ (หนามไข่ปู)
ผลเบอร์รี่สีแดงน่ารักที่มักถูกนำไปทำแยม ขนมหวาน และอีกหลายเมนู ผลราสเบอร์รี่นั้นโดดเด่นทั้งรสเปรี้ยวและหวาน อุดมไปด้วยวิตามินบีรวม วิตามินเค และวิตามินอื่นๆ ซึ่งมีส่วนช่วยให้ร่างกายเผาผลาญคาโบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน นอกจากนี้ยังให้แคลลอรี่น้อย น้ำตาลต่ำ จึงช่วยควบคุมน้ำหนักได้
--------------------------------------
แครนเบอร์รี่ (เบอร์รี่นกกระสา)
เป็นผลไม้ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิง ด้วยสรรพคุณที่ช่วยต้านโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ป้องกันมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ และลดไขมันในเลือด ยิ่งกินยิ่งสวย
ทั้งหมดนี้คือพาเหรดผักผลไม้สายอินเตอร์ที่แอบมีชื่อไทยอยู่ สำหรับใครที่มีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับผักผลไม้ที่น่ารู้อย่าลืมแบ่งปันให้แก่กันเป็นสาระดีๆ ที่ได้ความสนุกสนานไปอีกแบบ.