โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ภูมิภาค

นักท่องเที่ยวไทย-เทศแห่ชมความสวยงามของโคมไฟเพนท์มือนับหมื่นดวงในงานสีฐานเฟสติเวลคึกคัก

สยามรัฐ

อัพเดต 10 พ.ย. เวลา 12.57 น. • เผยแพร่ 10 พ.ย. เวลา 12.57 น.
นักท่องเที่ยวไทย-เทศแห่ชมความสวยงามของโคมไฟเพนท์มือนับหมื่นดวงในงานสีฐานเฟสติเวลคึกคัก

นักท่องเที่ยวไทย-เทศ แห่ชมความสวยงามของโคมไฟเพนท์มือนับหมื่นดวง ในงานสีฐานเฟสติเวลคึกคัก “นิยม” เผยปีนี้จัดเต็มเอาใจสายมูเตลู ครบทุกศาสตร์ คาดคนร่วมงานนับแสนเงินสะพัดกว่า    700 ล้านบาท

วันที่ 10 พ.ย.2567 เวลา 18.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่านักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จำนวนมาก ต่างพากันมาชมความสวยงามของโคมไฟเพ้นท์มือนับหมื่นดวง ซึ่งมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ทำการประดับตกแต่งและทดลองระบบไฟในเส้นทางถนนสีฐานด้านหน้าศูนย์ประชุมเอนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. โดยที่ทาง มข.ได้ทำการปิดถนนโดยรอบหอศิลปวัฒนธรรม เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาถ่ายภาพ และชมความสวยงามในการประดับตกแต่งสถานที่โดยรอบบึงสีฐานทั้ง 2 ฝั่งตามกำหนดการเตรียมงานสีฐานเฟสติวัล บุญสมมาบูชานาค ซึ่งในปีนี้ มข.ได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดกิจกรรมขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 พ.ย.ซึ่งถือเป็นงานประเพณีประจำปีที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาร่วมชมงานและร่วมกิจกรรมในเทศกาลลอยกระทงของ จ.ขอนแก่น ทุกปี

โดย รศ.ดร.นิยม วงษ์พงศ์คำ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า มั่นใจว่างานสีฐานเฟสติวัล ในปีนี้ ตลอดทั้ง 3 วันของการจัดงานจะมีนักท่องเที่ยวมาร่วมงานไม่น้อยกว่า 350,000 คน ซึ่งจะส่งผลต่อรายได้ที่เกิดขึ้นให้กับจังหวัดไม่น้อยกว่า 700 ล้านบาท ซึ่งในการกำหนดจัดกิจกรรมปีนี้ได้กำหนดพื้นที่จัดงานออกเป็น 3 ส่วน ซึ่งขณะนี้เหลือเวลาไม่กี่วันก็จะถึงวันจัดกิจกรรมแล้ว ซึ่งการเตรียมงานของเรานั้น มีความพร้อมไปแล้วกว่าร้อยละ 85 ทั้งในเรื่องของระบบไฟแสงสี สถานที่ การแสดงและการละเล่นต่างๆ ซึ่งการจัดงานสีฐานเฟสติวัลนั้นทุกปีเราจะมีความแปลกใหม่ ไม่ซ้ำแต่ที่ซ้ำบางรายการคือการเล่นโคมไฟเพ้นท์มือ ซึ่งไม่ได้เป็นการนำโคมไฟทั่วไปที่ซื้อแล้วนำมาแขวน แต่เป็นการที่ทุกคนใน มข. และชาวขอนแก่น ได้ร่วมกันเพ้นท์มือในโคมไฟทุกดวงซึ่งน่าจะเป็นการรวมพลังของคนขอนแก่นครั้งสำคัญที่นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยมาร่วมชมความสวยงาม

