"แพม"มิสแกรนด์ เปิดหัวใจ มีแฟนลูกครึ่ง ตื่นเต้นได้มงกุฎ ฝันมาตั้งแต่เด็ก พ่ออิตาลีสุดปลื้ม หอมแก้มฉลอง

"น้องแพม-เปมิกา" สาวลูกครึ่งไทย-อิตาลี วัย 23 เปิดใจคว้ามงกุฎ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2017 ฝันอยากประกวดนางงาม มาตั้งแต่เด็ก เตรียมตัวประกวดครั้งนี้เต็มที่ ปรับเปลี่ยนการกินอาหารเพื่อให้หุ่นดี การไปประกวดมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2017 ที่เวียดนาม เดือนต.ค.นี้ จะพัฒนาความมั่นใจของตัวเองในเรื่องตอบคำถาม และเผยแพร่ สิ่งดีๆ ของประเทศไทยให้โลกรู้ว่ามีดีอย่างไร ส่วนเรื่องหัวใจมีหนุ่มคอยดูแลแล้ว เป็นลูกครึ่งอเมริกัน เรียนอยู่เอแบคด้วยกัน เมื่อวันที่ 9 ก.ค. น.ส.เปมิกา ปาสิเนตตี้ หรือน้องแพม มิสแกรนด์ กระบี่ ผู้ได้สวมมงกุฎ มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2017 ในการประกวดรอบตัดสินที่ฮอลล์ 100 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมนานาชาติไบเทค บางนา เปิดใจด้วยความตื่นเต้นว่า ไม่คิดฝันว่าจะได้รับตำแหน่ง เพราะเพื่อนสาวงามทั้ง 77 คน จาก 77 จังหวัดสวยหมด คาดหวังแค่เข้ารอบ 5 คน คิดว่าที่คณะกรรมการเลือกคงเพราะความเป็นธรรมชาติและความสามารถ แพม เปมิกา สาวลูกครึ่งไทย-อิตาลี นักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เอแบค คณะบริหารธุรกิจ อายุ 23 ปี เปิดใจต่อว่า ก่อนมาประกวดครั้งนี้เตรียมตัวเรื่องหุ่น เปลี่ยนวิธีการกินทุกอย่าง จากที่ชอบกินอาหารบุฟเฟต์ก็เปลี่ยนมาออกกำลังกายทุกวัน ด้วยการยกเวต เพื่อให้มีกล้ามเนื้อ ชอบทำกับข้าวและเบเกอรี่เอง ที่เลือกเรียนสาขาบริหารธุรกิจ เพราะอยาก เป็นนักธุรกิจ อยากเปิดร้านกาแฟและร้าน เบเกอรี่ "การประกวดนางงามเป็นความฝันตั้งแต่เด็ก เคยประกวดเวทีมิสทีนไทยแลนด์ 2009 เข้ารอบ 50 คน ตั้งแต่นั้นมาก็ติดตามเวทีนางงามมาตลอด คิดว่าทำไมถึงไม่ลองเดินตามความฝันของตัวเองให้เป็นจริง ปีนี้จึงตัดสินใจว่าเราต้องทำได้และเป็นปีของเรา อยากชนะใจตัวเองว่าเราจะสามารถพัฒนา ตัวเองได้หรือเปล่า คิดว่าทำได้ และอยากเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง" มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2017 กล่าว ก่อนเผยถึงการเตรียมตัวไปประกวดมิสแกรนด์ อินเตอร์ เนชั่นแนล 2017 ที่เวียดนามในเดือนต.ค.นี้ว่า จะพัฒนาความมั่นใจของตัวเองในเรื่องการตอบคำถาม และเผยแพร่สิ่งดีๆ ของประเทศไทยให้โลกรู้ว่า เรามีดีอย่างไร ต่อข้อถามถึงเรื่องของคนรู้ใจ แพม เปมิกา กล่าวว่า "มีแฟนแล้วค่ะ กำลังคบหาดูใจกันอยู่ เป็นนักศึกษาสถาบันเดียวกันที่เอแบค หนุ่มลูกครึ่งอเมริกัน วันนี้ก็มาให้กำลังใจด้วย" ประวัติของมิสแกรนด์ ไทยแลนด์คนใหม่ "แพม เปมิกา" เป็นบุตรสาวของนายอีแวน ปาสิเนตตี้ ชาวอิตาเลียน อายุ 48 ปี และนาง ศิริพร ยอดคำ อายุ 49 ปี ซึ่งมาให้กำลังใจ บุตรสาวถึงขอบเวที เจ้าของส่วนสูง 175 ซ.