“อ.สุขุม” วิเคราะห์ “ทักษิณ” ยึดมท. อิ๊งค์ไปต่อ ปรับครม.
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาประกาศชัด รัฐบาลจะไม่ยุบสภา เกิดการวิเคราะห์กันไปว่า จะมีการเปลี่ยนตัวนายกฯเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ล่าสุดนายกรัฐมนตรี "น.ส.แพทองธาร ชินวัตร" ก็ได้ออกมาตอบคำถามสื่อ โดยให้การปฏิเสธ พร้อมอ้อน "อย่าเพิ่งเบื่อกันสิคะ"
เมื่อ"ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาประกาศชัดรัฐบาลจะไม่ยุบสภา จะอยู่ครบเทอม และไม่ต้องเปลี่ยนตัวนายกฯ ซึ่งประเด็นดังกล่าว ก็ทำให้มีการวิเคราะห์และตีความกันไปว่า จะมีการเปลี่ยนตัวนายกฯเกิดขึ้นจริงหรือไม่จนล่าสุดนายกรัฐมนตรี "น.ส.แพทองธาร ชินวัตร" ก็ได้ออกมาตอบคำถามสื่อมวลชน โดยปฏิเสธกระแสข่าวเปลี่ยนตัวนายกฯ พร้อมอ้อน "อย่าเพิ่งเบื่อกันสิคะ"
ทั้งนี้ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.คุยกับ "รองศาสตราจารย์ สุขุม นวลสกุล" อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ถึงกระแสข่าวการเปลี่ยนตัวนายกฯ โดย"อ.สุขุม" กล่าวว่า โอกาสน้อยมาก แต่ถ้าจะเปลี่ยนสู้เอาเลือกตั้งใหม่จะดีกว่า พร้อมมองว่า วันนี้คนไม่ได้เบื่อนายกฯ เพียงแต่ไม่ศรัทธา เพราะไม่มีภาวะผู้นำและยืนยันว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลยังไม่สามารถดึงดูดความศรัทธาของผู้คนได้เท่าที่ควร
"ไม่ใช่เบื่อ เขาไม่ศรัทธา ก็คงไม่ได้เบื่ออะไรหลอก แกก็น่าดูออก แฟชั่นแก แต่ว่าไม่ศรัทธา คือ ไม่มีภาวะผู้นำเท่าที่คาดหมายว่าจะทำขึ้นมาให้ได้"
ส่วนการส่งสัญญาณชัดเจนจากอดีตนายกฯทักษิณ ว่า จะยึดกระทรวงมหาดไทยซึ่งปัจจุบัน มี อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ดำรงตำแหน่ง มท.1 อยู่ในขณะนี้ให้กลับมาอยู่ในความดูแลของพรรคเพื่อไทย เนื่องจากมองว่า การนำนโยบายไปถึงประชาชน ของกระทรวงมหาดไทยนั้น ยังไม่ดีพอ ซึ่งประเด็นนี้ "อ.สุขุม" กล่าวว่า ไม่ง่าย ที่พรรคเพื่อไทยจะยึดกระทรวงมหาดไทยกลับคืนมา และมองว่า ณ วันนี้ ทั้ง 2 พรรค คือ เพื่อไทยและ ภูมิใจไทย ก็พร้อมที่จะแตกหักกันอยู่แล้ว
"ไม่ง่าย แต่เขาพยายามเอาให้ได้ เพราะเชื่อแน่ว่า ไปกันไม่ได้ แต่เขาก็พยายามเอา แต่เท่าที่ทราบ ทักษิณ ไม่อยากให้มีเลือกตั้ง เพราะฉะนั้น น่าจะเอา แต่ว่าแลก"
สำหรับสาเหตุที่พรรคเพื่อไทยต้องการได้กระทรวงมหาดไทยกลับมาดูแลนั้น "อ.สุขุม" กล่าวอีกว่าก็เพราะต้องการที่จะเตรียมรับกับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต "เป็นความเชื่อดั่งเดิมของพวกพรรคการเมือง ว่าใครได้มหาดไทยย่อมได้เปรียบในการเลือกตั้ง เพราะมหาดไทยแม้จะเป็นหน่วยงานปกครอง แต่ว่าก็รับหน้าที่ เป็นกรรมการเลือกตั้งทั่วประเทศ รวมทั้งมีออิทธิพลต่อชาวบ้าน ไม่ได้มีอิทธิพล คือหมายความว่า สามารถชักนำชาวบ้านได้"
ขณะที่ ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า การตอบโต้กันไปมาระหว่างพรรคแกนนำรัฐบาลสองพรรคคือพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย ทำให้รัฐบาลไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำทั้งนี้สถานการณ์ในกรณีที่เลวร้ายสุดสำหรับการเมืองไทยในขณะนี้ คือ การประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎรเพราะอาจต้องรอไปอีกหกเดือนกว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ถึงกระนั้นก็ตาม เชื่อว่า รัฐบาลรักษาการจะไม่สามารถทำงานได้อย่างราบรื่น เพราะความขัดแย้งระหว่างสองพรรคการเมืองน่าจะยืดเยื้อ จึงมองว่ากรณีดังกล่าว อาจทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยดิ่งลงมาอยู่ที่ระดับประมาณ 1,100 จุด
ส่วนกรณีเลวร้ายที่สุดอันดับสอง ตามความเห็นของฝ่ายวิเคราะห์ฯคือ การที่พรรคภูมิใจไทยออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งจะทำให้ต้องมีการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่และเนื่องจากเชื่อว่า พรรคภูมิใจไทยกุมเสียงของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ส่วนใหญ่ มองว่าการออกกฎหมายสำคัญของรัฐสภาอาจมีอุปสรรคท่ามกลางบรรยากาศการเมืองในปัจจุบันจึงมองว่า แม้นายกรัฐมนตรีจะสามารถยุบสภา แต่เชื่อว่านักการเมืองไม่อยากเลือกตั้งใหม่เนื่องจากรัฐบาลชุดนี้ยังเหลือวาระอีก 2 ปี ดังนั้นเศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบหากพรรคการเมืองทั้งสองพรรคยังไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งได้ในเร็ว ๆ นี้
จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาสมการทางการเมือง ภายใต้การแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลนายกรัฐมนตรี "แพทองธาร ชินวัตร" อย่างใกล้ชิด เพราะทุกการขยับทุกการขับเคลื่อนย่อมส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews