ส่อง ‘ลักชัวรี่แบรนด์’ หายาก ทำไมถึงแพงระยับ นักสะสมทั่วโลกตามหา
เปิดกรุลักชัวรี่แบรนด์ในงานพรีวิวสุดเอ็กซ์คลูซีฟ โดยเกิดจากความร่วมมือระหว่างคริสตีส์ และยูโอบี พริวิเลจ แบงก์กิ้ง (UOB Privilege Banking) ในการนำเสนอผลงานไฮไลต์ที่คัดสรรเป็นพิเศษ อาทิ นาฬิการะดับมาสเตอร์พีซ กระเป๋าแบรนด์เนมล้ำค่า และอัญมณีหายาก เมื่อวันที่ 28-30 เมษายน ณ เดอะ พีค ชั้น 20 อาคารเกษร ทาวเวอร์ ใจกลางกรุงเทพฯ ก่อนจะเข้าสู่การประมูลในเจนีวาและฮ่องกงช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งภายในงานนอกจากจะละลานตาไปด้วยเครื่องเพชรเม็ดงามไปจนถึงชื่นชมความสวยของกระเป๋าจากแบรนด์ชั้นนำที่ถูกคัดสรรมาแบบพิเศษแล้ว ยังมีโอกาสได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญระดับโลกในจากคริสตีส์ที่บินตรงมาแบ่งปันข้อมูลและแลกเปลี่ยนมุมมองในด้านต่าง
โดยการจัดงานพรีวิวก่อนการประมูลในครั้งนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นของซีรีส์กิจกรรมพิเศษที่จะเปิดตัวต่อเนื่องในอนาคต เพื่อมอบแรงบันดาลใจและยกระดับประสบการณ์ระดับโลกให้กับผู้ประมูลในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การฉลองครบรอบ 50 ปี การประมูลนาฬิกาของคริสตีส์ พบกับ “เรือนเวลา” จาก 3 แบรนด์ชั้นนำที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในปัจจุบัน คือ Patek Philippe, Rolex และ F.P. Journe โดยจะทำการประมูลที่เจนีวา ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2568 ที่ได้กลายเป็นหมุดหมายของนักสะสมนาฬิกาที่ไม่ควรพลาด
‘Remi Guillemin’ หัวหน้าแผนกนาฬิกาของคริสตีส์ประจำภูมิภาคยุโรปและอเมริกา กล่าวว่า “ปี 2025 เป็นปีแห่งการครบรอบหลายเหตุการณ์ในวงการนาฬิกา ทั้งแบรนด์ที่มีชื่อเสียงมายาวนานและผู้สร้างนาฬิกาอิสระ คริสตีส์รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโลกโฮโรลอจี (horology) มาหลายทศวรรษ ตั้งแต่เริ่มจัดประมูลนาฬิกาเดี่ยวครั้งแรกที่นครเจนีวาเมื่อ 50 ปีก่อน จนวันนี้ได้ขยายความสำเร็จสู่ศูนย์ประมูลในดูไบ ฮ่องกง และนิวยอร์ก”
โดยไฮไลต์สำคัญของการประมูลครั้งนี้ ได้แก่ “Patek Philippe, Pink Gold Perpetual Calendar, Ref. 2497 ‘First Series'” (ผลิตปี 1953) ผลิตออกมาเพียง 115 เรือนตลอดช่วงปี 1951-1963 โดยเรือนที่นำออกประมูลนี้เป็น 1 ใน 7 เรือนจากซีรีส์แรกที่ใช้เคสโรสโกลด์โดยช่างฝีมือที่มีชื่อเสียง Emile Vichet ซึ่งโดดเด่นด้วยขานาฬิกายาวเรียวและฝาหลังแบน ประมาณราคา : CHF 1,000,000-2,000,000 (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 40-80 ล้านบาท)
“Rolex, Yellow Gold Daytona ‘Paul Newman John Player Special’ Ref. 6264” (ผลิตประมาณปี 1971) นาฬิกาหายากระดับโลก และมีความลึกลับระดับตำนาน รุ่นนี้ผลิตระหว่างปี 1969-1972 เท่านั้น สำหรับเรือนทอง 14k ทำมาสำหรับตลาดอเมริกาเหนือโดยเฉพาะ ที่ผ่านมามีเพียง 2-3 เรือนที่ปรากฏภาพ หรือข้อมูลในที่สาธารณะ นับเป็นเรือนแรกของรุ่นที่นำออกประมูลในระดับนานาชาติ ประมาณราคา : CHF 800,000-1,600,000 หรือราวๆ 30-60 ล้านบาทไทย