ม. น้ำหนัก 55 ก.ก. สัดส่วน 34-23-36 ความสามารถพูดได้ 3 ภาษา ไทย, อังกฤษ และอิตาลี สำหรับรางวัลมิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2017 นี้ ได้มงกุฎเพชรมูลค่า 1,200,000 บาท สายสะพาย บ้านพร้อมที่ดิน รถยนต์ 1 คัน และรางวัลอื่นๆ มูลค่ารวมกว่า 6 ล้านบาท ภายหลังเสร็จสิ้นการประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2017 พร้อมรองทั้ง 4 พักผ่อนอิริยาบถ รับประทานอาหารญี่ปุ่นร่วมกัน ส่วนภารกิจในวันจันทร์ที่ 10 ก.ค. คณะ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2017 เดินสายขอบคุณสื่อมวลชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประกวดมิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2017 รอบตัดสิน นายณวัฒน์ อิสระไกรศีล ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการกองประกวดมิสแกรนด์ จัดขึ้นในค่ำคืนวันที่ 8 ก.ค. ที่ฮอลล์ 100 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมนานาชาติไบเทค บางนา มีแฟนคลับนางงามและกองเชียร์จากทั้ง 77 จังหวัด เดินทางมาให้กำลังใจสาวงามที่ตัวเองชื่นชอบอย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเย็น บางส่วนนำป้ายไฟ รูปภาพ และอุปกรณ์การเชียร์ต่างๆ พร้อมส่งเสียงเชียร์สร้างสีสันให้การประกวดอย่างมาก เวลา 20.30 น. กองประกวดเริ่มงาน อุ่นเครื่องด้วยคอนเสิร์ตมิสแกรนด์ โดยเหล่ารุ่นพี่นางงาม อาทิ ฝ้าย น.ส.สุภาพร มะลิซ้อน มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2016, อ้อย น.ส. ชัชฎาภรณ์ กิมากรณ์ มิสซูปราเนชั่นแนลไทยแลนด์ 2016, ปอไหม น.ส.รัตติกร ขุนโสม มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2015, ใบเตย น.ส.ธาราทิพย์ สุขดรุณพัฒน์ มิสซูปราเนชั่นแนลไทยแลนด์ 2015 และ ชลลี น.ส.ชลธิชา อิ่มจรรยา มิสทัวริซึมไทยแลนด์ 2015 กระทั่งเวลา 22.45 น. เข้าสู่ช่วงการประกวด มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2017 รอบตัดสิน โดยถ่ายทอดสดพร้อมกันทั่วประเทศผ่านทางสถานี โทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 และเพจเฟซบุ๊ก Miss Grand Thailand โดยมีน.ส.ศรัยฉัตร กุญชร ณ อยุธยา จีระแพทย์ และแมทธิว ดีน รับหน้าที่ผู้ดำเนินรายการ กองเชียร์เริ่มคึกคักส่งเสียงเชียร์นางงามทั้ง 77 จังหวัดสนั่นฮอลล์ โดยสาวๆ เปิดตัวด้วยการออกมาวาดลวดลายการเต้นประกอบเพลง พร้อมแนะนำตัวต่อคณะกรรมการ ต่อมาสาวงาม 4 คน ตัวแทน 4 ภาคที่ผ่านการคัดเลือกในรอบเบสต์ วอยซ์ ได้แก่ มิสแกรนด์อุทัยธานี มิสแกรนด์สระบุรี มิสแกรนด์อุบลราชธานี และมิสแกรนด์สุราษฎร์ธานี ควงไมค์ร้องเพลงเมดเลย์ เรียกคะแนนเพื่อผ่านเข้ารอบ 12 คนสุดท้ายอัตโนมัติ หลังจากพิธีกรประกาศผลผู้เข้ารอบ 20 คนสุดท้าย สาวงามทั้งหมดออกมาอวดรูปร่าง ในชุดว่ายน้ำจากแบรนด์เอ็มจีไอ โดย น.ส. กมลรัตน์ ทานนท์ มิสแกรนด์ศรีสะเกษ คว้ารางวัลชุดว่ายน้ำยอดเยี่ยม ขณะที่น.ส.สุชาณี สิริเนตร มิสแกรนด์นครศรีธรรมราช รับรางวัล ขวัญใจช่างภาพและสื่อมวลชน สำหรับสาวงามที่คว้ารางวัลเบสต์ วอยซ์ ได้แก่ เบลล์ น.ส.เลลาณี ทศพร มิสแกรนด์สระบุรี ลูกสาวแก้ว อภิรดี ภวภูตานนท์ ดาราชื่อดัง และ มิสป๊อปปูลาร์โหวต ได้แก่ น.ส.นาราริน พิมพิสาร มิสแกรนด์สระแก้ว ทั้งสองตำแหน่งผ่านเข้ารอบ 12 คนสุดท้ายอัตโนมัติ ต่อมาพิธีกรประกาศผลผู้เข้ารอบอีก 10 คน หลังจาก ฝ้าย น.ส.สุภาพร มะลิซ้อน มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2016 พร้อมรองทั้ง 4 ขึ้นอำลาตำแหน่ง สาวงามทั้ง 12 คนออกมาโชว์โฉมในชุดราตรียาวเพื่อเก็บคะแนน ก่อนพิธีกรประกาศผลผู้เข้ารอบ 5 คนสุดท้าย ได้แก่ น.ส.เปมิกา ปาสิเนตตี้ มิสแกรนด์กระบี่, น.ส.กมลรัตน์ ทานนท์ มิสแกรนด์ศรีสะเกษ, น.ส.ฉัตร์ณลิณ โชติจิรวาฉัตร มิสแกรนด์ กำแพงเพชร, น.ส.ทวีพร พริ้งจำรัส มิสแกรนด์จันทบุรี และน.ส.ศรุชา นิลจันทร์ มิสแกรนด์ ประจวบคีรีขันธ์ ภายหลังการตอบคำถามเดียวกันที่ว่า "ในปัจจุบันเมืองใหญ่ทั่วโลกโดยเฉพาะกรุงเทพมหานครประสบปัญหาด้านการจราจรอย่างมาก ถ้ามีโอกาสแสดงความ คิดเห็นจะมีแนวทางแก้ไขปัญหานี้อย่างไร" นาทีที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง พิธีกรประกาศรางวัล รองอันดับ 4 ได้แก่ แป้งหอม น.ส. กมลรัตน์ ทานนท์ มิสแกรนด์ศรีสะเกษ, รองอันดับ 3 อุ้ม น.ส.ทวีพร พริ้งจำรัส มิสแกรนด์จันทบุรี, รองอันดับ 2 อาย น.ส. ศรุชา นิลจันทร์ มิสแกรนด์ ประจวบคีรีขันธ์ สุดท้ายเหลือสองสาวงามบนเวที ท่ามกลาง เสียงเชียร์ลั่นฮอลล์ พิธีกรประกาศตำแหน่ง มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2017 ได้แก่ แพม น.ส.เปมิกา ปาสิเนตตี้ มิสแกรนด์กระบี่ โดยน.ส.เปมิกาตอบคำถามดังกล่าวว่า "อยากให้ทุกคนใช้รถโดยสารสาธารณะ งดการใช้รถคนละคัน" ผู้ครองตำแหน่งรองอันดับ 1 ได้แก่ นลิน น.ส.ฉัตร์ณลิณ โชติจิรวาฉัตร มิสแกรนด์ กำแพงเพชร สำหรับรางวัลขวัญใจเชียงใหม่ซึ่งประกาศก่อนหน้านี้ ได้แก่ น.ส.ทวีพร พริ้งจำรัส มิสแกรนด์จันทบุรี พ่วงรางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยม จากชุดทุเรียน "คิง ออฟ ฟรุต", รางวัลเบสต์ สไมล์ น.ส.เจสสิก้า เอสพินเนอร์ มิสแกรนด์กรุงเทพมหานคร พ่วงรางวัลมิส ไรซิ่ง สตาร์, รางวัลนางงามมิตรภาพ น.ส. เจสซิก้า แมคเคนนา มิสแกรนด์ลำปาง, รางวัลชุดราตรียอดเยี่ยม น.ส.ปุณณภา ขันธรัตน์ มิสแกรนด์บุรีรัมย์