หลังจากที่เป็นข่าวดัง เมื่อน้องต่อ เด็กน้อย 8 เดือน ที่หายตัวไปปริศนา ทำให้เกิดเรื่องราววุ่นวายขึ้นมาในครอบครัวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด นิ่ม แม่น้องต่อ ได้ออกมายอมรับสารภาพด้วยการให้การเบื้องต้นว่า น้องต่อตื่นงอแงตอนตี 3 เพราะมีไข้ อุ้มให้นมแต่ก็ร้องไม่หยุด จึงอุ้มเขย่าไปมาจนน้องต่อหล่นหัวกระแทกพื้น จากนั้นก็หลับไป แม่ก็เข้าใจว่าลูกหลับ จนตีห้า จะชงนมอีกรอบ พบว่า ลูกนอนเสียชีวิต ไม่รู้จะทำยังไง กลัวความผิด จึงเก็บความลับมาตลอด
เกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังจากที่อาจารย์เจ จักรรินทร์ รังสิมันตุ์ พร้อมกับชาวบ้านในพื้นที่ ได้เตรียมข้าวสารอาหารแห้ง ผลไม้และของไหว้ มาทำพิธีเปิดทาง ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยดลบันดาลให้เจ้าหน้าที่ ในจุดที่ น.ส.นิ่ม อ้างว่านำน้องต่อมาทิ้งไว้บริเวณนี้ เพื่อที่จะนำรถแบคโฮ มาขุดนำร่องและ เคลียร์ผักตบชวาเศษขยะออกจากพื้นที่ เพื่อจะได้ค้นหาร่างของน้องต่อเจอ ที่คุ้งน้ำ ใกล้บ้านของน้องต่อ ในพื้นที่ ต.หินมูล อ.บางเลน จ.นครปฐม
โดยอาจารย์เจ ระบุว่า ไม่อยากจะพูดว่าเจอหรือไม่เจอ แต่อยากจะพาน้องกลับบ้านมากกว่า โดยในวันนี้ก็ได้มาทำพิธีเปิดดวงวิญญาณเพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยนำร่างของน้องขึ้นมา หลังจากนั้น อาจารย์เจก็ได้จุดธูปทั้งหมด 4 ดอกแต่ปรากฏว่าทุกครั้ง 4 ดอกติดแล้วแต่ดับในเวลาต่อมา และพยายามจุดถึง 4 ครั้ง แต่ก็ไม่ติด
จึงคิดว่าตอนนี้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่เปิดทาง คาดว่าน้องต่อน่าจะอยากให้คนที่มาทำพิธีเปิดทางเป็นคนที่ผูกพันและเลี้ยงดูเขามามากกว่า ตอนนี้จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ที่อยู่กับ น.ส.นิ่ม ว่าจะสามารถจุดธูปแล้วอธิษฐานขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดทางให้เจ้าหน้าที่สามารถพบร่างของลูกชายได้หรือไม่
ในขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมานิ่มเป็นคนเลี้ยงลูกดีมาก จะเห็นว่าสองแม่ลูกตัวติดกันตลอด แล้วน้องต่อก็เป็นเด็กที่สดใส ร่าเริง จนกระทั่งอายุประมาณ 5-6 เดือน ก็เริ่มป่วย มีกลากเกลื้อนขึ้นบริเวณผิวหนังทั้งตัว แล้วทำให้น้องไม่สบายตัวมีไข้ ก็เลยกลายเป็นเด็กที่ซึมแววตาเศร้า
นอกจากนี้ นางจำเนียร แม่ของนายพุด ได้เปิดใจหลังจากที่ นิ่ม รับสารภาพทิ้ง น้องต่อ ลงแม่น้ำ โดยระบุว่า ถ้าเกิดนิ่มทำกับลูกตัวเองแบบนั้นตนเองก็เสียใจ และยังไม่ได้คุยกับนิ่มโดยตรง อยากได้ยินความจริงจากปากนิ่มเอง ส่วนตัวยังไม่เชื่อทั้งหมด อยากขอคุยก่อน เนื่องจากครั้งแรกนิ่มอ้างว่ามีคนอุ้มน้องต่อไป แต่ล่าสุดนิ่มรับสารภาพว่าเป็นคนโยนลูกตัวเองทิ้งลงแม่น้ำ ยังไม่ปักใจว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องจริง
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Tnews
ความเห็น 0