โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

ดอลลาร์ผันผวน จับตาร่าง กม. ปรับลดอัตราภาษีบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลสหรัฐ

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 22 พ.ค. เวลา 11.08 น. • เผยแพร่ 22 พ.ค. เวลา 11.07 น.

ดอลลาร์ผันผวน นักลงทุนจับตาร่างกฎหมายปรับลดอัตราภาษีบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลของสหรัฐ

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพรายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ (22/5) ที่ระดับ 32.69/70 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (21/5) ที่ระดับ 32.79/81 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าเทียบเงินสกุลหลัก หลัง Dollar Index ปรับตัวลดลงที่ระดับ 99.59

โดยนักลงทุนจับตาร่างกฎหมายปรับลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลของสหรัฐ ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่ประธานาธิบดีทรัมป์พยายามผลักดันให้ผ่านสภาคองเกรส แต่นักวิเคราะห์เตือนว่า การปรับลดอัตราภาษีครั้งใหม่จะทำให้รัฐบาลสหรัฐมีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้นอีก 3-5 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์ ร่างกฎหมายดังกล่าวถูกจับตาอย่างใกล้ชิด หลังจากสมาชิกพรรครีพับลิกันหลายกลุ่มแสดงความไม่พอใจต่อร่างกฎหมายฉบับนี้

โดยเรียกร้องให้มีการเพิ่มเพดานการหักภาษีของมลรัฐและท้องถิ่น (SALT) สู่ระดับ 40,000 ดอลลาร์ สำหรับครอบครัวที่มีรายได้ต่ำกว่า 50,000 ดอลลาร์ต่อปี เพื่อเป็นการเอาใจฐานเสียงพรรครีพับลิกันในรัฐที่มีภาษีสูง ก่อนหน้านี้ ในปี 2560 ภายใต้กฎหมายปฏิรูปภาษีของ ประธานาธิบดีทรัมป์ขณะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก

กฎหมายดังกล่าวได้จำกัดการหักภาษี SALT ไว้ไม่เกิน 10,000 ดอลลาร์ต่อปี ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนในรัฐที่มีภาษีสูง เช่น แคลิฟอร์เนีย นิวยอร์ก และนิวเจอร์ซีย์ เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถหักภาษีท้องถิ่นได้เต็มจำนวนอีกต่อไป นอกจากนี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ได้มีการพบปะเจรจากับประธานาธิบดีไซริล รามาโฟซา ของแอฟริกาใต้ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (21/5)

โดยทรัมป์กล่าวอ้างว่ามีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนผิวขาวในแอฟริกาใต้ ซึ่งรามาโฟซาก็ได้ปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อคำกล่าวอ้างนี้ สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่าเกือบทุกข้อกล่าวหาที่ทรัมป์หยิบยกขึ้นมาในการประชุมกับรามาโฟซานั้น ล้วนเป็นข้อมูลที่ถูกพิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นความจริง บางส่วนยังเป็นข้อมูลที่ประชาชนชาวแอฟริกาใต้เชื่อว่าเป็นโฆษณาชวนเชื่อจากกลุ่มแอฟริฟอรัม (AfriForum) ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าเป็นกลุ่มชาตินิยมผิวขาว

การปะทะคารมครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศตึงเครียด นับตั้งแต่รามาโฟซาลงนามในพระราชบัญญัติการเวนคืนที่ดินเมื่อเดือน ม.ค. ซึ่งทรัมป์วิจารณ์ว่ากฎหมายปฏิรูปที่ดินเป็นการเลือกปฏิบัติต่อประชากรผิวขาวของประเทศ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 32.54-32.87 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 32.82/86 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวเปิดตลาดเช้านี้ (22/5) ที่ระดับ 1.1337/39 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ทรงตัวจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (21/5) ที่ระดับ 1.1333/34 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร โดยวันนี้ (22/5) S&P Global เปิดเผยตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI) ของยูโรโซนฉบับเบื้องต้นลดลงมาอยู่ที่ 49.5 ในเดือนนี้ ลดลงจาก 50.4 ในเดือน เม.ย.

และ PMI ภาคบริการลดลงมาอยู่ที่ 48.9 จาก 50.1 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2024 และต่ำกว่าการคาดการณ์ที่ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 50.3 อย่างมีนัยสำคัญ จากตัวเลขที่ออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์แสดงให้เห็นถึงความกังวลของผู้ผลิตและผู้ให้บริการต่อเศรษฐกิจของยูโรโซน ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1288-1.1344 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1295/96 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

ค่าเงินเยนเคลื่อนไหวเปิดตลาดเช้านี้ (22/5) ที่ระดับ 143.42/43 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (21/5) ที่ระดับ 144.00/01 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยวันนี้ (22/5) ว่ายอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานเดือน มี.ค.ของญี่ปุ่น พุ่งขึ้นถึง 13.0% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า

ซึ่งสวนทางอย่างชัดเจนกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะลดลง 1.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐาน ซึ่งมีความผันผวนสูงและถือเป็นตัวบ่งชี้การใช้จ่ายในการลงทุนในอีก 6-9 เดือนข้างหน้าขยายตัวถึง 8.4% ซึ่งก็สวนทางกับที่ผลสำรวจคาดว่าจะหดตัว 2.2% เช่นกัน

นอกจากนี้กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการญี่ปุ่นเปิดเผยข้อูลในวันนี้ (22/5) ว่า ค่าจ้างที่แท้จริงเฉลี่ยต่อเดือนหลังหักผลกระทบเงินเฟ้อ ลดลง 0.5% ในปีงบประมาณ 2567 สิ้นสุดเดือน มี.ค. 2568 นับเป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ซึ่งตอกย้ำว่าแม้เงินเดือนปรับขึ้น แต่ก็ยังไล่ไม่ทันอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นไม่หยุด การหดตัว 0.5% ของค่าจ้างที่แท้จริงในปีงบประมาณ 2567 ถือว่าน้อยกว่าการติดลบ 2.2% ในปีงบประมาณ 2566 ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปีงบประมาณ 2557

โดยการหดตัวที่น้อยลงนี้เป็นผลมาจากการปรับขึ้นของค่าจ้างในรูปตัวเงินที่สูงขึ้นในปีที่ผ่านมา แม้รัฐบาลพยายามผลักดันให้การเติบโตของค่าจ้างสูงกว่าเงินเฟ้ออย่างยั่งยืน แต่ค่าจ้างที่แท้จริงในกลุ่มธุรกิจที่มีลูกจ้าง 5 คนขึ้นไป กลับขยับขึ้นเมื่อเทียบรายปีเฉพาะในช่วงเดือนที่มีการจ่ายโบนัสเป็นปกติเท่านั้น คือ มิ.ย., ก.ค., พ.ย. และ ธ.ค. ทั้งนี้ ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 142.78-144.40 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 143.42/43 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ ในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐ (22/5), ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือน พ.ค. จาก S&P Global สหรัฐ (22/5), ยอดขายบ้านมือสองเดือน เม.ย. สหรัฐ (22/5), อัตราเงินเฟ้อเดือน เม.ย. ญี่ปุ่น (23/5), ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2568 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) เยอรมนี (23/5), ยอดขายบ้านใหม่เดือน เม.ย. สหรัฐ (23/5)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -7.8/-7.6 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -9.4/-8.4 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ดอลลาร์ผันผวน จับตาร่าง กม. ปรับลดอัตราภาษีบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลสหรัฐ

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...