นอกจากนี้ ยังมี F.P. Journe ‘Ruthenium’ ครบ 5 รุ่น อย่าง Octa Calendrier (CHF 150,000-250,000), Octa Jour/Nuit (CHF 100,000-200,000),Octa Chronographe (CHF 150,000-250,000), Chronometree Resonance (CHF 300,000-500,000) และ Tourbillon Souverain (CHF 300,000-500,000) ผลงานระดับมาสเตอร์พีซจากช่วงปี 2001-2006 ที่ผลิตเพียง 99 เรือนเท่านั้น
ในส่วนของจิวเวลรีที่นำมาประมูลในเจนีวาจะนำเสนอคอลเล็กชั่นเครื่องประดับจากทั้งยุคประวัติศาสตร์และยุคใหม่ รวมถึงแบรนด์ชั้นนำอย่าง Harry Winston, Cartier, JAR, Van Cleef & Arpels และอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “A Bouquet Of Gems : A Superb Collection Of Jewels By JAR” ซึ่งเป็นหนึ่งในคอลเล็กชั่นส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดประกอบด้วยผลงาน 21 ชิ้นของ Joel Arthur Rosenthal (JAR) ปรมาจารย์แห่งการออกแบบอัญมณีของโลก ซึ่งไม่เคยปรากฏในตลาด หรือถูกประมูลมาก่อน
คอลเล็กชันนี้ประกอบด้วย กำไลเพชร Apricot Blossom (ประมาณราคา: US$ 340,000-570,000) นอกจากนี้ ยังมี สร้อยคอหลากสี Multi-Gem Chain Necklace (ประมาณราคา: US$ 285,000-400,000) และ สร้อยข้อมือ Semainier (ประมาณราคา: US$ 140,000-200,000)
ทั้งหมดเป็นผลงานออกแบบในสไตล์เฉพาะตัวของ JAR ซึ่งผลิตเครื่องประดับเพียง 70-80 ชิ้นต่อปี แต่ละชิ้นออกแบบให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละรายโดยเฉพาะ นั่นจึงทำให้ผลงานของเขาทั้งหายากและมีคุณค่าในหมู่นักสะสม
นอกจากเจนีวาแล้ว นักสะสมยังสามารถร่วมประมูลในงานประมูลกระเป๋าและเครื่องประดับ Handbags & Accessories ที่ฮ่องกง โดยการประมูลกระเป๋าถือและเครื่องประดับในฤดูใบไม้ผลินี้ รวบรวมผลงานจาก 3 แบรนด์ระดับโลก ได้แก่ Hermes, Chanel และ Louis Vuitton หนึ่งในไฮไลต์ที่โดดเด่นที่สุด คือการเปิดตัวผลงานสั่งทำพิเศษจาก Hermes ได้แก่ Kelly Doll หนังจระเข้ทูโทน และ Kelly 25 สีชมพูแมตต์ หายาก ซึ่งทั้งสองใบสะท้อนถึงความประณีตสูงสุดและศิลปะอันไร้ที่ติในการสร้างสรรค์
อีกทั้งยังมีผลงานหายาก อาทิ Faubourg Birkin ซึ่งเป็นที่หมายปองของนักสะสมทั่วโลก, Diamond Birkin ขนาด 40 เซนติเมตร ผลิตจากหนังจระเข้โพรโรรัสสีดำที่หายากยิ่ง รวมถึงกระเป๋ารุ่นพิเศษจากการร่วมมือกับศิลปินระดับโลกอย่าง Takashi Murakami และYayoi Kusama เสริมความพิเศษให้คอลเล็กชั่นด้วยการนำเสนอ Himalaya Crocodile Handbags ในหลากหลายขนาด
