ยุคนี้เป็นยุคของการแข่งไอเดีย
ใครไอเดียโดนใจตลาดกว่า
ก็เหมือนจะคว้าโอกาสทั้งหมดไปครองแต่ผู้เดียว
.
เวลาคนเราตั้งโจทย์
ก็มักทำกันตามตำรา
หรือหันมามองทางเลือกใหม่
ด้วยความคิดประมาณว่า
คู่แข่งมีจุดเด่นและจุดด้อยตรงไหน?
ทำอย่างไรฉันจะเอาจุดด้อยของเขามาใช้?
ทำอย่างไรฉันจะเด่นกว่าด้วยข้อแตกต่างที่โดนใจ?
.
คิด ค้น เค้น คั้นสมอง
ถึงจุดหนึ่งจะรู้ว่า โจทย์ยากที่สุด
ไม่ใช่ ‘ทำอย่างไรจะเอาชนะคู่แข่งที่เก่งกว่า?’
แต่เป็น ‘ทำอย่างไรจะผ่าทางตันในหัวของตัวเอง?’
.
วิธีแบบพุทธง่าย ๆ
คือ เลิกคิดแข่งขัน
แล้วหันมาคิดให้ทาน
.
การให้ทาน
เป็นอะไรได้มากกว่า
การปล่อยนกปล่อยปลาจากตลาด
การให้เศษเงินขอทานบนฟุตบาท
และการใส่บาตรพระหน้าบ้าน
.
การให้ทาน
อาจหมายถึง
การออกแรงช่วยคนจักรยานล้มบนถนน
การสอนลูกทำการบ้าน
หรือกระทั่งการคิดช่วยให้ลูกค้ามีชีวิตที่เป็นสุขขึ้น
.
คุณอาจนึกในใจว่า
ฉันก็คิดของฉันอยู่แล้ว
ฉันทำสินค้าและบริการ
ก็เพื่อช่วยให้ชีวิตของบรรดาลูกค้าดีขึ้น
ช่วยให้เหล่าพนักงานมีเงินเดือน
ช่วยให้บ้านเมืองมีรายได้จากภาษีของฉัน
.
แต่ช้าก่อน
ที่นึกว่า ‘คิดอยู่แล้ว’ นั้น
สำรวจดูดี ๆ ว่าอันไหนเด่นกว่ากัน
ระหว่าง เค้นคั้นไอเดียให้เหนือกว่าคู่แข่ง
กับค้นคิดไอเดียให้เกิดประโยชน์สุขกับลูกค้า
.
ใช้มาตรวัดทางจิตมาสำรวจง่าย ๆ
หากจิตคิดให้ทานจริง
ต้องเกิด ‘ทานจิต’ ขึ้นมา
จิตลักษณะนั้นจะมีความเปิดเผย
กว้างขวางขึ้น ชุ่มชื่นใจขึ้น โลกภายในสว่างขึ้น
ลักษณะความคิดมีความซื่อตรง จริงใจ
ไม่วกวน ไม่ลังเลสับสน และไม่สนเป้าเป็นตัวเลข
อย่างน้อยก็ไม่เอาผลประโยชน์ส่วนตัว
มาเป็นน้ำหนักวัดกันกับผลประโยชน์ของลูกค้า
ถ้าให้เปล่าได้ ก็ยินดีให้เลยด้วยซ้ำ
.
ประเด็นคือ เมื่อเกินทานจิต
สภาพจิตจะแตกต่าง
และการทำงานของสมองจะเปลี่ยนโหมด
ความเกร็งเนื้อเกร็งตัวคล้ายคนเตรียมวิ่งแข่งจะหายไป
ความสบายเนื้อสบายตัวคล้ายคนเตรียมทำบุญจะมาแทนที่
.
ผลบุญทันตาของทานจิต
คือ ประกายไอเดียบรรเจิด
ความรู้สึกเหมือนทางตันถูกทำลาย
กลายเป็นทางโล่งให้หัวแล่น
หลายคนเกิดไอเดียพันล้าน
ก็จากทางโล่งที่ปรากฏอย่างชัดใสเช่นนี้
.
หากเกิดประสบการณ์ทางกายและทางจิตชนิดนั้น
ให้บอกตัวเองว่า นั่นแหละ! กุศลธรรม
อันเป็นทางมาของไอเดียที่บรรเจิด สบายใจ ไร้กังวล
บางทีมันพลิกเป็นตรงข้าม
กับที่คิดไว้ก่อนหน้าได้แบบหน้ามือเป็นหลังมือ
หรืออย่างน้อยก็เอาไปผสมผสานกันกับที่คิดไว้
แบบเจอครึ่งทางเพื่อให้เอาไปใช้ได้จริง
.
ตัวอย่างง่าย ๆ ก็เช่น
แทนการคิดตัดราคาคู่แข่ง
คุณคิดเพิ่มส่วนผสม
ที่ตัวเองอยากได้ให้ตัวเองและคนในบ้าน
กระทั่งรู้สึกว่าลูกค้าเป็นผู้รับประโยชน์
กลายเป็นคนในบ้านของคุณเอง
โดยมีราคาเท่ากับที่คู่แข่งไม่ได้ใส่
เท่านี้ ก็รู้สึกดี มีการให้ทาน
เกิดทานจิตขึ้นมาแล้ว
.
เมื่อเกิดทานจิตขึ้นผ่าทางตันได้แค่ครั้งเดียว
คุณจะยิ้มออก และสามารถจดจำไว้
นำไปใช้ได้อีก และอีก ไปจนชั่วชีวิต!
.
ความเห็น 7
DEZA
ผมเชื่อครับ มันจะสบายๆ เพราะเมื่อผมเสนอโครงการเพื่อทุกคน แม้ผมจะไม่ได้เตรียมตัวมาดี แต่เราก็มักจะนึกเหตุผลดี ๆ ในการตอบข้อสงสัย ได้ทันที
24 พ.ย. 2562 เวลา 17.07 น.
การพิจารณาอย่างรอบครอบ ย่อมที่จะทำให้รู้ถึงในผลที่จะเกิดขึ้นตามมาได้เสมอ.
24 พ.ย. 2562 เวลา 10.25 น.
Yong
คำว่าหัวแล่นหมายถึงการมีปัญญาไวปัญญาเเล่นซึ่งเกิดจากจิตใจที่เป็นสมาธิจิตตั้งมั่นดีแล้วเป็นจิตที่สว่างสงบปราศจากกิเลสที่เป็นข้าศึกของความสงบได้แก่ความฟุ้งซ่านรำคาญใจหรือความง่วงความโกรธความไม่สบายใจความสงสัยเป็นต้นจะปิดกั้นปัญญาและจะคิดอะไรดีๆไม่ออก
26 พ.ย. 2562 เวลา 04.51 น.
Rainny L.(อิมกึมบี)🌦
คำเดียวสั้นๆ "ธรรมาภิบาล "
25 พ.ย. 2562 เวลา 04.32 น.
So
กินอาหารพอเพียง และพักผ่อนเพียงพอ
26 พ.ย. 2562 เวลา 19.09 น.
ดูทั้งหมด