โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

เอไอเอ ดันแอปฯ AIA+ ดูแลสุขภาพครบ จบในที่เดียว

การเงินธนาคาร

อัพเดต 22 พ.ย. 2567 เวลา 14.49 น. • เผยแพร่ 22 พ.ย. 2567 เวลา 07.49 น.

ปี 2565 เอไอเอ ประเทศไทย เปิดตัวซูเปอร์แอป “AIA+” (เอไอเอ พลัส) แอปพลิเคชั่นที่ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงบริการและสิทธิประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดการกรมธรรม์และการดูแลสุขภาพที่สะดวกขึ้นภายในแอปฯ เดียว

นายจุฑาภัทร เหล่าธรรมทัศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนา ดิจิทัล โซลูชันส์ แอนด์ ดีไซน์ กล่าวว่า เอไอเอ ประเทศไทย ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คนในสังคมไทยเป็นระยะเวลากว่า 86 ปี โดยมีคำมั่นสัญญาสำคัญคือ Healthier, Longer, Better Lives สะท้อนความมุ่งมั่นที่ต้องการให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น โดยปัจจุบันมีผู้ถือกรมธรรม์ เอไอเอ กว่า 8 ล้านกรมธรรม์ในประเทศไทย

[caption id="attachment_141944" align="aligncenter" width="1024"]

AIA+

นายจุฑาภัทร เหล่าธรรมทัศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนา ดิจิทัล โซลูชันส์ แอนด์ ดีไซน์ เอไอเอ ประเทศไทย[/caption]

ในปี 2565 เอไอเอ ประเทศไทย ได้เปิดตัวแอปพลิเคชั่นเอไอเอพลัส โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลครบวงจรสำหรับผู้ถือกรมธรรม์ ครอบคลุมทั้งการจัดการกรมธรรม์ การดูแลสุขภาพ และการแลกรับสิทธิประโยชน์ไว้ในแอปฯเดียว โดยมีโจทย์สำคัญคือ “จะต้องดูแลรักษาข้อมูลลูกค้าให้ปลอดภัย และตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ผ่านการนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาสร้างประสบการณ์ที่ลื่นไหลและตรงใจมากที่สุด”

“เอไอเอพลัส ไม่ใช่แค่แอปที่ลูกค้าไว้ใช้จัดการกรมธรรม์อย่างเดียว แต่เป็นแพลตฟอร์มที่ครอบคลุมทุกมิติด้านสุขภาพ ตั้งแต่ธุรกรรมประกัน การดูแลสุขภาพ ไปจนถึงการให้บริการที่ปรับให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละคน เพื่อมอบความสะดวกในการดูแลสุขภาพให้ลูกค้าในทุกช่วงจังหวะชีวิต”

นายจุฑาภัทร อธิบายต่อว่า เอไอเอได้นำเทคโนโลยี AI และการวิเคราะห์เชิงลึกมาใช้พัฒนาฟีเจอร์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าและสอดรับกับเทรนด์ยุคใหม่ เช่น การให้คำปรึกษาทางการแพทย์ผ่านระบบออนไลน์ ที่ตอบโจทย์ลูกค้าที่มีเวลาจำกัด

เอไอเอพลัส ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์สแกนใบหน้าที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถวัดและติดตามดัชนีมวลกาย (BMI) ความดันโลหิต ชีพจร และระดับความเครียดได้ง่าย ๆ โดยทุกบริการถูกพัฒนาขึ้นจากการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) มีโจทย์หลักคือทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

ด้านมาตรการด้านความปลอดภัยแอปฯ เอไอเอพลัสให้ความสำคัญสูงสุดกับระบบความปลอดภัยด้านข้อมูล เช่น การเข้ารหัสข้อมูล การจัดตั้งทีมด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security Incident Response Team) เพื่อพยายามกำจัดทุกช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ในทุกขั้นตอนการพัฒนาซอฟต์แวร์ พร้อมกับการยืนยันตัวตนหลายขั้นตอน (Multi-Factor Authentication) และการยืนยันตัวตนด้วยข้อมูลทางชีวภาพเพื่อยกระดับความปลอดภัยในการเข้าสู่ระบบขึ้นไปอีกขั้น

“เราตระหนักดีว่าลูกค้าได้มอบความไว้วางใจให้เราเก็บรักษาข้อมูลละเอียดอ่อน โดยเฉพาะข้อมูลด้านสุขภาพ เราจึงให้ความสำคัญกับเรื่องข้อมูลลูกค้าในระดับสูงสุด”

นายจุฑาภัทร กล่าวต่อว่า เอไอเอ ประเทศไทย ได้นำเทคโนโลยียุคดิจิทัลเข้ามาใช้ในธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกสบายแล้ว อีกมิติที่สำคัญคือ การลดการใช้ทรัพยากรในทุกกระบวนการดำเนินงานของบริษัท โดย เอไอเอ ตระหนักถึงปัญหาภาวะโลกเดือด (Global Boiling) ที่ส่งผลกระทบต่อทุกชีวิตบนโลก ทั้งยังตระหนักถึงปริมาณเอกสารจำนวนมหาศาลที่ธุรกิจประกันต้องพิมพ์เพื่อส่งมอบให้ลูกค้าในทุก ๆ ปี

“เอไอเอ ได้ประกาศแคมเปญครั้งใหญ่ AIA+ Go Green ซึ่งช่วยขับเคลื่อนแนวปฏิบัติ ESG ของ เอไอเอ พร้อมชวนลูกค้าให้เปลี่ยนมาใช้ e-Document และ e-Receipt ผ่านแอปพลิเคชั่นเอไอเอพลัส โดยแคมเปญนี้จะช่วยลดการใช้กระดาษได้เป็นจำนวนมาก และยังสร้างพลังการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเชิญชวนให้ลูกค้ามีส่วนร่วมได้เป็นอย่างดี”

และเพื่อขยายความสำเร็จของโครงการ ทีมผู้บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย พร้อมด้วยพนักงานอาสาสมัคร จะร่วมกันปลูกต้นไม้ 10,000 ต้น ในช่วงต้นปี 2568

“เราพัฒนาแอปฯ เอไอเอพลัส ขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และเทรนด์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่เสมอ ดังนั้น ในอนาคต เราพร้อมที่จะเติบโตและเสริมแกร่งอีโคซิสเต็มนี้ให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น โดยคำนึงถึงความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมในทุกมิติของการพัฒนา เรามุ่งหวังที่จะเป็นซูเปอร์แอปที่ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพอย่างครอบคลุมและร่วมยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่คนไทยและสังคมต่อไป” นายจุฑาภัทร กล่าว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องกับ แวดวงเทคโนโลยี ทั่วโลก ได้ที่นี่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...