โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

Seoul Vibe: ซิ่งทะลุโซล (Seoul Vibe) ความฮิปเต็มพิกัดจากเกาหลียุค 80 บุก Netflix!

TOJO NEWS

อัพเดต 23 ส.ค. 2565 เวลา 23.09 น. • เผยแพร่ 23 ส.ค. 2565 เวลา 16.09 น. • Admin TOJO_YS

อุ่นเครื่องรอดริฟต์ทะลุจอกับแก๊งนักซิ่งสุดเท่จาก
Seoul Vibe: ซิ่งทะลุโซล (Seoul Vibe) ทั่วโลก 26 สิงหาคมนี้
“ซังกเยดงซูพรีมทีม” นำขบวนความฮิปเต็มพิกัดจากเกาหลียุค 80 บุก Netflix!

ภาพยนตร์จาก Netflix เรื่อง Seoul Vibe: ซิ่งทะลุโซล (Seoul Vibe) พร้อมแล้วที่จะพาเราย้อนไปสู่เกาหลีใต้ในช่วงเวลาที่ผู้คนกำลังวิ่งไล่ตาม American Dream ในรูปแบบของเกาหลีเอง โดยมี “ซังกเยดงซูพรีมทีม” แก๊งนักซิ่งวัยรุ่นสุดฮิปแห่งยุคสมัย มาเป็นตัวหลักในการเดินเรื่อง หลังจากพวกเขาได้รับข้อเสนอที่ไม่อาจปฏิเสธได้จากอัยการอัน และจับพลัดจับผลูเข้าไปพัวพันกับคดีเงินทุนสกปรกของกลุ่มคนระดับวีไอพี

Seoul Vibe: ซิ่งทะลุโซล (Seoul Vibe) เป็นมากกว่าภาพยนตร์ที่โดดเด่นด้วยงานภาพ เพราะยังใส่ลูกเล่นเป็นเสียงเพลงที่ติดหูและฉากซิ่งรถสุดเร้าใจ ดังที่ผู้กำกับมุนฮยอนซองกล่าวว่า “ภาพยนตร์เรื่องนี้เหมือนกับบิบิมบับ” ที่ผสมผสานหลากหลายองค์ประกอบไว้สำหรับทุกคน รับรองว่าเราจะได้โยกตามเสียงเพลงในมิกซ์เทปและพุ่งทะยานไปบนถนนพร้อมๆ กับแก๊งซังกเยดงซูพรีมทีมตั้งแต่ต้นจนจบ ก่อนที่จะได้รับชม Seoul Vibe: ซิ่งทะลุโซล (Seoul Vibe) พร้อมกันทั่วโลก 26 สิงหาคมนี้ ลองไปดู “เพลงประกอบ” ที่เราเลือกมาบอกเล่าเหตุผลที่ไม่ควรพลาดชมภาพยนตร์เรื่องนี้กันได้เลย

# Track 1: ปี 1988 ช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดของเกาหลีใต้ในยุคสมัยใหม่

Seoul Vibe (L to R) Ko Kyung-Pyo as John Woo, Lee Kyoo-hyung as Moon Bok-nam, Park Ju-hyun as Park Yoon-hee, Ong Seong-wu as Park Joon-gi, Yoo Ah-in as Park Dong-wook in Seoul Vibe Cr. Song Kyungsub/Netflix © 2022

กรุงโซลในปี 1988 เป็นยุคสมัยแห่งเสรีภาพและการแสดงออก นอกจากกำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกแล้ว เกาหลีใต้ยังอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวของการสิ้นสุดรัฐบาลทหาร และการเริ่มเบ่งบานของดนตรีและแฟชั่น ภาพยนตร์เรื่อง Seoul Vibe: ซิ่งทะลุโซล (Seoul Vibe) เริ่มต้นขึ้นจากผู้กำกับมุนฮยอนซองที่จินตนาการถึงอาชญากรรมครั้งใหญ่อันน่าเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นในวันเดียวกับพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ในขณะที่ทุกคนต่างวุ่นวายกับหน้าที่ของตนเอง ผู้กำกับมุนฮยอนซองเลือกใช้เพลงฮิปฮอป โดยที่ไม่ได้เป็นแค่ดนตรีประกอบภาพยนตร์เท่านั้น แต่ฮิปฮอปยังเป็น “วัฒนธรรมย่อย” ที่ได้รับความนิยมในยุคนั้น และเป็นภาพแทนแห่งยุคสมัยได้อีกด้วย

ตัวละครหลักทั้งห้า ซึ่งโดดเด่นด้วยบุคลิกที่แตกต่างและเป็นตัวของตัวเอง จะแสดงให้เห็นทั้งภาพของรถยนต์ที่เคยครองถนนในปี 1988 ดนตรีฮิปฮอปสุดมัน และแฟชั่นเรโทรที่ยังคงดูเท่แม้มองจากสายตาของคนในปัจจุบัน ตัวละครเหล่านี้ปักหลักอยู่ในถนนซังกเยดง ย่านที่ตกสำรวจไปจากแผนพัฒนาเมืองในช่วงก่อนการแข่งขันโอลิมปิก พวกเขาใฝ่ฝันถึงสหรัฐอเมริกา ดินแดนแห่งวัฒนธรรมที่โอบรับเสรีภาพ ความสามารถ และจิตวิญญาณอันเปี่ยมชีวิตชีวา เราจะได้เห็นทีมเวิร์กที่สมบูรณ์แบบของชาวแก๊ง ซึ่งมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ของตนเองและรวมทีมกันจัดการกับภารกิจที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน

# Track 2: เปิดโลก “ฮิปโทร” สีสันแห่งรถยนต์-แฟชั่น-ดนตรี

Seoul Vibe Song Min ho (MINO) as Galchi in Seoul Vibe Cr. Song Kyungsub/Netflix © 2022

จุดเริ่มต้นของภาพยนตร์เรื่องนี้คือเพลงฮิปฮอป ดังที่ผู้กำกับมุนฮยอนซองกล่าวว่า “หัวใจของ Seoul Vibe: ซิ่งทะลุโซล (Seoul Vibe) ก็คือเสียงเพลง” เขาเผยว่าการได้ศิลปิน ซงมินโฮ (MINO) มาร่วมแสดงในภาพยนตร์ ยิ่งทำให้ความหมายตรงนี้สมบูรณ์แบบขึ้น และเพลงประกอบที่ซงมินโฮทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยิ่งสร้างความตื่นเต้นขึ้นไปอีกขั้นหลังได้แง้มให้ได้ฟังกันใน ตัวอย่างอย่างเป็นทางการ

แม้ทีมผู้สร้างจะเลือกใช้องค์ประกอบย้อนยุคธรรมดาทั่วไป แต่ Seoul Vibe: ซิ่งทะลุโซล (Seoul Vibe) ก็มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างอย่างชัดเจนจากภาพยนตร์เรื่องอื่นที่มีฉากหลังเป็นยุค 80 ด้วยตัวละครในสไตล์ที่เรียกว่า “ฮิปโทร” (ฮิปฮอป-เรโทร) กับเครื่องแต่งกายสีสันจัดจ้านในโทนสี RGB ที่ขับเน้นบุคลิกเฉพาะตัวของชาวแก๊งแต่ละคนได้เป็นอย่างดี และยังทำให้เราได้เห็นแฟชั่นของศิลปินฮิปฮอประดับโลกในยุคนั้น รวมถึงสไตล์อื่นๆ ที่เคยฮิตติดกระแสในเกาหลียุค 80 อีกด้วย

เนื่องจากภารกิจของแก๊งซังกเยดงซูพรีมทีมต้องมีเอี่ยวกับการแข่งรถในหลายฉากตอน ยูอาอินซึ่งรับบทเป็น ดงอุค นักดริฟต์รถมือหนึ่ง ต้องไปฝึกทักษะการขับรถเป็นพิเศษ และต้องเรียนรู้ท่วงท่าที่จะเกิดขึ้นจากการแข่งรถ เพื่อให้เขาถ่ายทอดฉากแอคชั่นในภาพยนตร์ออกมาได้อย่างสมจริง รถยนต์วินเทจที่เคยครองถนนกรุงโซลเมื่อปี 1988 จะกลับมาสร้างความตื่นตาตื่นใจในฉากแอคชั่นซิ่งรถสุดมันเหมือนที่เราได้เห็นกันภาพยนตร์ฮอลลีวูดจำนวนมาก

# Track 3: ส่วนผสมที่ลงตัวของชาวแก๊งซังกเยดงซูพรีมทีม!

ภาพยนตร์แอคชั่นเรื่อง Seoul Vibe: ซิ่งทะลุโซล (Seoul Vibe) ถ่ายทอดโดยเหล่านักซิ่งและนักแต่งรถสุดเฟี้ยวที่เปี่ยมด้วยความฝันและมีดนตรีในหัวใจ พวกเขารวมตัวกันภายใต้ชื่อแก๊ง “ซังกเยดงซูพรีมทีม”

  • ยูอาอิน รับบทเป็น ดงอุค มือขับระดับพระกาฬที่เป็นหัวโจกของแก๊ง เขามองว่าตัวละครนี้แปลกใหม่และมีเสน่ห์ จนเขาเองรู้สึก “ได้แรงบันดาลใจอย่างมาก” ที่จะพลิกโฉมตัวเองมารับบทนี้ “ดงอุคเป็นคนที่มีความฝันที่ยิ่งใหญ่ และเป็นเสียงที่พูดแทนวัยรุ่นในยุคนั้นได้เลยครับ” ในขณะที่ผู้กำกับมุนฮยอนซองกล่าวว่า “ผมนึกภาพดงอุคที่ไม่ใช่ยูอาอินไม่ออกเลยครับ มันวิเศษมากๆ ที่ได้ร่วมงานกับเขา”
  • โกคยองพโย ซึ่งรับบทเป็น จอห์น อู นักศึกษาบัณฑิตวิทยาลัยที่ผันตัวมาเป็นดีเจประจำแก๊งที่รับหน้าที่เป็นสายลับสอดแนมให้ทีม ระบุว่าเขารู้สึกยินดีที่ได้มารับบทในภาพยนตร์ที่มีฉากหลังเป็นยุคเดียวกันกับผลงานเรื่องก่อนหน้า แต่มีเสน่ห์ในแบบที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง “ปี 1988 ใน Seoul Vibe: ซิ่งทะลุโซล (Seoul Vibe) ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นอีกโลกที่แตกต่างจากในเรื่อง วันวาน 1988 (Reply 1988) เลยครับ”
  • อีคยูฮยอง รับบทเป็น บกนัม คนขับรถแท็กซี่ที่เชี่ยวชาญประหนึ่งระบบนำทาง รู้จักทุกซอกทุกมุมของกรุงโซล
    อีคยูฮยองนับเป็นนักแสดงที่มีผลงานหลากหลาย ประสบความสำเร็จทั้งในผลงานมิวสิคัล ละครเวที ละครโทรทัศน์ และภาพยนตร์ อีคยูฮยองได้ใส่ทั้งเสน่ห์และอารมณ์ขันอันเป็นเอกลักษณ์ให้กับตัวละครในภาพยนตร์เรื่องนี้อีกด้วย
  • พัคจูฮยอน รับบทเป็น ยุนฮี นักบิดสาวสุดเก่งกาจ เธอเป็นสมาชิกแก๊งที่โดดเด่นที่สุดด้วยเสน่ห์อันแสนเป็นธรรมชาติ ทั้งในแง่ของหน้าตาและนิสัย ผู้กำกับมุนฮยอนซองกล่าวว่าเขามั่นใจในตัวเธอ โดยระบุว่า “บุคลิกของพัคจูฮยอนเข้ากับตัวละครได้ดีมากจนแทบไม่ต้องเพิ่มหรือลดอะไรมากเลยครับ”
  • องซองอู รับบทเป็น จุนกี นักดัดแปลงรถมือดีประจำแก๊ง องซองอูเริ่มก้าวเข้าสู่การเป็นนักแสดงและสร้างผลงานที่น่าประทับใจออกมาอย่างต่อเนื่อง เขารู้สึกตื่นเต้นกับบทบาทของตนเองในเรื่องนี้ โดยกล่าวว่า “เป็นโอกาสที่ดีมากเลยครับที่ผมจะได้แสดงพลังและด้านที่สนุกสนานของผมในตัวละครที่ฮิปๆ และมีมิติแบบนี้” ในฐานะวัยรุ่นคนหนึ่ง องซองอูหลงใหลทั้งเพลงฮิปฮอป แฟชั่นเรโทร และสเก็ตบอร์ด ด้วยความรู้สึกเหล่านี้เอง เขาจึงอินไปกับองค์ประกอบรอบๆ ตัว และพัฒนาตัวละครของเขาขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ “ผมคิดว่าการสนุกไปกับการแสดงและปล่อยไปตามอารมณ์ จะทำให้จุนกีเป็นตัวละครที่ลึกและมีมิติมากขึ้นครับ” เขากล่าว

ทั้งเสียงเพลง รถยนต์คลาสสิก ฉากซิ่งรถ และแฟชั่นของ Seoul Vibe: ซิ่งทะลุโซล (Seoul Vibe) จะพาเราย้อนกลับไปสู่ยุคของเหล่าวัยรุ่นฮิปสเตอร์เกาหลีในปี 1988 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ยุคใหม่

เตรียมออกซิ่งไปกับภาพยนตร์แอคชั่นแนวแข่งรถที่มันระเบิดและมากับสไตล์สุดจ๊าบกับ Seoul Vibe: ซิ่งทะลุโซล (Seoul Vibe) พรีเมียร์พร้อมกันทั่วโลก 26 สิงหาคมนี้ที่ Netflix เท่านั้น

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...