ขณะเดียวกัน อีสานเป้นพื้นที่และดินแดนแห่งผี ซึ่งผี พาร์มและพุทธ นั้นเราจะแยกจากกันไม่ได้ และโดยรวมเราก็เรียกกันว่ามูเตลู ซึ่งมูเตลูนั้นพูดถึงความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งอยู่ทั้งในผี ซึ่งผีก็มีทั้งผีดีผีร้าย ซึ่งหากจะกล่าวถึงมูเตลูศาสนาพาร์มนั้นมาอันดับแรก ขณะที่ศาสนาพุทธของเรานั้นแก่นแท้ไม่มูเตลู แต่เมื่อนำมาผสมผสานกันแล้วโดยเฉพาะวัฒนธรรมพื้นบ้านและแต่ละท้องถิ่นก็จะกลายเป็นความเชื่อละความศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นปีนี้มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงได้หรือกันว่าเราจะยกความเป็นมูเตลู มาเป็นมูอิโคโนมี่

สำหรับงานปีนี้จะมีทั้งผี พราหมณ์ พุทธ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์แบบครบสูตร แต่ด้วยวิถีพุทธ ก็จะต้องเน้นความศรัทธาทางพระพุทธศาสนา โดยกิจกรมวันแรกจะเป็นพิธีเชิญพระอุปคุต ขบวนแห่พระบรมสารีริกธาตุ การตักบาตร ขณะที่เนินศักดิ์สิทธิ์ของ มข. ซึ่งเป็นสถานที่ที่จัดทำนกหัสดีลิงค์ถวายให้กับหลวงพ่อคูณ ตรงจุดดังกล่าวปีนี้ก็จะเป็นเนินพญานาค นาคี นาคา ที่จะเป็นการผสมผสานระหว่างพญานาคของจีน,เวียตนาม และ ลาว ที่จะมารวมตัวกันที่ขอนแก่น ซึ่งอยากให้นักท่องเที่ยวได้มาชมความสวยงามของงานศิลปะอีกแบบหนึ่งที่สำคัญ ขณะที่กิจกรรมวันที่ 14 พ.ย.จะเป็นการรวมผีเริงระบำ ที่แสดงถึงความเป็นมูเตลูของคนอีสานอย่างครบศาสตร์ ครั้งแรกของไทย เรียกได้ว่าทุกกิจกรรมทั้ง 3 ส่วนของงานสีฐานเฟสติวัล นั้นจะอบอวลด้วยมูเตลูทั้งหอศิลป์เที่ยงคืน และการแสดงมหรสพ ดังนั้นการจัดกิจกรรมทั้ง 3 วัน คือตั้งแต่วันที่ 13-15 พ.ย.จะไม่ใช่งานลอยกระทงทุกวัน

ทั้งนี้ รศ.ดร.นิยม กล่าวต่ออีกว่า กว่า 100 ไร่บนพื้นที่ของการจัดงาน เรียกได้ว่านักท่องเที่ยวนั้นมาได้ทุกวันไม่มีเบื่อ ไม่มีซ้ำแต่จะต้องมาร่วมงานให้ครบ และที่พลาดไม่ได้ คือการที่มีผลงานวิจัยของนักศึกษา มข. ที่ระบุว่าภาคอีสานของเรานั้นก็มีการแสดงโขน ดังนั้นงานสีฐานเฟสติวัลปีนี้จะเป็นปีแรก ที่มีการแสดงโขนอีสาน ปะทะ โขนสยาม จากผลงานของนักศึกษา มข. กว่า 200 ชีวิต ที่ได้ทำการวิจัยและพร้อมใจกันมาแสดงให้กับนักท่องเที่ยวได้ชม เรียกได้ว่าไฮไลท์ของการจัดงานตลอดทั้ง 3 วันปีนี้มีกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวสามารถมาร่วมชมงาน ในพื้นที่ต่างๆได้อย่างสนุกสนาน และอิ่มอร่อยด้วยอาหารนานาชาติในราคาที่ไม่แพงอีกด้วย

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 0

ยังไม่มีความเห็น