โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

มีเสียงในหู หลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ปกติรึเปล่า ?

Motherhood.co.th

เผยแพร่ 22 ก.ค. 2564 เวลา 08.03 น. • Motherhood.co.th Blog

มีเสียงในหู หลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ปกติรึเปล่า ?

การฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโควิด-19 ยังคงดำเนินต่อไปทั่วโลก เราพบว่าผู้ที่มีอาการ "มีเสียงในหู" เกิดความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของวัคซีนต่อสุขภาพของพวกเขา Motherhood จึงได้รวบรวมข้อมูลบางอย่างเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจว่าการฉีดวัคซีนนั้นเหมาะสมกับคุณหรือไม่

ลองจินตนาการดูว่าคุณได้ยินเสียงดังในหูข้างเดียว หูทั้งสองข้าง หรือแม้แต่ในหัวของคุณ อาจใช้เวลาเพียงแค่ 2-3 วินาที หรืออาจนานเป็นนาที คุณต้องการให้มันหยุด แต่มันไม่ได้หายไปง่าย ๆ เป็นเรื่องที่น่าโมโหมากที่มันรบกวนชีวิตคุณแทบจะทุกด้าน อาการที่เพิ่งอธิบายไปเรียกว่าการมีเสียงในหูหรือหูอื้อ และคุณเชื่อหรือไม่ว่ามีชาวอเมริกันมากกว่า 45 ล้านคน ที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนกับอาการนี้อยู่ทุกวัน

ในกลุ่มโสตศอนาสิกวิทยาและชุมชนทางการแพทย์ขนาดใหญ่ มีความสนใจอย่างมากมายเกี่ยวกับอัตราการสูญเสียการได้ยินอย่างกะทันหันที่เพิ่มขึ้น ซึ่งพบในผู้ป่วยบางรายหลังการฉีดวัคซีนโควิด

อย่างไรก็ตาม การสูญเสียการได้ยินกะทันหันสามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ ดังนั้น จึงไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าการสูญเสียการได้ยินอย่างกะทันหันที่เกิดขึ้นหลังการฉีดวัคซีนโควิดเป็นเรื่องบังเอิญหรืออาจเกี่ยวข้องกับวัคซีน

การสูญเสียการได้ยินทางประสาทสัมผัสอย่างกะทันหันมักเป็นภาวะที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอ นอกจากการสูญเสียการได้ยินแล้ว อาจส่งผลให้หูอื้อ มีเสียงในหู และเวียนศีรษะเป็นครั้งคราว แต่คำถามที่ไม่ได้รับคำตอบก็คือ ผู้ให้บริการควรแนะนำให้ฉีดวัคซีนครั้งที่สองหรือไม่ หากผู้ป่วยมีอาการเกี่ยวกับการได้ยินหลังจากฉีดวัคซีนครั้งแรก

นอกจากนี้ การรักษาภาวะสูญเสียการได้ยินทางประสาทสัมผัสอย่างกะทันหันมักจะสามารถทำการรักษาได้ในระยะสั้น โดยใช้ตัวยาสเตียรอยด์ทั้งแบบฉีดหรือแบบรับประทาน แต่ก็ยังไม่ทราบว่าการรักษาการสูญเสียการได้ยินทางประสาทสัมผัสอย่างกะทันหันด้วยสเตียรอยด์อาจลดประสิทธิภาพของการฉีดวัคซีนลงบ้างหรือไม่

ในระบบการรายงานผลแพ้ข้างเคียงวัคซีนของอเมริกา (VAERS) Formeister และเพื่อนร่วมทีมพบรายงาน 147 ฉบับเกี่ยวกับการสูญเสียการได้ยินกะทันหัน หูหนวก หูหนวกข้างเดียว ประสาทสัมผัสหูหนวก และภาวะขาดออกซิเจนที่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนโควิด ตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2020 ถึง 2 มีนาคม 2021

จากรายงานเหล่านี้ พบว่าผู้ป่วย 40 รายมีความเกี่ยวข้องกับอาการที่เกิดขึ้นชั่วคราว (การสูญเสียการได้ยินเกิดขึ้นภายใน 3 สัปดาห์หลังการฉีดวัคซีน) และมีความน่าเชื่อถือสูง เพราะรายงานโดยแพทย์ที่มีเอกสารการค้นพบทางโสตวิทยาหรือการรักษาด้วยสเตียรอยด์

อายุเฉลี่ยในกลุ่มที่มีแนวโน้มมากที่สุดคือ 56 และกรณีส่วนใหญ่ (63%) มักจะเป็นกับผู้หญิง มี 12 คนที่ได้รับวัคซีน Moderna และ 28 คนที่ได้รับ Pfizer พบการสูญเสียการได้ยินทางประสาทสัมผัสอย่างกะทันหัน อาการเกิดขึ้นโดยเฉลี่ย 4 วันหลังการฉีดวัคซีนโควิด ผู้ป่วย 30 รายจาก 40 ราย ได้รับการรักษาด้วยสเตียรอยด์

"จนถึงตอนนี้ ผลลัพธ์เหล่านี้ให้หลักฐานว่าการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไม่เกี่ยวข้องกับการสูญเสียการได้ยินอย่างกะทันหัน" Formeister กล่าว แรงผลักดันประการหนึ่งเบื้องหลังเอกสารฉบับนี้คือ การกระตุ้นให้แพทย์และผู้ป่วยรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ต่อระบบ ดังนั้น เราจึงอาจได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถคาดการณ์อัตราการสูญเสียการได้ยินกะทันหันหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้แม่นยำยิ่งขึ้น

ผู้ป่วยที่มีอาการสูญเสียการได้ยินหลังการฉีดวัคซีนควรติดต่อผู้ให้บริการทางการแพทย์ทันที Formeister กล่าวเสริม การสูญเสียการได้ยินทางประสาทสัมผัสอย่างกะทันหันสามารถรักษาได้

ระยะเวลาของรายงานฉบับนี้ไม่ได้รวมถึงวัคซีนอื่น นอกเหนือไปจากไฟเซอร์และโมเดอร์นา รายงานของ VAERS นั้นไม่ได้รับการยืนยันและอาจมีอคติจากการรายงานที่ต่ำกว่าความเป็นจริง และผู้คนอาจยังคงพบอาการข้างเคียงหลายอย่างหลังการฉีดวัคซีนโควิด-19

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...