โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

เตือนแล้วนะ!! เปิด 4ผลไม้ กินประจำ อันตรายต่อตับไม่ต่างจากเหล้า

News In Thailand

เผยแพร่ 11 พ.ค. เวลา 10.41 น. • ทีมข่าวสยามนิวส์
เตือนแล้วนะ!! เปิด 4ผลไม้ กินประจำ อันตรายต่อตับไม่ต่างจากเหล้า

ผลไม้ที่เราคุ้นเคยและคิดว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพนั้น อาจเป็นภัยเงียบทำร้ายตับของเราได้ไม่ต่างจากการดื่มแอลกอฮอล์!

1. มะม่วงสุก

มะม่วงสุกเป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวานอร่อย เป็นที่ชื่นชอบของหลายๆ คน แต่รู้หรือไม่ว่ามะม่วงสุกมีปริมาณน้ำตาลฟรุกโตสสูงมาก การรับประทานมะม่วงสุกในปริมาณมากและบ่อยครั้ง อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ตับทำงานหนักและเกิดการสะสมของไขมันได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับตับหรือผู้ที่ต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ควรจำกัดปริมาณการรับประทาน

2. ลำไย

ลำไยเป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวานจัด มีน้ำตาลสูง การรับประทานลำไยในปริมาณมากเกินไปจะทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลฟรุกโตสในปริมาณที่สูงเกินความจำเป็น ส่งผลให้ตับต้องทำงานหนักในการเปลี่ยนน้ำตาลเป็นไขมัน และอาจนำไปสู่ภาวะไขมันพอกตับได้ นอกจากนี้ ลำไยยังมีฤทธิ์ร้อน ซึ่งอาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะร่างกายร้อนใน หรือมีอาการอักเสบต่างๆ

3. ทุเรียน

ราชาแห่งผลไม้ที่หลายคนหลงใหลในรสชาติ แต่ทุเรียนก็เป็นผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลและไขมันสูง การรับประทานทุเรียนในปริมาณมากเกินไปจะเพิ่มภาระให้กับตับในการเผาผลาญทั้งน้ำตาลและไขมัน ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพตับในระยะยาว โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับตับ โรคเบาหวาน หรือมีระดับไขมันในเลือดสูง ควรระมัดระวังในการรับประทานทุเรียนเป็นพิเศษ

4. อินทผาลัม (ชนิดหวาน)

อินทผาลัมเป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวานตามธรรมชาติและมีคุณค่าทางอาหารสูง แต่สำหรับอินทผาลัมบางชนิดที่มีความหวานมากเป็นพิเศษ นั่นหมายถึงปริมาณน้ำตาลฟรุกโตสที่สูงตามไปด้วย การรับประทานอินทผาลัมชนิดหวานในปริมาณมากและบ่อยครั้ง อาจส่งผลกระทบต่อตับได้เช่นเดียวกับผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงชนิดอื่นๆ ควรเลือกรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมและหลากหลายชนิดเพื่อสุขภาพที่ดี

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...