รวมถึงยังได้พบกับสองสุดยอดอัญมณีที่อย่าง“Regent Kashmir” แหวนแซฟไฟร์แคชเมียร์ ‘Royal Blue’ ขนาด 35.09 กะรัต แบบ No Heat ประดับเพชร (ประมาณราคา: HK$ 65,000,000-95,000,000 / US$ 8,000,000-12,000,000) แซฟไฟร์น้ำหนัก 35.09 กะรัต ซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และถือเป็นอัญมณีแซฟไฟร์แคชเมียร์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดที่คริสตีส์เคยนำเสนอในตลาดประมูลระดับโลกในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา “Regal Ruby” แหวนทับทิมพม่าแบบ No Heat ขนาด 13.22 กะรัต ประดับเพชร (ประมาณราคา: HK$ 50,000,000-80,000,000 / US$ 6,500,000-10,000,000)
ทับทิมพม่าขนาดใหญ่ที่สุดและมีมูลค่าสูงที่สุดซึ่งคริสตีส์ฮ่องกงเคยเสนอขายในรอบทศวรรษ ทับทิมธรรมชาติคุณภาพสูงไม่ผ่านกระบวนการเผาเพื่อปรับปรุงสี หรือความใสขนาดเกิน 5 กะรัต พบได้ไม่บ่อยนัก โดยเฉพาะชิ้นที่มีสีแดงเข้ม ใสเป็นพิเศษ และหาได้ยากยิ่งเช่นนี้
ไฮไลต์อื่นๆ จากการประมูล Magnificent Jewels ได้แก่ แหวนมรกตโคลอมเบียแบบ No Oil ขนาด 10.35 กะรัต ประดับเพชร (ประมาณราคา: HK$ 6,800,000-9,800,000 / US$ 870,000-1,260,000) และต่างหูมรกตโคลอมเบียแบบ No Oil ขนาด 7.03 และ 6.92 กะรัต ประดับเพชร (ประมาณราคา: HK$ 5,500,000-7,500,000 / US$ 700,000-960,000)
นอกจากนี้ ยังมีการประมูลคอลเล็กชั่นนาฬิกาชั้นเยี่ยมจากนักสะสมผู้มีวิสัยทัศน์และสายตาเฉียบคมในการเลือกสรรความเป็นเลิศ ซึ่งสะท้อนถึงความหลงใหลและการอุทิศตนตลอดกว่า 30 ปีในการเสาะแสวงหา “เรือนเวลา” ที่หายากจากทั่วโลก
ประกอบไปด้วย นาฬิการ่วมสมัย 160 เรือนจาก 47 แบรนด์ และผู้ผลิตนาฬิกาอิสระชื่อดังอย่างเช่น Greubel Forsey (9 เรือน), Ferdinand Berthoud (2), Gerald Genta (3), Voutilainen (2) และ De Bethune (18) แม้จะแตกต่างหลากหลาย แต่นาฬิกาทุกเรือนล้วนสะท้อนถึงจุดสูงสุดของศาสตร์และศิลป์แห่งการผลิตนาฬิกา ทั้งยังมีผลงานชั้นเยี่ยมจากแบรนด์ระดับตำนานของสวิตเซอร์แลนด์อย่าง Patek Philippe, Jaeger LeCoultre, Vacheron Constantin และ Ulysse Nardin รวมอยู่ด้วย หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือ“Greubel Forsey” นาฬิกาข้อมือไทเทเนียมรุ่นสเกเลตัน ลิมิเต็ดอิดิชั่นที่หายาก (ราคาประเมิน: US$ 160,000-310,000)
สำหรับผู้ที่สนใจติดตามการประมูลชิ้นงานหายากระดับโลก โดยเฉพาะในกลุ่มอัญมณี นาฬิกา กระเป๋า และไวน์ชั้นเลิศ เดือนพฤษภาคมนี้ จะเกิดขึ้นในเมืองสำคัญทั่วโลก โดยที่เจนีวาจะจัดขึ้นในวันที่ 12-14 พฤษภาคม และฮ่องกงจะจัดขึ้นในวันที่ 22-29 พฤษภาคม โดยงานที่เข้าร่วมการประมูลในฮ่องกงจะจัดแสดงล่วงหน้าให้ชมระหว่างวันที่ 22-28 พฤษภาคม ณ อาคาร เดอะ เฮนเดอร์สัน ชั้น 6, ฮ่องกง และไฮไลต์บางส่วนจะนำมาจัดแสดงล่วงหน้าในงานพรีวิวพิเศษที่กรุงเทพฯ
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ส่อง ‘ลักชัวรี่แบรนด์’ หายาก ทำไมถึงแพงระยับ นักสะสมทั่วโลกตามหา
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th